สวดมนต์ เห็นธรรม นำกาย-ใจ เป็นสุข

“การสวดมนต์” เป็นศาสนกิจปฏิบัติที่ชาวพุทธคุ้นเคยกันดี แต่ก็มีพุทธศาสนิกชนจำนวนไม่น้อย ที่เข้าใจจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการสวดมนต์คลาด เคลื่อนไป เนื่องจากปัจจุบันการสวดมนต์ถูกนำไปใช้ในพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ การขอพร และการบนบานศาลกล่าวมากขึ้น

ในเรื่องนี้ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี หรือ ว.วชิรเมธี พระนักเทศน์ชื่อดัง และ ผอ.สถาบันวิมุตตยาลัย ชี้ทางสว่างแก่พุทธศาสนิกชนว่า การสวดมนต์ถือว่าเป็นกุศลกิจกรรม เป็นการสวดพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สิ่งที่สวดล้วนเป็นหลักธรรมสำคัญของพระอรหันตสัมมา สัมพุทธเจ้าทั้งสิ้น ยิ่งถ้าผู้สวดมีความรู้มีความเข้าใจความตามที่สวดด้วย การสวดมนต์จะมีอานิสงส์มากจนอาจอำนวยผลสูงสุดให้บรรลุภาวะพระนิพพานก็ยังได้ การสวดมนต์นั้น “ถ้าสวดเป็น ก็เห็นธรรม” ในทางกลับกัน หากนำไปใช้ในทางขาดปัญญา เช่น สวดเพื่อพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ ก็อาจจะกลับกลายเป็นความงมงายได้

พระพุทธมนต์นั้น  “สวดได้ทุกที่ ทุกเวลา”  ใครที่มีเวลามากพอก็สามารถทำเป็นกิจวัตรประจำตอนเช้าตรู่ หรือตอนเย็น หรือก่อนนอน ส่วนผู้ที่ไม่มีเวลาที่แน่นอนจะสวดตามสะดวกที่ไหน เมื่อไหร่ก็ย่อมทำได้ทั้งสิ้น พร้อมกันนี้ท่าน ว.วชิรเมธี ยังแนะนำบทสวดมนต์ 9 บท ที่เหมาะสำหรับพุทธศาสนิกชนผู้ที่มีเวลาน้อย และที่มีสาระสำคัญสำหรับนำมาประพฤติปฏิบัติได้ในชีวิตจริง โดยไม่เน้นบทที่เกี่ยวกับการวิงวอนขอต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บทสวดมนต์ทั้ง 9 บทนั้นประกอบด้วย

1. บทนมัสการพระรัตนตรัย/ปุพพภาคนมการ/ไตรสรณคมน์ เป็นบทสวดมนต์เพื่อแสดงความเคารพต่อ พระรัตนตรัย

2. บทสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย เป็นบทสวดมนต์เพื่อความซาบซึ้งในคุณของพระไตรรัตน์

3. บทมงคลสูตร เป็นบทสวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลแห่งชีวิต

4. บทกาลามสูตร เป็นบทสวดมนต์เพื่อฝึกตนให้เป็นคน มีปัญญา

5. บทภัทเทกรัตตสูตร เป็นบทสวดมนต์เพื่อฝึกการเจริญสติในชีวิตประจำวัน

6. บทโอวาทปาติโมกข์ เป็นบทสวดมนต์เพื่อเรียนรู้หัวใจของพระพุทธศาสนา

7. บทปพัพโตปมคาถา เป็นบทสวดมนต์เพื่อความเป็น ผู้ไม่ประมาท

8. บทเมตตปริตร เป็นบทสวดมนต์เพื่อความเป็นผู้มีเสน่หา น่ารัก 

9. บทแผ่เมตตา เป็นบท สวดมนต์เพื่อฝึกใจให้เปี่ยมด้วยเมตตาจิต

ขณะที่ ดร.อำนาจ บัวศิริ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า การสวดมนต์นั้นจะศาสนาใดก็ล้วนมีการสวดด้วยแบบของตนเอง แต่หากพูดถึงอานิสงส์ของการสวดมนต์ในพระพุทธศาสนา ด้วยตรรกะทางวิทยาศาสตร์มาเกี่ยวข้องจะพบว่า การสวดมนต์ก่อให้ เกิดคุณประโยชน์ หลายอย่างด้วยกัน การสวดมนต์ช่วยให้ความจำดี ปัญญาดี เพราะการสวดมนต์เป็นประจำ ทำให้เกิดสมาธิ ดีต่อความจำ ทำให้เกิดปัญญา จะเรียนหนังสือหรือทำงานก็ย่อมเกิดประสิทธิภาพ การสวดมนต์ก่อให้เกิดจิตสงบ มีเมตตา กรุณา รู้จักให้อภัย และสามารถปลดความทุกข์ที่เกิดขึ้นทิ้งได้โดยง่าย การสวดมนต์ทำให้จิตใจเข้มแข็งช่วยสร้างความเชื่อมั่น ส่งผลต่อบุคลิกภาพและสุขภาพจิต ที่ดี นอกจากนี้ ยังช่วยให้มีสติทุกขณะจิต ทำสิ่งใดก็ไม่เกิดความผิดพลาด นำทางให้คิดดีทำดีเกิดความปลื้มปีติและจิตใจที่สุขสงบตามมา

การสวดมนต์ เมื่อนำไปใช้อย่างถูกต้องตาม หลักพระพุทธศาสนาแล้ว ย่อมก่อให้เกิดคุณประโยชน์ ต่อชีวิต ยิ่งเข้าใจถึงความหมายตามเนื้อความคำสวด การสวดมนต์ก็ยิ่งมีอานิสงส์มาก สิ่งสำคัญยังจะทำให้ เราพบว่า “ธรรมะ” ไม่ใช่ เรื่องยาก ที่จะเข้าใจ

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด