หมอชี้หน้าหนาวระวัง “โรคพิษสุนัขบ้า”

พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น

 

หมอชี้หน้าหนาวระวัง “โรคพิษสุนัขบ้า”          

        น.พ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยเกี่ยวกับสถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าว่า จากการประเมินในปี 2552 นี้พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคนี้เพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2551 ตั้งแต่เดือนมกราคม 2552 จนถึงขณะนี้ทั่วประเทศพบผู้ป่วย 24 รายใน 10 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี 4 ราย ราชบุรี 2 ราย สุพรรณบุรี 2 ราย ระยอง 2 ราย นนทบุรี ปราจีนบุรี สมุทรสาคร ตาก จังหวัดละ 1 ราย กรุงเทพมหานคร 7 ราย สงขลา 3 ราย เนื่องจากไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันหลังถูกกัด ในขณะที่ปี 2551 มีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า 9 ราย

 

           น.พ.ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังมีประชาชนบางส่วนเข้าใจผิดว่าโรคพิษสุนัขบ้าจะเกิดในฤดูร้อนเท่านั้น แท้จริงแล้วพบได้ทุกฤดูกาล โดยเฉพาะในฤดูหนาวจัดเป็นฤดูกาลแพร่โรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ เนื่องจากเป็นฤดูผสมพันธุ์ของสุนัขในช่วงเดือนพฤศจิกายน โดยสุนัขตัวผู้จะได้รับเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจากการต่อสู้แย่งชิงตัวเมีย เชื้อจะออกมาทางน้ำลาย และติดต่อสู่คนโดยการกัด ข่วน หรือเลีย คนติดเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าจะแสดงอาการป่วยประมาณ 4 วันจนถึง 3-4 ปีก็ได้ แต่ส่วนใหญ่ไม่เกิน 1 ปี และจะเสียชีวิตทุกราย เพราะโรคนี้ไม่มียารักษา ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศเผยแพร่ความรู้โรคพิษสุนัขบ้าให้ประชาชนทราบเพื่อป้องกันการเสียชีวิต

 

           ทางด้าน น.พ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคติดต่อจากสัตว์มาสู่คนที่มีความรุนแรงมาก อาการโรคนี้คือมีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว คันบริเวณรอยแผลที่ถูกสัตว์กัด อาการคันลามไปที่อื่น ต่อมาจะหงุดหงิด น้ำลายไหลมาก กล้ามเนื้อคอกระตุกเกร็ง บางรายอาจมีอาการแขนขาอ่อนแรง มักป่วยประมาณ 2-6 วัน และเสียชีวิตทุกราย การป้องกันที่ได้ผลที่สุดคือเลี้ยงสุนัขอย่างรับผิดชอบ นำสุนัขที่เลี้ยงทุกตัวไปรับการฉีดวัคซีน ลดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการถูกสุนัขกัด โดยอย่าแหย่ อย่าเหยียบ อย่าหยิบจับ อย่ายุ่ง อย่าหยอก กับสุนัขแปลกหน้า หากถูกกัดให้กักสุนัขไว้เพื่อสังเกตอาการ รีบล้างแผลใส่ยา และพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนจนครบ

 

           โดยมีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเฉลี่ยปีละกว่า 400,000 ราย อย่างไรก็ตาม สุนัขทุกวัยมีโอกาสเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ในลูกสุนัขจะได้รับเชื้อมาจากแม่ขณะเลียปากลูก สุนัขที่เป็นโรคนี้ จะมีอาการทั้งชนิดซึมและชนิดดุร้าย ชนิดซึมสุนัขมักจะหลบซุกตัวในมุมมืด ถ้าถูกรบกวนอาจจะกัด บางตัวอาจมีอาการคล้ายมีกระดูกติดคอ ส่วนชนิดดุร้าย สุนัขจะมีอาการทางประสาท กระวนกระวาย หงุดหงิด ดุร้าย กัดทุกสิ่งที่ขวางหน้า ในระยะสุดท้ายสุนัขจะมีขากรรไกรแข็ง ปากอ้า ลิ้นห้อย น้ำลายไหล วิ่งไม่มีจุดหมาย เป็นอัมพาต และตายในที่สุด ทั้งนี้ ขณะนี้วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในคนมีความปลอดภัยสูง ฉีดเพียง 5 เข็ม และไม่ต้องฉีดทุกวัน อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าก็คือการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้แก่สุนัข โดยเริ่มฉีดครั้งแรกเมื่อสุนัขอายุตั้งแต่ 2 เดือน และฉีดซ้ำทุกปี หากโดนกัดขอให้รีบล้างแผลด้วยน้ำกับสบู่หลายๆ ครั้ง ล้างให้ลึกถึงก้นแผล ใส่ยาฆ่าเชื้อ เช่น ทิงเจอร์ไอโอดีน แอลกอฮอล์ แล้วรีบพาไปพบแพทย์โดยเร็ว

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

 

 

 

update: 05-01-53

อัพเดทเนื้อหาโดย:กิตติยา  ธนกาลมารวย

 

Shares:
QR Code :
QR Code