หัวใจวายในโรงเรียน "ครู-นร." ช่วยเหลือเบื้องต้นได้
ที่มา : เว็บไซต์เดลินิวส์อออนไลน์
แฟ้มภาพ
สำนักการแพทย์ โดยศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) และสำนักการศึกษา เปิดโครงการ กทม.อาสา ฝ่าวิกฤต ช่วยชีวิตด้วย CPR & AED เน้นถ่ายทอดความรู้สู่การปฏิบัติแบบเสมือนจริงแก่ครูและบุคลากรทางศึกษา หวังเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วยในสถานที่ฉุกเฉินต่างๆ
พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ กทม.อาสา ฝ่าวิกฤต ช่วยชีวิตด้วย CPR & AED โดยศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) และสำนักการศึกษา เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเพิ่มพูนความรู้ และพัฒนาศักยภาพในการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินเบื้องต้นแก่ครู และบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดสำนักการศึกษา เพื่อฝึกทักษะการปฏิบัติที่ถูกต้อง ในเรื่องการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน CPR
โดยการอบรมดังกล่าว จะมีการสอนปั๊มหัวใจด้วยวิธีการกดหน้าอก และการใช้เครื่องช่วยกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือ AED เน้นการฝึกปฏิบัติแบบเสมือนจริง ตามแนวคิดในการพัฒนาระบบการแพทย์ฉุกเฉินในเรื่อง Public AED ทำให้ผู้เจ็บป่วยที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นได้รับความช่วยเหลืออย่างถูกต้องรวดเร็วยิ่งขึ้น จะส่งผลให้ผู้ป่วยรอดชีวิตได้และถือเป็นการปฏิรูปการเรียนการสอนด้านทักษะชีวิต ให้กับประชาชนอีกทางหนึ่งด้วย โดยจัดการอบรมให้ความรู้แก่ครู และบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดสำนักการศึกษา จำนวน 218 คน เป็นการพัฒนาบุคลากรต้นแบบที่เริ่มต้นจากการพัฒนาครูผู้สอนจากโรงเรียนในสังกัดสำนักการศึกษา 109 แห่ง ไปสู่นักเรียนกว่า 13,000 คน ซึ่งถือเป็นการปฏิรูปกระบวนการทางการศึกษา ที่มุ่งเน้นการปฏิบัติและใช้อุปกรณ์ฝึกปฏิบัติที่เสมือนจริง เพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเอง และนำความรู้ที่ได้รับนั้นไปใช้ประโยชน์ช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป
สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน พบผู้ที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่บ้าน ที่ทำงาน หรือตามที่สาธารณะต่างๆ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ในแต่ละปีมีคนไทยหัวใจวาย เฉลี่ยปีละ 36,000 ราย และผู้ป่วยประมาณครึ่งหนึ่งเสียชีวิตก่อนถึงโรงพยาบาล เนื่องจากผู้ป่วยเหล่านี้ไม่ได้รับการช่วยเหลือโดยการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) อย่างถูกต้องเหมาะสม และทันท่วงที ในประเทศที่มีการพัฒนาทางการแพทย์ฉุกเฉินที่ก้าวหน้าแล้ว จะมีการรณรงค์ให้ประชาชนผู้พบเหตุการณ์ สามารถนำเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator : AED) ไปช่วยเหลือผู้ป่วย ณ จุดเกิดเหตุ ให้รอดพ้นจากการเสียชีวิต สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ
สำหรับในประเทศไทยนั้น หลายหน่วยงานได้นำเครื่องช่วยกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ (AED) ไปติดตั้งในที่สาธารณะต่างๆ เช่น สนามบิน สวนสาธารณะ สถานีรถไฟฟ้า และสถานีขนส่ง เป็นต้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้ผู้ที่มีความรู้ ความสามารถนำไปใช้ในการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยที่เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น แต่เนื่องด้วยประชาชนทั่วไป ยังไม่มีความรู้และความสามารถในการใช้งานเครื่องมือดังกล่าว จึงยังไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าใดนัก