หยุดยุงลาย ด้วย 3-เก็บ-ป้องกัน-3-โรค

ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์


หยุดยุงลาย ด้วย 3-เก็บ-ป้องกัน-3-โรค thaihealth


แฟ้มภาพ


สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น แจ้งเตือนพี่น้องประชาชนชน ให้ดูแลสุขภาพอนามัย ให้แข็งแรง เร่งทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย  เพื่อป้องกันและหยุดการระบาดของโรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย ด้วยมาตรการ “3-เก็บ-ป้องกัน-3-โรค” โดยเครือข่ายทุกภาคส่วน


นายแพทย์สมชายโชติ  ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ยุงลายสามารถแพร่พันธุ์ได้ทุกฤดูกาลโดยเฉพาะช่วงหน้าฝน จึงทำให้มีประชากรยุงเพิ่มมากขึ้น เกิดการแพร่กระจายของโรคต่างๆ หากไม่ระวังอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้เลือดออก เชื้อไวรัสซิกา และไข้ปวดข้อยุงลายได้มากที่สุด โดยโรคไข้เลือดออกเกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี แพร่เชื้อโดยยุงลายไปกัดคนป่วยไข้เลือดออก โดยเชื้อจะพักตัวในยุงลาย และเมื่อกัดคน จะสามารถถ่ายทอดเชื้อจากต่อมน้ำลายไปสู่คนปกติ ซึ่งหลังจากได้รับเชื้อแล้ว 5 -8 วัน จะมีอาการ ไข้สูงลอย ปวดเมื่อย เบื่ออาหาร อาจมีผื่นขึ้นตามลำตัว จึงต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาตามอาการ โรคติดเชื้อไวรัสซิกา หรือ ไข้ซิกา เป็นอีกหนึ่งโรคที่มียุงลายเป็นพาหะ แม้จะยังไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถหายได้เองภายใน 7 วัน กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสซิกามากที่สุดคือ กลุ่มสตรีตั้งครรภ์ ซึ่งหาก ติดเชื้อแล้วจะทำให้ทารกในครรภ์ได้รับอันตราย ทำให้เด็กมีศีรษะเล็กกว่าปกติ สมองเล็ก แคระแกร็น พัฒนาการช้า ด้วยเหตุนี้องค์การอนามัยโลกจึงประกาศให้การระบาดของไวรัสซิกา เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ดังนั้นหญิงตั้งครรภ์ไม่ควรเดินทาง   ไปในประเทศที่มีการระบาดของโรค และหากเป็นประชากร ในประเทศที่มีการระบาด ต้องให้ชะลอการตั้งครรภ์ออกไปก่อน หากหญิงตั้งครรภ์มีอาการไข้ ผื่นขึ้น ตาแดง ปวดเมื่อยตามตัว ปวดข้อ ต้องรีบ  พบแพทย์ เพื่อทำการเจาะเลือดตรวจหาเชื้อ และที่สำคัญคือหากมีการระบาดอย่างรุนแรงในพื้นที่โดยไม่มีการร่วมมือกันกำจัดแหล่งเพาะพันธ์ลูกน้ำยุงลายในชุมชนอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดการระบาดของโรคไปสู่วงกว้างต่อไปได้ ในส่วนของประเทศไทย ไวรัสซิกาสามารถพบได้ใน     ทุกภาคของประเทศไทย โดยพบรอยโรคมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 และพบผู้ป่วยรายแรกเมื่อปี พ.ศ. 2555 หลังจากนั้นมาพบผู้ป่วยเฉลี่ยปีละ  2-5 ราย ซึ่งผู้ป่วยทุกรายหายได้เอง และยังไม่เคยมีรายงานการติดเชื้อไวรัสซิกาในหญิงตั้งครรภ์จนทำให้เด็กเกิดความพิการของเด็กทารกดังกล่าว และกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้ โรคติดเชื้อไวรัสซิกา เป็นหนึ่งในโรคติดต่อที่ต้องแจ้งความ สำหรับจังหวัดขอนแก่นพบผู้ป่วยในบางพื้นที่แต่ไม่พบการระบาด และไม่พบเด็กศีรษะเล็กกว่าปกติ ส่วนโรคไข้ปวดข้อยุงลายเป็นอีกโรคหนึ่งที่มียุงลายเป็นพาหะนำโรค เกิดจาก  เชื้อไวรัสชิคุนกุนยา แพร่เชื้อโดยยุงลายสวนและยุงลายบ้านที่มีเชื้อและไปกัดคน หลังจากได้รับเชื้อแล้วจะใช้เวลา 2-3 วัน จึงจะมีอาการป่วย  โดยลักษณะอาการคล้ายไข้เลือดออก แต่จะปวดตามข้อจากอวัยวะหนึ่งไปยังอวัยวะหนึ่ง เช่น จากข้อมือ ไปข้อเท้า เลื่อนปวดไปทั้งตัวจนทำงานไม่ได้ระยะเวลานาน


นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าวต่อไปว่าจังหวัดขอนแก่น ได้มีแนวทางปฏิบัติในการควบคุมและป้องกันทั้งสามโรคดังกล่าว คือ เน้นย้ำบุคลากรทางการแพทย์ทั้งในสถานพยาบาลภาครัฐและเอกชน ให้วินิจฉัยโรคให้ชัดเจน และพิจารณารับไว้เป็นผู้ป่วยในตามเกณฑ์ สื่อสารกับคลินิก ร้านขายยา หากพบผู้ป่วยมีอาการที่ต้องสงสัย ให้ส่งไปรับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลทันที จัดตั้งทีมตระหนักรู้สถานการณ์โรค รวมถึงการเปิดศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุข อีกทั้งมีการจัดกิจกรรมรณรงค์กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในสถานที่สำคัญ เช่น สถานที่ราชการ โรงเรียน วัด อย่างต่อเนื่องในฤดูฝน หรือช่วงการระบาดของโรค ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดขอนแก่น ร่วมมือร่วมใจป้องกันโรคไข้เลือดออก ด้วยมาตรการ “3-เก็บ-ป้องกัน-3-โรค” คือ 1.เก็บบ้านให้สะอาด โปร่ง โล่ง ไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่อยู่อาศัยของยุงลาย 2.เก็บขยะรอบบ้าน โดยทำต่อเนื่องสัปดาห์ละครั้ง เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย 3.เก็บน้ำ สำรวจภาชนะใส่น้ำ ต้องปิดฝาให้มิดชิดเพื่อป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ หากมีอาการป่วยหรือพบเห็นผู้มีอาการสงสัยในช่วงการระบาด ให้ปรึกษาแพทย์ในสถานพยาบาลใกล้บ้านทันที   หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422 หรือ สำนักโรคติดต่อทั่วไป โทร.02-590-3177-8

Shares:
QR Code :
QR Code