สื่อเลิกบุหรี่ยังไม่โดนใจประชาชน
น่ายินดีกับผลสำรวจที่พบว่า อัตราการสูบบุหรี่ของคนไทยลดลงตามลำดับ หลังจากที่มีการรณรงค์ลด ละ เลิก การสูบบุหรี่อย่างจริงจัง โดยเฉพาะหน่วยงานหลักอย่าง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่เป็นแม่งานในการดำเนินงาน จนสามารถลดอัตราการสูบบุหรี่ในปี 2534 ซึ่งมีประมาณ 12.2 ล้านคน ให้เหลือประมาณ 11 ล้านคนได้ในปี 2554
อย่างไรก็ตาม ปัญหาหนึ่งที่ สสส.ตระหนักมาโดยตลอดก็คือ อัตราการสูบบุหรี่ในชนบท เพราะเมื่อแบ่งเขตเทศบาลและเขตชนบทออกจากกันพบว่า ปี 2554 เขตเทศบาลมีอัตราการสูบบุหรี่ประมาณ 3.5 ล้านคน ส่วนเขตชนบทสูงถึง 8.9 ล้านคน
ชี้ชัดว่าการแก้ปัญหาการสูบบุหรี่ยังเข้าไม่ถึงพื้นที่ชนบท ซึ่ง ผศ.ลักขณา เติมศิริกุล ชัย อาจารย์ประจำคณะสาธารณสุขศาสตร์ ม.มหิดล อธิบายว่า เป็นเพราะคนชนบทส่วนใหญ่สูบยาเส้นมวนเอง ซึ่งมาตรการทางภาษีใช้กับยาเส้นไม่ได้ผล การเก็บภาษีเป็นไปได้ยาก เห็นควรว่าจะต้องปรับปรุงเรื่องภาษีเป็นอย่างแรก ต่อมาคือมาตรการทางกฎหมายของไทยยังอ่อน โดยเฉพาะแดนไกลปืนเที่ยงอย่างชนบทยิ่งอ่อนแอ อย่างสูบในสถานที่ห้ามสูบ ซึ่งผิดกฎหมายแต่ก็ไม่มีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจัง
"การรณรงค์ลดละเลิกบุหรี่ยังเป็นการทำงานจากส่วนกลาง คิดโดยคนส่วนกลาง สื่อโฆษณาต่าง ๆ ที่รณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่ อย่างเช่นโฆษณาที่คนสูบบุหรี่ออกมาพูดออกมาเตือนเด็กว่าสูบบุหรี่ไม่ดี เป็นอันตราย แล้วเด็กให้แผ่นกระดาษที่เขียนว่าห่วงหนูทำไมไม่ห่วงตัวเอง โฆษณาประเภทนี้อาจจะโมเดิร์นใน กทม.ในเขตเมือง แต่ไม่โดนใจคนชนบท สังเกตได้เลยจากอัตราการสูบบุหรี่พบว่า กทม.ต่ำที่สุด รองลงมาเป็นภาคกลาง อีสาน เหนือ และใต้ ตามลำดับ"
ผศ.ลักขณา กล่าวว่า ต้องให้เฉพาะองค์การ บริหารส่วนตำบล (อบต.) ทำงานรณรงค์ เพราะเขาจะเข้าใจบริบทในพื้นที่มากกว่าส่วนกลางที่ทำโดยภาพรวม รวมไปถึงเรื่องการรักษาด้วยจะต้องกระจายลงไปยังชนบทมากขึ้น อย่างคลินิกอด บุหรี่หากตั้งอยู่ที่โรงพยาบาลจังหวัดหรือโรงพยาบาลชุมชน ก็ลำบากเวลาเดินทาง เพราะการอดบุหรี่จำเป็นต้องใช้เวลาในการรักษา ต้องเดินทางไปบ่อยครั้ง หากนำคลินิกมาตั้งที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลก็จะช่วยให้สะดวกยิ่งขึ้น
สิ่งเหล่านี้คือภาพสะท้อนจากทางฝ่ายวิชาการที่กระตุกเตือนไปถึง สสส. ตัวแม่ในการรณรงค์เลิกบุหรี่ ที่เรียกว่าต้องปรับกลยุทธ์การทำงานครั้งใหญ่ หากจะต้องสู้ชนกับบุหรี่
ปัญหาการเลิกบุหรี่ในชนบท สสส.จะรุกบทบาทใหม่ เมื่อเร็ว ๆ นี้ สสส.เพิ่งลงนาม MOU ร่วมแก้ปัญหายาสูบในพื้นที่กับ อปท. 58 แห่ง เพื่อสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ โดยให้ชุมชนเป็นผู้ทำงานแก้ปัญหาบุหรี่ในพื้นที่เอง ซึ่ง น.ส.ดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผอ.สำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน สสส. เปิดเผยว่า การให้ชุมชนแก้ปัญหาบุหรี่เป็นแนวทางสำคัญที่ช่วยแก้ปัญหาบุหรี่ในพื้นที่ชนบทได้ ซึ่งบทบาทของ สสส.คือจะต้องช่วยให้ชุมชนรู้จักตัวเองว่าพื้นที่นี้ใครเป็นผู้สูบ มีลีลาการสูบอย่างไร บ้านไหนสูบ มีกี่ครัวเรือน จากนั้นให้เขาลองจัดกลุ่มทำโครงการดูว่าจะเริ่มแก้ปัญหาสูบบุหรี่ในกลุ่มไหนก่อน เช่น บางพื้นที่อาจแก้ปัญหาที่ผู้สูงอายุก่อน หรือทำกับครอบครัวที่มีลูกเล็กก่อน เป็นต้น
"จากนั้น 1 ปีจะสรุปว่าชุมชนใดลดบุหรี่ได้สามารถนำยุทธศาสตร์มาปรับใช้ในระดับประเทศหรือพื้นที่ต่อไป" ขอเพียงแต่ชุมชนต้องสร้างความเชื่อมั่นให้ตัวเองว่าสามารถทำได้
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต