สาธารณสุขกาญจนบุรี แนะประชาชนดูแลสุขภาพในช่วงฤดูฝน

ที่มา : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ 


สาธารณสุขกาญจนบุรี แนะประชาชนดูแลสุขภาพในช่วงฤดูฝน thaihealth


แฟ้มภาพ


สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี แนะประชาชนดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันโรคและภัยสุขภาพในช่วงฤดูฝน ได้แก่ โรคติดต่อทางระบบหายใจ โรคติดต่อที่มียุงเป็นพาหะ โรคติดต่อทางอาหารและน้ำ โรคติดต่ออื่นๆ และภัยสุขภาพ ได้แก่ อุทกภัย อันตรายจากสัตว์มีพิษ เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง ภัยจากฟ้าผ่า และอุบัติเหตุทางถนน เป็นต้น


นพ.พนัส โสภณพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นช่วงฤดูฝน มีฝนตกชุกทั่วไป และบางพื้นที่อาจมีฝนตกหนักได้ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคหลายชนิดซึ่งสามารถแพร่ระบาดได้ง่ายและรวดเร็ว จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคทางระบาดวิทยา 10 อันดับแรกของจังหวัดกาญจนบุรี พบโรคอุจจาระร่วงมากที่สุด รองลงมาคือ ปอดบวม ไข้ไม่ทราบสาเหตุ ตาแดง อาหารเป็นพิษ ไข้หวัดใหญ่อีสุกอีใส โรคจากเพศสัมพันธ์ และไข้เลือดออก (อัตรา 845.77, 138.41, 105.35, 72.5, 68.5, 35.54, 22.13, 20.83, 20.48 และ 4.59 ต่อประชากรแสนคน ตามลำดับ)


สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี จึงขอแนะนำประชาชนให้ป้องกันโรคที่มักเกิดในฤดูฝน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง โรคและภัยสุขภาพที่สำคัญในช่วงนี้ ได้แก่ กลุ่มโรคติดต่อทางระบบหายใจ ที่พบบ่อยคือ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ คออักเสบ หลอดลมอักเสบ และปอดบวม ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียในอากาศ ติดต่อกันง่ายทางการไอจาม อาการที่สังเกตได้คือ มีไข้สูง หายใจเร็ว หรือเหนื่อยหอบ นพ.พนัส กล่าวต่อไปว่า ขอแนะนำประชาชนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โดย กินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือ แต่หากป่วยแล้วต้องปฏิบัติ 4 พฤติกรรมสำคัญ คือ ใช้หน้ากากอนามัยปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม-ล้างมือบ่อยๆ -เลี่ยงการสัมผัสคลุกคลีกับผู้ป่วย -ควรหยุดงาน หยุดโรงเรียนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่และป้องกันโรคแทรกซ้อนคือปอดบวม กลุ่มโรคที่มียุงเป็นพาหะ ได้แก่ โรคไข้เลือดออก ไข้สมองอักเสบ โรคมาลาเรีย โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคไข้ออกผื่น


การป้องกันโดยป้องกันยุงกัด ขจัดลูกน้ำ และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุง ด้วยมาตรการ 5 ส 3 เก็บ คือ เก็บบ้านให้ปลอดโปร่ง เก็บขยะ เศษภาชนะไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และเก็บน้ำ ปิดให้มิดชิดหรือเปลี่ยนถ่ายน้ำทุกสัปดาห์ ใช้ยาทากันยุงหรือนอนในมุ้ง เป็นต้น กลุ่มโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ ได้แก่ โรคอหิวาตกโรค ไวรัสตับอักเสบเอ โรคติดต่ออื่นๆ เช่น โรคมือเท้าปาก เป็นโรคที่พบบ่อยในเด็ก มักระบาดในช่วงหน้าฝนหรือช่วงเปิดเทอม ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ที่ไม่รุนแรง พบปะปรายตลอดทั้งปี แต่พบมากตั้งแต่ฤดูฝนถึงฤดูหนาว ติดต่อโดยการสัมผัสน้ำมูก น้ำลาย หรืออุจจาระของผู้ป่วยโดยตรงและทางอ้อม เช่น ผ่านของเล่น มือผู้เลี้ยงดูเด็ก โรคนี้จึงมักระบาดในโรงเรียนอนุบาลหรือสถานรับเลี้ยงเด็ก ควรหมั่นทำความสะอาดของเล่นและดูแลสิ่งแวดล้อมให้สะอาด สอนเด็กให้ใช้ช้อนกลาง และล้างมือบ่อยๆ


หากมีเด็กป่วยให้หยุด 1 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ หากป่วยหลายรายควรพิจารณาปิดชั้นเรียน ถ้าระบาดในหลายชั้นเรียน ควรปิดโรคเรียนทำความสะอาดเพื่อหยุดการระบาดของโรคสำหรับภัยสุขภาพอื่นๆ ให้ระวังอันตรายจากสัตว์มีพิษ เช่น งู ตะขาบ แมงป่อง รวมทั้งระวังภัยจากฟ้าผ่า และอุบัติเหตุทางถนน เนื่องจากฝนตกอาจทำให้ถนนลื่น และทัศนะวิสัยในการขับขี่ไม่ดี ผู้ใช้รถใช้ถนนจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้ร่วมทาง“ในการป้องกันโรคในฤดูฝน ขอให้ประชาชนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอเพื่อสร้างภูมิต้านทานโรค


หากเปียกฝนขอให้อาบน้ำ สระผม เช็ดให้แห้ง และสวมเสื้อผ้าที่แห้ง ล้างมือล้างเท้าให้สะอาดหลังลุยน้ำย่ำโคลน หรือสวมรองเท้าบู๊ท หลีกเลี่ยงการเดินในพื้นที่ชื้นแฉะ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการเลี้ยงสัตว์เพื่อป้องกันโรคฉี่หนู อย่าให้ยุงกัดโดยนอนในมุ้งหรือทายากันยุง ทำลายลูกน้ำยุงตามภาชนะเก็บกักน้ำในบ้านและรอบบ้าน ตัดตอนไม่ให้ลูกน้ำกลายเป็นตัวยุง ทายากันยุง เช่น โลชั่นตะไคร้หอม เพื่อป้องกันยุงกัด หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ที่เป็นไข้หวัด ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ และดูแลบ้านเรือนให้สะอาด ไม่ให้เป็นที่อาศัยของสัตว์นำโรคและสัตว์มีพิษที่หนีน้ำมาอาศัยในบ้าน ที่สำคัญขอให้ยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” จะป้องกันโรคติดต่อได้หลายโรค

Shares:
QR Code :
QR Code