หมอประกิตจี้รัฐปรับขึ้นภาษีบุหรี่

ปรับภาษีตามปริมาณ    

หมอประกิตจี้รัฐปรับขึ้นภาษีบุหรี่

          ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวถึงกรณีเดินหน้าขึ้นภาษีเหล้าและบุหรี่ว่า ขณะนี้ภาษีสรรพสามิตบุหรี่หน้าโรงงาน และนำเข้าอยู่ที่ร้อยละ 85 ตามกฎหมายเปิดช่องให้ขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่ได้ถึงร้อยละ 90 เดิมประเทศไทยเคยขึ้นภาษีบุหรี่มาแล้วจากร้อยละ 80 เป็นร้อยละ 85 พอมีการขึ้นภาษีบุหรี่สูงขึ้น ทางบริษัทผู้ผลิตบุหรี่ก็แก้เกมด้วยการผลิตบุหรี่ตัวใหม่หรือนำเข้าบุหรี่จากประเทศเพื่อนบ้านราคาถูกมาจำหน่าย เพื่อที่จะได้เสียภาษีน้อยลง ทำให้การรณรงค์ให้คนสูบบุหรี่น้อยลงไม่เป็นผล หากรัฐบาลไม่ปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ ก็จะทำให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงบุหรี่ได้ง่ายขึ้น

 

          ศ.นพ.ประกิต กล่าวต่อว่า ถ้ารัฐบาลจะขึ้นภาษีบุหรี่ กรมสรรพสามิตควรจะปรับภาษีตามปริมาณ คือ ให้คิดตามจำนวนมวน เช่น 20 มวน ก็ 20 บาท ไม่ว่านำเข้าหรือผลิตในประเทศ จากนั้นบวกภาษีหน้าโรงงานอีกที ซึ่งขณะนี้หลายประเทศไม่ว่าจะเป็นสหภาพยุโรป หรือ อียู ก็ล้วนแต่คิดภาษีบุหรี่ลักษณะนี้ หากจะปรับขึ้นภาษีบุหรี่จากร้อยละ 85 เป็นร้อยละ 90 แต่ไม่แก้โครงสร้างภาษีใหม่ ทางบริษัทบุหรี่ก็จะหาช่องทางผลิตบุหรี่ราคาถูกออกมาจำหน่ายเหมือนเดิม

 

          ศ.นพ.ประกิต กล่าวต่อว่า นอกจากนี้กรณียาเส้นก็ยังเป็นปัญหามาก เพราะมีการเก็บภาษีอัตราถูกมาก ไม่ถึงร้อยละ 1 ทั้งที่คนต่างจังหวัดสูบยาเส้นกันมาก 5 บาท สูบได้เป็นสัปดาห์ คำเตือนก็ไม่มี แถมพากันมองว่าอันตรายจากยาเส้นไม่เท่าบุหรี่มวน ในปัจจุบันพบว่าจำนวนคนสูบบุหรี่ 11 ล้านคน สูบยาเส้นกว่า 5 ล้านคนที่เหลืออีกกว่า 5 ล้านคนสูบบุหรี่มวน ปัจจุบันพบว่ามีโรงงานขนาดเล็กนับพันแห่งผลิตยาเส้นออกจำหน่าย แต่การขึ้นภาษียาเส้นคงทำได้ยาก เพราะต้องไปแก้ไขกฎหมาย เนื่องจากติดปัญหา พ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ. 2509 ที่ระบุว่าบุหรี่พันธุ์พื้นเมืองไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งเรื่องขึ้นภาษีบุหรี่คงต้องไปถามนโยบายจาก รมว.คลัง ว่ามีนโยบายอย่างไร และดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ตนพูดเรื่องนี้มาหลายครั้งจนไม่อยากจะพูดแล้ว แต่เรื่องขึ้นภาษียาเส้นคงต้องใช้เวลา เพราะต้องปรับโครงสร้างภาษีใหม่

 

  

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

 

 

Update : 27-08-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : คีตฌาณ์ ลอยเลิศ

Shares:
QR Code :
QR Code