สสส. น้อมนำพระราชดำริฯ “หมู่บ้านเป็นสุขอย่างพอเพียง”
ที่มา: หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย
แนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ช่วยชาวบ้านพ้นทุกขภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ หลังจากเข้าร่วมโครงการหมู่บ้านเสร้างเสริมสุขภาพฯ สสส. สำนักเปิดรับทั่วไป พบกรณีตัวอย่างหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงดีเด่น ร่วมแสดงผลงานที่เป็นรูปธรรม อาทิ ข้าวฮาง (ข้าวกล้องงอก) ปุ๋ยอัดเม็ด น้ำสกัดชีวภาพ (น้ำส้มควันไม้) ถั่วงอกรักชาติ หญ้าแฝกกันดินทลาย ในงาน “หมู่บ้านเป็นสุขอย่างพอเพียง” วันที่ 7 – 8 เมษายน 2552 ณ สำนักพิพิธภัณฑ์และวัฒนธรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน
นพ.กำจร ตติยะกวี กรรมการบริหารแผนสนับสนุนโครงการเปิดรับทั่วไปและนวัตกรรม (สำนัก 6) สสส. กล่าวว่า โครงการหมู่บ้านสรร้างเสริมสุขภาพ ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง เริ่มต้นขึ้นในปี 2548 เพื่อกระตุ้นให้ชาวบ้านสามารถนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงในพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปใช้ในการดำเนินชีวิตในหมู่บ้าน ให้ชาวบ้านรู้จักพอเพียง และนำมาซึ่งความสุขอย่างยั่งยืน คนเราสุขได้ต้องทั้งกายและใจ ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี จิตใจก็ไม่ดี นำมาซึ่งการไม่มีความสุขทางกาย
การสนับสนุนของ สสส. เน้นหมู่บ้านที่ไกลปืนเที่ยง โดยมีชาวบ้านสนใจติดต่อเข้ามา 48 จังหวัดทั่วประเทศ รวม 130 โครงการ ส่วนในปีที่ 2 พบว่ามี 106 หมู่บ้านที่ประสบความสำเร็จ สามารถต่อยอดได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงเข้าไปพัฒนาชุมชนได้ นอกจากนี้ สสส. ได้สนับสนุนให้ชาวบ้านนำภูมิปัญญาท้องถิ่นกลับมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ในชุมชนดีขึ้นทั้งสุขภาพกายและใจ
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ การใช้เกษตรอินทรีย์ที่ไม่ต้องซื้อหาในราคาแพง และปลอดสารเคมี หลังจากที่สนับสนุนให้ชาวบ้านทำบัญชีครัวเรือน ก็พบว่ารายจ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าเคมีในการเกษตร ซึ่งไม่ค่อยได้ผล อีกทั้งยังทำให้ต้องเป็นหนี้สินจำนวนมาก ชาวบ้านก็มานั่งประชุมกัน แบ่งปันความรู้กัน นำเกษตรอินทรีย์มาใช้ ก็สามารถควบคุมรายจ่ายได้
“จาก 3 ปีที่ผ่านมา เราพบว่ามีหลายอย่างเป็นผลงานที่เหนือความคาดหมาย เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้น จากภูมิปัญญาของชาวบ้านเอง สิ่งที่ปรากฏชัดและเป็นความภูมิใจของชาวบ้านเป็นเรื่องฐานะทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ชาวบ้านยังสามารถมีรายได้ และมีความสุขได้ โดยไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ทั่วโลก อย่างกรณีบ้านบุกลาง อุบลราชธานี มีวิถีชีวิตเกษตรพึ่งตนเอง สามารถบริหารกองทุนจนมีเงินหมุนเวียนถึง 24 ล้านบาท” นพ.กำจร กล่าว
งานมหกรรม “หมู่บ้านเป็นสุข… อย่างพอเพียง” จัดให้มีขึ้นในวันที่ 7 – 8 เมษายน 2552 ณ สำนักพิพิธภัณฑ์และพัฒนาการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน นำเสนอกรณีตัวอย่างหมู่บ้านต้นแบบ 20 แห่ง ที่น้อมนำกระแสพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางสร้างเสริมสุขภาพ จนสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว
ภายในงานนอกจากจะนำเสนอการดำเนินโครงการอย่างเป็นรูปธรรมในการนำ “แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง” มาประยุกต์ใช้กับการสร้างเสริมสุขภาพในบริบทของชุมชนแล้ว ยังประกอบด้วยปาฐกถาจาก ศาสตราจารย์นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี พร้อมด้วยเวทีเสวนาและกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การแสดงออกกำลังด้วยดนตรีท้องถิ่น สาธิตการปั่นฝ้าย ผ้าย้อมสีธรรมชาติ การทำข้าวฮาง การเลี้ยงหมูหลุม การสาธิตเตาอีวาเตะ และน้ำส้มควันไม้ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีอาหารท้องถิ่น เช่น ขนมจีนน้ำยาเม็ดทานตะวัน จากบ้านทุ่งยาว จ.ลำพูน น้ำสมุนไพรต้มจากเตาพลังงานทางเลือก บ้านหนองข่อย จ.ลพบุรี ยำถั่วงอกรักชาติ บ้านหม้อ จ.ลพบุรี และข้าวเกรียบมันเทศ บ้านบุกลาง จ.อุบลราชธานี มาออกร้านให้ได้ชมได้ชิมกันอย่างเต็มอิ่ม
งาน “หมู่บ้านเป็นสุขอย่างพอเพียง” มีขึ้นในวันที่ 7 – 8 เมษายน 2552 ณ สำนักพิพิธภัณฑ์และวัฒนธรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมและร่วมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย