สสส.สร้างพลังเด็กราชวิถีผ่านกิจกรรมเรียนรู้ชุมชน’บ้านพุงหลวง’
ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คณะครูและอาสาสมัครผู้ดูแลเยาวชน มูลนิธิสุขภาพไทย นำทีมเยาวชนจากสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี 20 ชีวิต เดินทางลงพื้นที่ชุมชน หมู่ 4 โรงเรียนบ้านค้างปินใจ และชุมชน หมู่ 15 ต.แม่พุงหลวง อ.วังชิ้น จ.แพร่ เพื่อทำกิจกรรมศึกษาธรรมชาติแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ด้านการดูแลสุขภาพและการดำรงชีวิตในชนบท ภายใต้แนวทางการทดลองศึกษาวิธีการเรียนรู้พัฒนาศักยภาพของเยาวชน และอาสาสมัครบ้านราชวิถี ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมมองโลกในแง่ดี และสร้างศักยภาพ เพื่อให้เยาวชนกลับไปอยู่ในสังคมได้อย่างปลอดภัย
กิจกรรมแรกของโครงการ เริ่มต้นจากการนำเด็กๆ เข้าร่วมวงละลายพฤติกรรมกับกลุ่มเยาวชนโรงเรียนค้างปินใจ เพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกัน โดยมีเยาวชนกลุ่มอนุรักษ์รถจักรยานยนต์โบราณ พีเจซี วังชิ้น, กลุ่มเยาวชนคนต้นน้ำสร้อย, เครือข่ายหมอพื้นบ้าน จ.แพร่ และพระยงยุทธทีปโก เจ้าอาวาสวัดปางงุ้น ผู้ได้รับรางวัลประเภทบุคคลอนุรักษ์ป่าของสถาบันลูกโลกสีเขียวปี 2552 ร่วมให้แง่คิดการอนุรักษ์ธรรมชาติและแนวทางการศึกษาป่า
จากนั้นลุงแหว หล้าวัน หมอพื้นบ้านในชุมชน นำเยาวชนลงพื้นที่ป่าท้ายหมู่บ้าน หรือ “ป่าเลี้ยงผีของหมู่บ้าน” ซึ่งมีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมหนาแน่น ก่อนเดินป่าไปตามเส้นทางสู่ห้วยแม่พุงหลวง เพื่อศึกษาด้านยาสมุนไพรหลากหลายชนิด เช่น ต้นม้ากระทืบโรง ต้นมะเขือแจ้ ที่ใช้เป็นยาต้มบำรุงกำลัง ต้นหัวยาข้าวเย็นเหนือ รวมถึงผักพื้นบ้านกว่า 100 ชนิด ที่ถูกอนุรักษ์ไว้ตามโครงการ “ปลูกยารักษาป่า” ต่อมากลุ่มเด็กเมืองมีโอกาสร่วม ถอนกล้า ดำนา ที่ผืนนาขั้นบันไดของชาวบ้าน ท่ามกลางบรรยากาศสนุกสนาน
แม้เหน็ดเหนื่อยแต่ทั้งสองกลุ่มสามารถร่วมกิจกรรมกันได้อย่างราบรื่น ช่วยเหลือเอื้ออาทรตลอดกิจกรรม สิ่งที่เด็กเมืองต่างประทับใจคือ กระบวนการผลิตข้าว อาหารหลักที่รับประทานกันทุกมื้อ และ การลำเลียงน้ำจากลำห้วยแม่พุงพุงเข้าสู่นา เพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าวโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องสูบน้ำ ตามาจากการทำฝายชั่วคราวกั้นน้ำลำห้วย ซึ่งชาวบ้านช่วยกันขุดลำเหมืองให้น้ำไหลจากที่สูงสู่ที่ต่ำ ทำให้ผืนนาทุกแปลงผ่านการวัดระดับน้ำไหลลดหลั่นกันในระดับที่เหมาะสม
หลังขึ้นจากนา เด็กเมืองและเด็กทุ่งมุ่งสู่โรงเรียนบ้านค้างปินใจ เพื่อทำกิจกรรมแปรรูป สมุนไพรที่เก็บจากป่าชุมชนมาผลิตยาสระผม น้ำยาล้างจาน น้ำกลั่นสมุนไพร และอาหารด้วยความตื่นเต้นและภูมิใจ ทำให้เด็กเรียนรู้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ต้นไม้ ป่าไม้ ที่สำคัญยังสร้างทรรศนะใหม่ในการมองโลกในแง่ดีและสร้างสรรค์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งพึ่งพาตนเองด้วย
นางกาญจนา ทองคำ รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านค้างปินใจ “โรงเรียนใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง มาพัฒนาทุกสาระวิชา โดยเน้นภูมิปัญญาหมอพื้นบ้าน แตกความรู้ให้นักเรียนศึกษาและปฏิบัติจริง การเรียนรู้จากกิจกรรมของเด็กๆ บ้านราชวิถี เป็นเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงคือ ให้หมอพื้นบ้านเป็นครูนำเข้าสู่บทเรียน โดยการเดินป่าดูสมุนไพรและนำมาใช้ วิธีการทำนาและระบบน้ำที่สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่าง ป่าไม้ น้ำ และการทำนา ซึ่งจะช่วยส่งเสริมกระบวนคิดในเชิงสร้างสรรค์มองโลกในแง่ดีแก่เด็กๆ”
นางพัชรา กลางสาทร นักจิตวิทยาชำนาญการ สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี เนื่องจากปีที่ผ่านมา พบปัญหาการท้องไม่พร้อมและการทำแท้งจำนวนมาก ทำให้เด็กๆ จำนวนมากต้องเสียชีวิต และขาดผู้ปกครอง ต้องเข้ามาสู่สถานสงเคราะห์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) และมูลนิธิสุขภาพไทย ทำโครงการเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ กำลังใจ และความมั่นใจให้เยาวชนผ่านกระบวนการ จนสามารถมีความพร้อมเข้าไปอยู่ในสังคมได้อย่างเหมาะสม และพัฒนาศักยภาพของเยาวชน โดยเป็นโครงการนำร่อง ถ้าได้ผลดีก็ต้องต่อ ยอดและพัฒนาต่อไป
เรื่อง: สมโรจน์ สำราญชลารักษ์
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน