หวั่นกลุ่มเพศที่สามเปลี่ยนคู่นอนผ่านเน็ตเสี่ยงติดเอดส์

 

พบ“ทอม-ดี้-เลสเบี้ยน-เกย์ “เสพติด โซเชียลเน็ตเวิร์ค-โทรศัพท์มือถือ หาคู่นอน หวั่นส่งผลต่อพฤติกรรมการเปลี่ยนคู่นอน เสี่ยงติดเอดส์ แนะใช้ประโยชน์ในเชิงบวก

รศ.ดร.พิมพวัลย์ บุญมงคล รองคณบดีคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลในฐานะหัวหน้านักวิจัย นำเสนอผลการศึกษา เรื่อง “การใช้โทรศัพท์มือถือ อินเตอร์เน็ต และพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ hivในกลุ่มเยาวชนไทย” ภายในการสัมมนาระดับชาติ เรื่อง โรคเอดส์ ครั้งที่ 13 จัดขึ้นที่อิมแพ็ค คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ปัจจุบันความชุกขอบการติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มเยาวชน จึงมีความจำเป็นต้องสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยทางด้านสังคม วัฒนธรรม และพฤติกรรม รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร ซึ่งส่งผลต่อเพศวิถีและเพศภาวะของเยาวชนไทยอย่างชัดเจน

ซึ่งจากการที่ทีมนักวิจัยได้ทำศึกษากลุ่มเยาวชน 5 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. ชายรักต่างเพศ 2. หญิงรักต่างเพศ 3. ผู้หญิงข้ามเพศ (tg) 4. ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย(msm) และ 5. หญิงรักหญิง กลุ่มละประมาณ 15 คน จำนวนทั้งสิ้น 75 คน ระหว่างเดือน ธ.ค. 2553 – ก.พ. 2554 เพื่อให้เข้าใจลักษณะเฉพาะของแต่ละกลุ่ม จากนั้นทำการเปรียบเทียบและศึกษาผลที่มีต่อพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ จากการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ต

รศ.ดร.พิมพวัลย์ กล่าวอีกว่า ผลการศึกษา แบ่งเป็น 8 ข้อ พบว่า 1. การใช้อินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยเฉพาะกลุ่มโทรศัพท์ประเภทสมาร์ทโฟน (smartphone) ที่สามารถเชื่อมโยงกับอินเตอร์เน็ตได้กำลังเป็นที่นิยม กลุ่มเยาวชน 2. การใช้เทคโนโลยีเชื่อมโยงกับเพศวิถีของเยาวชนทุกกลุ่ม 3. การใช้อินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ขยายวงเพื่อน คู่นอนและคู่รักของเยาวชนไทย 4. ชนชั้นส่งผลต่อรูแบบการใช้เทคโนโลยีและเพศวิถีอย่างชัดเจน 5. รูปแบบการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ในกลุ่มเอ็มเอสเอ็ม มีค่านิยมของการใช้เทคโนโลยีล่าสุด อย่างเช่น การแช็ตผ่าน สมาร์ทโฟน อาทิ แบล็คเบอร์รี่ (บีบี) ไอโฟน ในการหาคู่รักและคู่นอน พร้อมทั้งสร้างภาพลักษณ์ให้กับตนเอง โดยในกลุ่มนี้โลกออนไลน์และออฟไลน์เชื่อมโยงกันจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ

รศ.ดร.พิมพวัลย์ กล่าวอีกว่า 6. ในกลุ่มหญิงรักหญิงและเอ็มเอสเอ็ม พบการใช้สื่อเหล่านี้ในลักษณะของการเสพติด คือ ใช้ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอน จะต้องถือบีบีหรือไอโฟนอยู่ในมือตลอดเวลา 7. ในทุกกลุ่มพบว่าเว็บไซต์เครือข่ายทางสังคมเป็นรูปแบบสื่อสารที่สำคัญ

รศ.ดร.พิมพวัลย์ กล่าวว่า 8. กลุ่มผู้หญิงข้ามเพศ ใช้สมาร์ทโฟนสำหรับติดต่อเพื่อนๆที่เป็นกลุ่มเดียวกันเป็นหลัก ไม่ใช่ในการติดต่อคู่นอน ในส่วนที่พบว่ากลุ่มเอ็มเอสเอ็มใช้บีบีหรือไอโฟนในการหาคู่รักหรือคู่นอน ได้ผลการศึกษานี้จากการที่ติดตามเข้าไปตรวจสอบข้อความในบีบีของผู้ที่เข้าร่วมวิจัยเป็นเวลา 10 วัน จึงทำให้ทราบว่ากลุ่มนี้จะใช้แอ๊บบลิเคชั่น บนบีบี ที่ชื่อว่า ไกด์เดอร์ ในการหาคู่นอนหรือคู่รัก ซึ่งแอ๊บบลิเคชั่นนี้จะขึ้นรูปและข้อมูลของบุคคลว่าอยู่ห่างจากตัวเราระยะทางกี่กิโลเมตร จากนั้นจะมีการพูดคุยระหว่างกัน ไปหากันและเริ่มต้นความสัมพันธ์

“การสื่อสารเช่นนี้เป็นช่องทางหาคู่นอนแบบฉาบฉวย ง่ายและแต่ถ้าไม่มีการป้องกันที่ดี เช่น ไม่สวมถุงยางอนามัย ก็เสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี เพราะการคิดว่าคู่ในสื่อออนไลน์เป็นเรื่องที่ไม่จีรัง จึงมีการเปลี่ยนคู่ไปเรื่อยๆ โอกาสพลาดจะมีเยอะ ดังนั้นอยากให้ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งอินเทอร์เน็ตและมือถือในเชิงบวกจะดีกว่า” รศ.ดร.พิมพวัลย์ กล่าว

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์astv ผู้จัดการ

Shares:
QR Code :
QR Code