สสส.ชู“รวมพลังสู้หวัด 2009” ผนึก 7 พันธมิตร

คาด ส.ค.- ก.ย. ระบาดหนัก

 

สสส.ชู“รวมพลังสู้หวัด 2009” ผนึก 7 พันธมิตร

สสส.ผนึก 7 พันธมิตร รวมพลังสู้หวัด 2009 ห่วงระบาดหนัก ส.ค.-ก.ย. นี้ คาดยาวไปถึง ก.พ. 53

 

เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 52 มีการประชุม คณะอนุกรรมการสนับสนุนป้องกัน ควบคุมและแก้ปัญหาการแพ้ระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 สสส.  โดยนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวภายหลังการประชุมว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ชนิดเอช1 เอ็น1 ในช่วงเดือนส.ค. ก.ค.นี้ คาดว่าการแพร่ระบาดยังเป็นช่วงขาขึ้น เนื่องจากสถิติที่ผ่านมาในปี 51 มีผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ช่วงเดียวกันจำนวนประมาณ 10,000 รายต่อเดือน ขณะที่ปีนี้ในช่วงเดือนมิ.ย.และก.ค. ที่ผ่านมา มีรายงานผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เฉลี่ยมากขึ้นกว่าเดิม 10 เท่า เป็นผลจากการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ ที่ประชาชนยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ดังนั้นคาดว่าในช่วงเดือน ส.ค.- ก.ย. ที่เป็นช่วงปกติที่ไข้หวัดใหญ่จะระบาดมากที่สุด ก็จะส่งผลให้ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นแน่นอน และน่าจะต่อเนื่องไปจนถึงเดือนม.ค. ก.พ. 53

สสส.ชู“รวมพลังสู้หวัด 2009” ผนึก 7 พันธมิตร

 

รมว.สาธารณสุข กล่าวว่าการที่ประชาชน ตื่นตัวกันมากขึ้น ทำให้บางพื้นที่เริ่มเห็นอัตราป่วยค่อนข้างคงที่เพิ่มขึ้นเหมือนระยะแรก ถือเป็นเรื่องดี และการมีอนุกรรมการการสนับสนุนป้องกันฯ มาสนับสนุนและเป็นหน่วยงานกลางประสานทุกภาคส่วน จะทำให้การป้องกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่สำคัญประชาชนสามารถหยุดการระบาดของโรคนี้ได้ ด้วยการมีสุขนิสัยที่ดีในการ ไอ จาม หมั่นล้างมือ และหากป่วยมีไข้ ไอ เจ็บคอ แม้อาการน้อยก็ขอให้หยุดงานหรือหยุดเรียนเฝ้าสังเกตอาการและแยกพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ถ้าหากเริ่มมีอาการมากหรือเป็ฯกลุ่มเสี่ยงก็ให้รีบไปหาหมอทันที การหยุดดูอาการอยู่ที่บ้านจะเป็นการตัดวงจรระบาดที่ดี

           

            นพ.มงคล ณ สงขลา ประธานคณะอนุกรรมการฯ กล่าวว่า สถานการณ์ในตอนนี้จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ คนไทยทุกคนต้อง รวมพลังสู้หวัด 2009 ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ เห็นตรงกันว่า ยุทธศาสตร์สำคัญคือสร้างเจ้าภาพร่วมในการทำงาน โดยมาตรการเร่งด่วนจะดำเนินการใน 7 หน่วยงาน คือ 1.สถาบันการศึกษาที่มีนักเรียน นักศึกษาในความดูแล 20 กว่าล้านคน ควรมีมาตรการในการคัดกรองผู้ป่วยทำความสะความสะอาดจุดสัมผัสร่วมกัน ให้นักเรียนมีแก้วน้ำและช้อนทานอาหารของตนเอง พร้อมทั้งสนับสนุนคู่มือให้ความรู้เรื่องไข้หวัด 2009 2.สถาบันอุดมศึกษา ร่วมกับมหาวิทยาลัยรัฐ เอกชน ราชภัฏ ราชมงคล มีมาตรการเข้มข้นคัดกรองผู้ป่วย และจะประชุมร่วมกันภายในกลางเดือนนี้ เพื่อให้เยาวชนมาร่วมเป็นพลังในการป้องกันโรค

สสส.ชู“รวมพลังสู้หวัด 2009” ผนึก 7 พันธมิตร

          3.กลุ่มบริการขนส่งสาธารณะ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.)  การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ (รฟม.) บริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา จะติดตั้งเจลล้างมือบริเวณให้บริการบนรถเมล์ ท่าเรือ สถานี ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ จะสนับสนุน 2 รูปแบบ คือ การมอบเจลล้างมือให้ในช่วงแรกและประสานกับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ จัดซื้อในราคาต่ำ โดยมีผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะไม่ต่ำกว่า 2.6 ล้านคนต่อวัน คาดว่าจะเริ่มติดตั้งจุดล้างมือได้ภายในสัปดาห์หน้า 4.ให้ 3 เหล่าทัพ กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ให้นำเอกสารคู่มือให้ความรู้เรื่องไข้หวัดเข้าไปเผยแพร่ในกำลังพลและครอบครัวหน่วยงานในสังกัดที่มีกว่า 2 ล้านคน

          5.กรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดมาตรการดูแลสถานที่ชุมชน อาทิ สวนสาธารณะ ตลาดโรงเรียน 6.กระทรวงแรงงาน ร่วมจัดคาราวานแรงงานป้องกันไข้หวัด 2009 ทั่วประเทศ และ 7.ชุมชนท้องถิ่น ผ่านกระทรวงมหาดไทย สนับสนุนสื่อให้ความรู้ใน อบต.ทั้ง 6,746 แห่ง  ส่วนมาตรการระยะยาวด้านวิชาการ สนับสนุนให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาวิจัยพัฒนาวิธีการตรวจสอบภูมิต้านทาน เพื่อทราบภูมิคุ้มกันในระดับชุมชน และใช้ประเมินประสิทธิภาพของวัคซีน พร้อมทั้งศึกษาระบบควบคุมป้องกันโรค เพื่อเตรียมทำข้อเสนอแนะปรับปรุงระบบของไทยต่อรัฐบาล สำหรับหน่วยงานและประชาชน สามารถติดต่อขอรับสื่อให้ความรู้ อาทิ โปสเตอร์ สติกเกอร์ ได้ที่หมายเลข 1330 และ 1422 หรือดูข้อมูลได้ที่ www.flu2009thailand.com จะมีวิธีการทดสอบการป่วยหรือไม่ป่วยไข้หวัดใหญ่ฯ 2009 องค์ความรู้และข้อมูลจากทั่วโลก ที่ปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ.

 

 

 

 

 

เขียนโดย: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่ Team content www.thaihealth.or.th

 

 

Update: 07-08-52

อัพเดทเนื้อหาโดย: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่

Shares:
QR Code :
QR Code