สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายสุขภาพพระสงฆ์ พัฒนาวัดและพระสงฆ์นักสาธารณสงเคราะห์ ช่วยเหลือชุมชน

ที่มา : สำนักข่าวสร้างสุข


ภาพประกอบจาก สสส.


สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายสุขภาพพระสงฆ์ พัฒนาวัดและพระสงฆ์นักสาธารณสงเคราะห์ ช่วยเหลือชุมชน thaihealth


สสส. จับมือภาคีเครือข่ายสุขภาพพระสงฆ์ หนุนมติมหาเถรสมาคม ชูแนวคิด ‘สงเคราะห์ เกื้อกูล พัฒนา บูรณาการ’ สร้างแกนนำพระสงฆ์นักสาธารณะสงเคราะห์ มุ่งพัฒนากาย-จิต-ปัญญา-สังคม พัฒนาวัดต้นแบบสาธารณสงเคราะห์ 40 แห่งทั่วประเทศ ในปี 2565


เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะประธานฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ กล่าวในพิธีเปิดโครงการพระสงฆ์สาธารณสงเคราะห์เสริมสร้างสังคมสุขภาวะว่า มหาเถรสมาคม ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา และภาคีเครือข่าย จัดโครงการพระสงฆ์สาธารณสงเคราะห์เสริมสร้างสังคมสุขภาวะ ภายใต้แนวคิด “สงเคราะห์ เกื้อกูล พัฒนา บูรณาการ” เพื่อสนับสนุนให้วัดและพระสงฆ์มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยในช่วงวิกฤต ซึ่งเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานตาม มติมหาเถรสมาคม เมื่อเดือนตุลาคม 2564 กำหนดให้วัดเป็นสถานสาธารณสงเคราะห์ของชุมชนในช่วงวิกฤต พร้อมสนับสนุนให้พระสงฆ์เป็นแกนนำด้านสาธารณสงเคราะห์ เพื่อให้วัดและพระสงฆ์ มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยในช่วงวิกฤต ซึ่งที่ผ่านมาคนไทยประสบปัญหาทั้งวิกฤตโควิด-19 และวิกฤตน้ำท่วมที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนไทยทั่วประเทศ


สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายสุขภาพพระสงฆ์ พัฒนาวัดและพระสงฆ์นักสาธารณสงเคราะห์ ช่วยเหลือชุมชน thaihealth


“การดำเนินโครงการพระสงฆ์สาธารณสงเคราะห์เสริมสร้างสังคมสุขภาวะ จะจัดตั้งคณะทำงาน 6 ด้าน ได้แก่ 1.การปกครอง 2.การศึกษา 3.การศึกษาสงเคราะห์ 4.เผยแผ่ 5.สาธารณูปการ และ 6.สาธารณสงเคราะห์ เพื่อสนับสนุนให้วัดเป็นสถานสาธารณสงเคราะห์ของชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ความต้องการในการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาทุกข์คนในชุมชนตรงจุด ซึ่งถือเป็นการทำงานที่มีความสำคัญต่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนา พร้อมยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย” สมเด็จพระมหาธีราจารย์ กล่าว


สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายสุขภาพพระสงฆ์ พัฒนาวัดและพระสงฆ์นักสาธารณสงเคราะห์ ช่วยเหลือชุมชน thaihealth


พระมงคลวชิรากร เลขานุการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ มหาเถรสมาคม กล่าวว่า การทำงานของพระสงฆ์นักสาธารณสงเคราะห์ มุ่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤตแบบเชิงรุก โดยเฉพาะการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง เช่น พระสงฆ์อาพาธ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก โดยพระสงฆ์นักสาธารณสงเคราะห์มีวิธีปฏิบัติตามพุทธบัญญัติ 4 ข้อ ดังนี้ 1.ศาสนธรรม มุ่งสอนประชาชนให้เป็นคนดีมีศีลธรรม ปฏิบัติธรรม เพื่อพ้นจากความทุกข์และปัญหา 2.ศาสนบุคคล พระสงฆ์เป็นผู้เผยแผ่และเป็นต้นแบบของการประพฤติปฏิบัติตามหลักพุทธศาสนา 3.สังคมสงเคราะห์ พัฒนากายและจิตใจ ภายใต้หลักพุทธธรรม และ 4.การพัฒนาสังคม พระสงฆ์เป็นผู้นำชุมชนทำให้วัดกลายเป็นศูนย์กลางของชุมชน และเกื้อกูลซึ่งกันและกัน


สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายสุขภาพพระสงฆ์ พัฒนาวัดและพระสงฆ์นักสาธารณสงเคราะห์ ช่วยเหลือชุมชน thaihealth


ที่ผ่านมา มหาเถรสมาคม ร่วมกับ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมาได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมกว่า 10 จังหวัด อาทิ จังหวัดนครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก โดยจัดตั้งโรงทานเพื่อประกอบอาหารมอบแด่พระภิกษุ สามเณร และมอบให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมมอบเครื่องอุปโภค บริโภค เช่น น้ำดื่ม ยาเวชภัณฑ์


สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายสุขภาพพระสงฆ์ พัฒนาวัดและพระสงฆ์นักสาธารณสงเคราะห์ ช่วยเหลือชุมชน thaihealth


สสส. ร่วมกับภาคีเครือข่ายสุขภาพพระสงฆ์ พัฒนาวัดและพระสงฆ์นักสาธารณสงเคราะห์ ช่วยเหลือชุมชน thaihealth


ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. มุ่งพัฒนาสุขภาวะองค์กรพระสงฆ์และชุมชน โดย สสส. ร่วมพัฒนาวัดให้เป็นศูนย์กลางสาธารณสงเคราะห์ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ชุมชน และสังคม พัฒนาขีดความสามารถของพระสงฆ์ในการเป็นผู้นำด้านงานสาธารณสงเคราะห์ ผลักดันให้พระสงฆ์มีบทบาทในการเผยแพร่ความรู้ด้านสุขภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนในชุมชนจนสามารถพึ่งพาตัวเองได้ รวมถึงการให้ความรู้ที่ถูกต้องตามหลักพระธรรมวินัยในการเป็นผู้อุปัฏฐากดูแลพระสงฆ์ที่อาพาธได้ ทั้งนี้ สสส. จะพัฒนาให้เกิดวัดต้นแบบการทำงานด้านสาธารณสงเคราะห์ทำงานเชิงรุกในช่วงวิกฤต 40 แห่งทั่วประเทศ ภายในปี 2565 เพื่อขยายผลการดำเนินการการพัฒนาให้วัดเป็นศูนย์กลางสร้างสังคมสุขภาวะที่ดีให้แก่ชุมชนทั่วประเทศ


ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจกิจกรรมสาธารณสงเคราะห์สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.สาธารณสงเคราะห์.com หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ ฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม

Shares:
QR Code :
QR Code