“หนึ่งเสียงเพื่อผู้หญิง” รางวัลแห่งกำลังใจ
สนับสนุนการยุติความรุนแรง สร้างกระแสสังคมให้ตื่นตัว
เป็นที่น่ายินดีสำหรับผู้ที่ได้รับรางวัล “หนึ่งเสียงเพื่อผู้หญิง” และ “กำลังใจเพื่อผู้หญิง” โดยครั้งนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นจาก พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จฯ เป็นองค์ประธาน ในการประทานรางวัล
พิธีมอบรางวัล “หนึ่งเสียงเพื่อผู้หญิง” และ “กำลังใจเพื่อผู้หญิง” จัดมอบขึ้นเพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติ เสริมสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงานเพื่อตนเองและสังคมให้กับบุคคล องค์กรที่มีส่วนสำคัญในการรณรงค์และสนับสนุนการยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง รวมทั้งสร้างกระแสสังคมให้ตื่นตัวในการหันมาร่วมกันรณรงค์อย่างเป็นรูปแบบมากขึ้น โดยในการตัดสินรางวัลในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน โดยที่ได้ให้เกียรติมาเป็นคณะกรรมการ ประกอบด้วย ผู้แทนจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กองทุนการพัฒนาเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเฟม) และเครือข่ายผู้หญิง ร่วมเป็นคณะกรรมการพิจารณาตัดสินผลงานของบุคคล/องค์กรฯ โดยแบ่งเป็น 7 ประเภท ได้แก่
ประเภทที่หนึ่ง เป็นรางวัลเกียรติยศ “กำลังใจเพื่อผู้หญิง” ประเภทที่สองคือรางวัล “หนึ่งเสียงเพื่อผู้หญิง” ประเภทเยาวชน ส่วนประเภทที่สาม เป็นรางวัล “หนึ่งเสียงเพื่อผู้หญิง” ประเภทบุคคลทั่วไป ประเภทที่สี่รางวัล “หนึ่งเสียงเพื่อผู้หญิง” ประเภทองค์กร ประเภทที่ห้ารางวัล “หนึ่งเสียงเพื่อผู้หญิง” ประเภททีมงาน ประเภทที่หกรางวัล “กำลังใจเพื่อผู้หญิง” ประเภทสื่อมวลชน ประเภทสุดท้ายคือรางวัล ผู้สนับสนุน โครงการ “หนึ่งเสียงหยุดความรุนแรงต่อผู้หญิง”
นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ประธานคณะกรรมการโครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เล่าว่า นับเป็นพระกรุณาธิคุณอันล้นพ้นเมื่อ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงรับเป็นองค์ “ทูตสันถวไมตรี” ให้กับกองทุนการพัฒนาเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเฟม) ในโครงการ “say no to violence against women” ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดคือการรณรงค์เรื่องความตระหนักและไม่เพิกเฉยต่อความรุนแรง และต้องรณรงค์ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ไม่ใช่เฉพาะแค่วันยุติความรุนแรงในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาเท่านั้น นอกจากนี้หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ยังได้รวมพลังขับเคลื่อนในกิจกรรมรณรงค์ตามแนวทางเพื่อส่งเสริมให้สังคมไทยเป็นสังคมที่ไม่กระทำรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็ก
“ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่ควรใช้ความรุนแรงต่อกัน หลายเรื่องเป็นเรื่องของทัศนคติ ขนบธรรมเนียม ประเพณี แม้จะเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ผู้หญิงยังต้องพึ่งพาผู้ชายหรืออยู่ในสังคมที่มีผู้ชายเป็นใหญ่ ก็ยากที่จะทวงสิทธิหรือได้รับความคุ้มครอง อยากให้ทุกคนเห็นความสำคัญเรื่องความรุนแรงไม่ว่าจะเป็นกับผู้หญิงหรือเด็ก ร่วมกันช่วยแสดงทัศนคติที่ชัดเจนว่าเราไม่เห็นด้วยและจะไม่เพิกเฉยกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นอีกต่อไป” นายกิตติพงษ์กล่าว
ด้านนาย
“โครงการนี้ทำให้เรามองเห็นความสำคัญของเพศหญิงที่เปรียบเสมือนเพศแม่มากขึ้น ซึ่งบางครั้งเราอาจจะหลงลืมไปกับความไม่เท่าเทียมกันระหว่างเพศ ซึ่งจริงๆแล้วผู้หญิงอาจจะมีความอดทนกว่าผู้ชายด้วยซ้ำ ไม่อยากให้สังคมมองความเชื่อแบบเก่าๆ อยากให้มองไปที่ความเท่าเทียมกันมากกว่า” นายอภิชาติกล่าว
นางสาว
“การเป็นหนึ่งเสียงเพื่อผู้หญิง เป็นได้ไม่ยาก คุณก็สามารถเป็นหนึ่งเสียงเพื่อผู้หญิงได้ เริ่มที่ครอบครัวหรือสังคมที่คุณอาศัย ผู้หญิงที่โดนทำร้ายกำลังรอความช่วยเหลือของสังคมอยู่ อย่านิ่งเฉย เข้าไปช่วยเธอเหล่านั้นสิค่ะ เริ่มวันนี้ยังไม่สาย” นางสาว
ทุกๆ รางวัลล้วนแล้วแต่มีความหมายและความสำคัญสำหรับผู้ที่ได้รับ แม้บางครั้งการทำความดีก็ไม่หวังผลตอบแทน แต่รางวัลก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สร้างขวัญและกำลังใจให้กับคนทำงานได้อย่างแท้จริง
เรื่องโดย : วีรญาน์ จันทร์นวล , รัศมี ศรคำ team content www.thaihealth.or.th
update 16-12-51