สสส.ชูโมเดลดูแลผู้สูงอายุยากไร้จับคู่ดูแลกัน

ที่มา : เดิลินิวส์


ภาพประกอบจาก สสส.


สสส.ชูโมเดลดูแลผู้สูงอายุยากไร้จับคู่ดูแลกัน thaihealth


ประเทศไทยเริ่มก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่มากขึ้น และคาดการณ์ว่าในอนาคตอีกไม่กี่ปี ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ สังคมผู้สูงอายุจะมากขึ้น แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหลังคือ การดูแลผู้สูงอายุ การเจ็บป่วย ที่ความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุหลาย ๆ คนในประเทศยังต้องการความช่วยเหลือ ทาง สสส. ได้ผุดโมเดลดูแลผู้สูงอายุยากไร้ พัฒนาต้นแบบกิจการเพื่อสังคม "Buddy Homecare" จับคู่ดูแลกันสร้างงานสร้างรายได้ให้เยาวชนขาดโอกาส ช่วยผู้สูงอายุได้รับการดูแล พร้อมโชว์ผลงานการออกแบบสภาพแวดล้อมและนวัตกรรมท้องถิ่นที่เอื้อต่อสุขภาวะผู้สูงอายุและคนพิการ


สสส.ชูโมเดลดูแลผู้สูงอายุยากไร้จับคู่ดูแลกัน thaihealth


นายพิทยา จินาวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารแผนคณะที่ 2 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการกำกับทิศทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ, คณะกรรมการกำกับทิศทางการขับเคลื่อนการสร้างเสริมสุขภาพคนพิการ และคณะกรรมการกำกับทิศทางการจัดสภาพแวดล้อมและพัฒนาบริการสาธารณะตามแนวคิดการออกแบบเพื่อทุกคน ได้เดินทางลงพื้นที่ ณ ชุมชนหนองหอย ตำบลหนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อศึกษาเรียนรู้สุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ "การสร้างเสริมสุขภาวะผู้สูงอายุ คนพิการ และการปรับสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน"


สสส.ชูโมเดลดูแลผู้สูงอายุยากไร้จับคู่ดูแลกัน thaihealth


นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส.  กล่าวว่า จากข้อมูลในปี 2561 พบว่า จ.เชียงใหม่ มีผู้สูงอายุประมาณ 316,847 คน คิดเป็นร้อยละ 18 ของประชากรทั้งจังหวัด และคาดว่ามีผู้สูงอายุกลุ่มติดบ้านและติดเตียงมากกว่า 50,000 คน ที่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด และยังพบว่าผู้สูงอายุเกือบครึ่งหนึ่งมีโรคเรื้อรังหรือโรคประจำตัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ดังนั้น สสส. จึงร่วมกับมูลนิธิพัฒนางานผู้สูงอายุ (มพส.) ดำเนิน "โครงการพัฒนาต้นแบบกิจการเพื่อสังคมบั๊ดดี้โฮมแคร์ ในการดูแลผู้สูงอายุ" (Buddy HomeCare) โดยพัฒนาผู้ดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพที่เป็นเยาวชนขาดโอกาสทางการศึกษา และให้บริการดูแลผู้สูงอายุแบบเสียค่าบริการให้บริการในพื้นที่นำร่องจำนวน 35 ชุมชน ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ แล้วนำผลกำไรมาตอบแทนสังคม โดยการดูแลผู้สูงอายุยากไร้ในชุมชนร่วมกับโครงการอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้านของมูลนิธิพัฒนางานผู้สูงอายุ


 "โครงการฯ นี้มุ่งเน้นเป้าหมายทางสังคม สิ่งแวดล้อมและการเงินไปพร้อม ๆ กันได้ โดยคัดเลือกเยาวชนกลุ่มชาติพันธุ์ ที่ขาดโอกาสทางการศึกษา เข้ารับการฝึกอบรมเป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุตามหลักสูตรผู้ดูแลผู้สูงอายุ 420 ชั่วโมง โดยความร่วมมือจากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ มีผู้ผ่านการอบรมแล้ว 30 คน สามารถประกอบอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุโดยการดูแลและบริหารจัดการของมูลนิธิพัฒนางานผู้สูงอายุในการหากลุ่มลูกค้าที่ต้องการผู้ดูแลผู้สูงอายุ ถือเป็นการสร้างอาชีพและรายได้ให้เยาวชนที่ขาดโอกาส และเป็นการดำเนินงานต้นแบบวิสาหกิจเพื่อสังคมเพื่อการดูแลผู้สูงอายุ ในขณะที่ผู้สูงอายุที่ยากไร้ ขาดคนดูแลก็จะได้รับการดูแลผ่านกลไกระดับชุมชนจากอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้านที่มูลนิธิพัฒนางานผู้สูงอายุได้พัฒนาศักยภาพไว้" นางภรณี กล่าว


นางภรณี กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาผู้สูงอายุที่เป็นลูกค้าของบั๊ดดี้โฮมแคร์ส่วนใหญ่มีสุขภาพดีขึ้น สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น ลดภาระพึ่งพิงจากครอบครัวได้บางส่วน ในขณะที่ผู้สูงอายุยากไร้ในชุมชนที่โครงการฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่บั๊ดดี้โฮมแคร์เข้าไปดูแล และให้ความรู้กับผู้ดูแลในครอบครัวจนมีความสามารถในการช่วยเหลือ ดูแลผู้สูงอายุอย่างเหมาะสมมากขึ้น ผู้สูงอายุสามารถช่วยเหลือดูแลตัวเอง หรือออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย การลงทุนในโครงการฯ นี้ ถือว่ามีความคุ้มค่าอย่างมาก


สสส.ชูโมเดลดูแลผู้สูงอายุยากไร้จับคู่ดูแลกัน thaihealth


นายสว่าง แก้วกันทา ผู้อำนวยการมูลนิธิพัฒนางานผู้สูงอายุ (มพส.) กล่าวว่า การดำเนินงานโครงการบั๊ดดี้โฮมแคร์ในการดูแลผู้สูงอายุ ถือเป็นต้นแบบที่สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางขยายผลในระดับพื้นที่ที่มีความสนใจ และเกิดกลไกการดำเนินงานร่วมกันของชมรมอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้านเขตเมืองเชียงใหม่ (ช.อ.บ.) ที่ช่วยดูแลผู้สูงอายุในชุมชน ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิพัฒนางานผู้สูงอายุ และโครงการบั๊ดดี้โฮมแคร์ โดยได้อบรมเสริมทักษะให้แก่อาสาสมัคร ช.อ.บ. จำนวน 13 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมอบรมรวมทั้งสิ้น 560 คน มีการจัดเก็บข้อมูลผู้สูงอายุในรูปแบบข้อมูลออนไลน์ด้วย Google Form และ Google Sheet ปัจจุบันมีข้อมูลออนไลน์ จำนวน 214 คน และได้วิเคราะห์คัดเลือกผู้สูงอายุยากไร้ที่ต้องการการดูแลเฉพาะจำนวน 20 ราย ในการทำแผนการดูแลผู้สูงอายุรายบุคคล (Individual care plan) จากการดำเนินงานตามแผนดูแลผู้สูงอายุรายบุคคล มีผู้สูงอายุจำนวน 5 ราย ที่สามารถแก้ปัญหาโดยการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยและฝึกทักษะให้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังเกิดศูนย์ประสานงานรับเรื่องร้องทุกข์ ปัญหาและสิทธิการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุ ชุมชนวนาลี จากการบูรณาการร่วมกับงานส่งเสริมสิทธิผู้สูงอายุในชุมชน มีการดำเนินกิจกรรมเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุยากไร้รวมทั้งสิ้น 1,743 คน โดยบูรณาการร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ รวม 20 องค์กร


นายวินัย วรรณรัตน์ อายุ 18 ปี หนึ่งในเจ้าหน้าที่ของโครงการ "บั๊ดดี้โฮมแคร์" เปิดเผยว่า ตนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ครอบครัวฐานะยากจน ก่อนหน้านี้ก็ทำงานอยู่โรงงานข้าวโพดแต่รายได้น้อย ไม่เพียงพอต่อการดูแลครอบครัว และอยากจะเรียนต่อ จากนั้นก็ได้มีคนแนะนำให้มาเข้าร่วม โครงการฯ ซึ่งข้อดีของการมาร่วมโครงการฯ นี้ทำให้ตนมีความรู้เพิ่มขึ้น ได้ดูแลผู้สูงอายุ ช่วยเหลือสังคม ได้มองเห็นว่าผู้สูงอายุมีมากแค่ไหน และต้องการความช่วยเหลือมากน้อยแค่ไหน ตนกับพี่ น้องและเพื่อนที่อยู่ในโครงการฯ ก็มีความสุขกับการช่วยเหลือผู้สูงอายุเหล่านี้ เพื่อที่จะให้เขากลับมา มีชีวิตที่มีความสุข สำหรับเรื่องการมาเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว ทางโครงการฯ ก็ดูแลพวกตนเป็นอย่างดี พวกตนก็มีรายได้ ซึ่งหากเทียบกับงานที่ทำเดิม จะมีรายได้มากกว่า และยังมีความสุข ได้ความรู้ ซึ่งตนก็จะเก็บเงิน เพื่อเรียนต่อ เพิ่มความรู้ให้ตนเองและกลับมาดูแลผู้สูงอายุเหล่านี้ให้ได้มากขึ้น.


สสส.ชูโมเดลดูแลผู้สูงอายุยากไร้จับคู่ดูแลกัน thaihealth


สสส.ชูโมเดลดูแลผู้สูงอายุยากไร้จับคู่ดูแลกัน thaihealth

Shares:
QR Code :
QR Code