สังคมก้มหน้า ที่มาของปวดต้นคอและศีรษะ
ที่มา : เว็บไซต์แนวหน้า
แฟ้มภาพ
สังคมทุกวันนี้ คงหลีกหนีไม่พ้น เรื่องของการใช้โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก เพราะว่า สะดวก สบาย และรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการขายของออนไลน์ ช็อปปิ้งซื้อสินค้า การค้นคว้าหาข้อมูล เล่นเกมส์ ดูการ์ตูน หรือแอพพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งล้วนให้สาระ ความรู้และความบันเทิงในสังคมยุคปัจจุบัน
จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า การใช้คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เนต และโทรศัพท์มือถือของประชากรอายุ 6 ปีขึ้นไป ประมาณ 63.3ล้านคน พบว่า มีผู้ใช้คอมพิวเตอร์17.9 ล้านคน ผู้ใช้อินเตอร์เนต 36.0 ล้านคน และผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ 56.7 ล้านคน ส่วนกิจกรรมที่ใช้ส่วนใหญ่ใช้ SocialNetwork ร้อยละ 94.1 รองลงมาคือ ใช้ในการดาวน์โหลด รูปภาพ/หนัง/วีดีโอ/เพลง/เกม เล่นเกม ดูหนังฟังเพลง วิทยุ ร้อยละ 89.3 ใช้ในการอัพโหลดข้อมูล รูปภาพ/ภาพถ่าย วีดีโอเพลง Software ฯลฯ เพื่อการแบ่งปัน (share) บนเว็บไซต์ ร้อยละ 57.0 และค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการ ร้อยละ 45.2 ซึ่งสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าประชาชนใช้สายตาเพ่งข้อมูลอยู่ตลอดเวลา เฉลี่ยวันละ 7.2 ชั่วโมง ส่งผลให้กลายมาเป็นสังคมก้มหน้า
สังคมก้มหน้า ทุกวันนี้ เป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญอยู่และหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารเข้ามามีบทบาทอย่างมาก หากเราใช้โซเชียลอย่างถูกวิธีย่อมจะก่อให้เกิดผลดี และผิดวิธีย่อมเกิดผลเสีย
นายแพทย์สมบูรณ์ ทศบวรผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี แพทย์เชี่ยวชาญด้านอาชีวเวชศาสตร์ (occupational medicine) และดูแลสุขภาพของคนทำงานไม่ว่าจะเป็น กายภาพ และสรีระ เปิดเผยว่า จากการนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์วันละ8 ชั่วโมง จะส่งผลให้กล้ามเนื้อต้นคอ สะบัก เมื่อย เกร็งตลอดเวลา กระบังลมขยายไม่เต็มที่ สมองได้รับออกซิเจนน้อยลง ทำให้เกิดอาการง่วง หากมีอาการเครียดร่วมด้วยจะส่งผลรุนแรงตามมา
สำหรับแนวทางการใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ และแท็บเลต จากการใช้งาน อาทิ การใช้เฟชบุ๊คไลน์ วอทแอพ และวีแซต ฯลฯ อย่างถูกวิธี คือ 1.ควรมีการพักสายตาโดยการเปลี่ยนอิริยาบถต่างๆ พักเบรกยืดเส้นยืดสายระหว่างการใช้โซเชียล 2.ลุกขึ้นเดินไปมา3.ควรนั่งเล่นในสถานที่มีแสงสว่างเพียงพอ และอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป 4.ต้องหาที่นั่งเล่นที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และสบายตัว
จากการศึกษาในต่างประเทศในเรื่องของการพักผ่อนพบว่า การนั่งบนเก้าอี้หนังปรับนอนในเวลา 15 นาทีจะช่วยลดบรรเทาอาการเมื่อยล้าต่างๆ หากมีอาการไมเกรน ควรใช้เวลานั่งพักผ่อน ประมาณ 1-2 ชั่วโมง อาการดังกล่าวจะดีขึ้น ทั้งนี้ การเลือกเก้าอี้หนังปรับนอนที่เหมาะกับการใช้โซเชียลต่างๆ จึงควรตระหนักถึงในเรื่องการใช้งานนั้นๆ และสามารถช่วยดูแลในเรื่องของสุขภาพอย่างไรเป็นสิ่งสำคัญ
การที่เราใช้โซเชียลในการสื่อสารมากขึ้นเท่าใด ย่อมส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศชาติเราคนไทยทุกคนควรพร้อมใจกันเดินหน้าเข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างชาญฉลาด เพื่อไม่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ ร่างกายของเราตามมา และหากมีความจำเป็นต้องใช้โซเชียลในการทำงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราควรมองหาตัวช่วยที่ดี ดูแลสุขภาพของเราต่อไป เพื่อให้ทันต่อยุคสมัยไทยแลนด์ 4.0