ชี้! เล็กแหลมชั่วคราวแถมเสี่ยงแหบ
นพ.ชลทิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการผ่าตัดเปลี่ยนเสียงจากชายเป็นหญิง ตามหลักทางการแพทย์ถือว่ายังอยู่ระหว่างการทดลองและศึกษาวิจัยแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ จึงยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานการรักษาของแพทย์ เนื่องจากผลจากการผ่าตัดยังได้ผลที่ไม่แน่นอน แพทย์ยังไม่สามารถปรับความถี่ของเส้นเสียงให้เป็นไปตามที่ต้องการได้ หรือบางรายพบว่า เมื่อผ่าตัดแล้วเสียงแหบ หรือเกิดโรคแทรกซ้อน การผ่าตัดเปลี่ยนเสียงจึงถือเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก และมักเกิดข้อผิดพลาดเยอะ สำหรับสาวประเภท 2 ที่อยากมีเสียงเล็กแหลมเหมือนผู้หญิงแพทย์จะไม่แนะนำให้ผ่าตัดเปลี่ยนเสียงจากชายเป็นหญิง เพราะมีความเสี่ยงสูง และผลการรักษาไม่แน่นอนตามที่กล่าวไปข้างต้น ดังนั้น การที่สถานพยาบาลหลายแห่งผ่าตัดเปลี่ยนเสียงจากชายเป็นหญิงโดยมิได้เป็นการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการของเส้นเสียงทำให้เสียงแหบหรือไม่มีเสียงถือเป็นความสมยอมระหว่างแพทย์กับคนไข้
นพ.ชลทิศ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม มีสถานพยาบาลเปิดให้บริการผ่าตัดเส้นเสียง ซึ่งมีหลายวิธี เช่น การผ่าตัดโดยการเย็บให้เส้นเสียงให้ตึงขึ้น จะทำให้เสียงสูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยและเสียงสูงชั่วคราวเท่านั้น เพราะในระยะยาว ไหมที่เย็บอาจคลายตัวได้ หรือมีการยืดตัวของสายเสียง สุดท้ายเสียงก็จะกลับมาทุ้มขึ้นอีก หรือการเหลาลูกกระเดือกให้มนขึ้น แต่วิธีนี้ก็ไม่มีผลเปลี่ยนเสียงได้ เพราะลูกกระเดือกเป็นส่วนหนึ่งของกล่องเสียงที่มีลักษณะคล้ายกับลำโพงขยายเสียง ซึ่งผู้ชายจะมีลูกกระเดือกใหญ่กว่าผู้หญิง และทำให้เกิดเสียงดัง ทุ่ม ห้าวกว่าผู้หญิง แต่การเหลากระเดือกมีผลในเชิงรูปลักษณะภายนอกเท่านั้น และอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างอื่นตามมาด้วย เช่น บวม หายใจไม่ออก แพทย์ต้องช่วยด้วยการเจาะคอเพื่อให้หายใจได้สะดวก
ด้านนายนที ธีระโรจนพงษ์ ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทย กล่าวว่า ขณะนี้การผ่าตัดเปลี่ยนเสียงจากผู้ชายเป็นผู้หญิงกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งเริ่มบูมตั้งแต่น้องตุ้ม ปริญญา เกียรติบุษบา อดีตนักมวยชื่อดัง ที่ผ่าตัด เปลี่ยนเพศ และผ่าตัดกล่องเสียง เพราะน้องตุ้มถือเป็น ดาราดัง เป็นไอดอลของเด็กๆ ที่เป็นกระเทย แต่หลังจากที่มีการผ่าตัดเปลี่ยนเสียงแล้วสังเกตพบว่า น้องตุ้มพูดไปกลืนน้ำลายไป จังหวะการพูดก็สะดุดไม่ราบเรียบ เสียงหลบใน พูดได้ไม่เต็มเสียง ทำให้เสียบุคคลิกภาพ ดังนั้น ขอแนะนำว่า ให้ฝึกพูดเสียงเล็ก ละมุนละไม ฝึกไปเรื่อยๆ จะมีเสียงเล็กเป็นธรรมชาติเอง นอกจากนี้ยังห่วงเรื่องการฉีดผิวให้เป็นสีชมพูที่นิยมกันอย่างมาก ซึ่งอาจเกิดผลเสียต่อสุขภาพมาก อาจเป็นมะเร็ง เป็นต้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน
update 20-04-52