หยุดสูบบุหรี่ต้องมุ่งมั่น เพื่อปอด เพื่อคนที่เรารัก

ที่มา : จดหมายข่าวชุมชนคนรักสุขภาพ ฉบับสร้างสุข ประจำเดือนพฤษภาคม 2564


ภาพประกอบจาก สสส.


หยุดสูบบุหรี่ต้องมุ่งมั่น เพื่อปอด เพื่อคนที่เรารัก thaihealth


การระบาดของโควิด-19 มีแนวโน้มยืดเยื้อ ดังนั้นการรักษาสุขภาพโดยเฉพาะงดสูบบุหรี่เพื่อลดความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยทางองค์การอนามัยโลก ระบุว่าผู้ที่สูบบุหรี่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 ได้ง่าย และอาจเกิดอาการรุนแรงถ้าเกิดเจ็บป่วยด้วยโรคโควิด-19


วารสาร American Journal of Preventive Medicine ฉบับเดือนเมษายน 2564 รายงานผลการติดตามผู้สูบบุหรี่ 2,008 คน ระหว่างปี 2542-2543 และ ปี 2556-2557 พบว่า คนสูบบุหรี่มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตก่อนเวลาเพิ่มสูงขึ้น ไมว่าจะสูบน้อยหรือมาก และยิ่งสูบมาก ก็ยิ่งเพิ่มอัตราเสี่ยงมากขึ้น เช่น คนที่ไม่ได้สูบทุกวัน มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 50% ส่วนคนที่สูบวันละมากกว่า 40 มวน เสี่ยงเพิ่ม 178%  ส่วนในคนที่สูบทุกวัน ความเสี่ยงเสียชีวิตเพิ่มขึ้นตามจำนวนมวนของบุหรี่ที่สูบต่อวัน


รายงานนี้ ยืนยันว่า การเลิกสูบบุหรี่อย่างเด็ดขาดเท่านั้นจึงจะลดความเสี่ยงจากการเสียชีวิตจากโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ลงได้


ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่ดูเหมือนว่ายังไม่จบลงง่าย ๆ เราต้องดูแลรักษาสุขภาพเพื่อรับมือศึกที่ยืดเยื้อยาวนานครั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า กลุ่มประชากรที่สูบบุหรี่จะต้องรับมือกับความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิดได้ง่าย และอาจเกิดอาการรุนแรงกว่าคนกลุ่มอื่น


“Commit to Quit” ที่หมายถึง “มุ่งมั่นที่จะเลิกสูบ” เป็นคำขวัญของวันงดสูบบุหรี่โลกปีนี้ ซึ่งตอกย้ำความจำเป็นในการลดปัจจัยเสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยงการติดโควิด-19 รวมถึงผลกระทบทางสุขภาพจากโรคต่าง ๆ


WHO ยังได้เผยแพร่เอกสารที่ระบุ “เหตุผลมากกว่า 100 ข้อ ที่ควรจะเลิกสูบบุหรี่” (More than 100 reasons to quit tobacco) ซึ่งหากมากกว่า 100 เหตุผลที่ควรเลิกสูบบุหรี่ ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เลิกสูบบุหรี่ เหตุผลใหม่ที่ควรจะเลิกในปีนี้ คือ “คนสูบบุหรี่มีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเกิดโรคโควิด-19 รุนแรงและเสียชีวิต” โดยสารพิษจากควันบุหรี่ทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง ทำให้ผู้สูบบุหรี่เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินหายใจ วัณโรค รวมถึงโควิด-19


ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ยืดเยื้อมากเข้าสู่ปีที่ 2 พบว่าชาวอังกฤษสามารถเลิกบุหรี่ได้ถึง 1 ล้านคน หลังจากทราบว่า การสูบบุหรี่เป็นความเสี่ยงกับปอดมากแค่ไหน สำหรับประเทศไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2560 รายงานว่ายังมีคนไทย 10.7 ล้านคน สูบบุหรี่ ในจำนวนนี้ กลุ่มคนที่สูบบุหรี่น้อย คือ สูบไม่ถึง 10 มวนต่อวัน หรือไม่ได้สูบทุกวัน มีอยู่ประมาณ 7 ล้านคน ซึ่งผู้สูบบุหรี่ที่ไม่ได้สูบมากนี้สามารถที่จะเลิกสูบได้โดยไม่ต้องใช้ยาช่วย และหากพยายามเลิกด้วยตนเองไม่สำเร็จ สามารถจะขอคำปรึกษาวิธีเลิกได้ที่สายด่วนเลิกบุหรี่ โทร 1600 หรือปรึกษาโรงพยาบาลทุกแห่ง ก็จะมีโอกาสเลิกสูบบุหรี่ได้


สาเหตุที่เราต้องเลิกสูบบุหรี่นั้น ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ปอดเป็นอวัยวะภายในชนิดเดียวที่ติดต่อกับสิ่งแวดล้อมภายนอกตลอดเวลา จากการหายใจเอาอากาศเพื่อนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย พร้อมขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นก๊าซเสียออกจากร่างกาย หากมีสิ่งแปลกปลอม หรือมีเชื้อโรคล่องลอยอยู่ในอากาศ ก็จะถูกลมหายใจพาเข้าสู่ปอดด้วย


WHO ได้ประกาศว่า เชื้อโควิด-19 สามารถล่องลอยในอากาศเป็นเวลาหลายชั่วโมง หากอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทไม่ดี หรือในห้องปรับอากาศ คนที่เป็นโควิด-19 หากไอ จาม พูดหรือตะโกนเสียงดัง เชื้อโควิด-19 ก็จะล่องลอยอยู่ในอากาศในบริเวณนั้นด้วย ทำให้ง่ายต่อการแพร่เชื้อไวรัส


รายงานจากหลายประเทศสรุปตรงกันว่า คนที่สูบบุหรี่เสี่ยงที่จะป่วยเป็นโควิดรุนแรงและเสียชีวิต โดยสหรัฐอเมริกา พบว่า วัยรุ่นที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น 5-7 เท่า และยังมีงานวิจัยพบว่า บุหรี่ไฟฟ้าทำอันตรายต่อเซลล์บุทางเดินหายใจ ทำให้เม็ดเลือดขาวสู้กับเชื้อโรคได้น้อยลง ทำให้ขนเล็ก บนผิวเซลล์ที่โบกขจัดของเสียทำงานลดลง โควิด-19 จึงจู่โจมและทำอันตรายจนปอดบวม


การเลิกสูบบุหรี่ เป็นการต่อสู้กับฤทธิ์ของสารเสพติด แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือ การต่อสู้กับจิตใจตนเองที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่คุ้นเคย ให้ได้รับอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ปอดและร่างกายที่แข็งแรงมากกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อโลกเต็มไปด้วยภาวะวิกฤตทางสุขภาพ การเตรียมร่างกายให้พร้อมจึงเป็นทางที่จะเอาชนะและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขได้ เลิกบุหรี่ เลิกได้ตั้งแต่ตอนนี้ แค่เพียงมุ่งมั่น

Shares:
QR Code :
QR Code