สรุปสถานการณ์อุทกภัยประจำวันที่ 24 ต.ค.53

 

 

             กรมป้องกันและบรรเทาสถานภัย สรุปสถานการณ์อุทกภัยระหว่างวันที่ 10-24 ตุลาคม 2553 อันเนื่องมาจากอิทธิพลของร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ภาคกลาง และ ภาคตะวันออก และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร ดังนี้

 

 สรุปสถานการณ์อุทกภัยประจำวันที่ 24 ต.ค.53

 

             ปัจจุบันจังหวัดที่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยทั้งสิ้น 28 จังหวัด 222 อำเภอ 1,723 ตำบล 11,504 หมู่บ้าน 828,298 ครัวเรือน 2,488,039 คน พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย 2,536,206 ไร่ ได้แก่ จังหวัดพิจิตร ชัยนาท สุพรรณบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สระแก้ว นครราชสีมา ปราจีนบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ ชัยภูมิ สระบุรี เพชรบูรณ์ นครนายก ศรีสะเกษ ตาก สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น นนทบุรี ปทุมธานี กำแพงเพชร นครปฐม อุทัยธานี สิงห์บุรี เชียงใหม่ ลำพูน และจังหวัดชลบุรี จังหวัดที่สถานการณ์ยุติแล้ว ได้แก่ จังหวัดระยอง จันทบุรี และจังหวัดตราด

 

             จังหวัดพิจิตร ปริมาณน้ำในแม่น้ำยมมีปริมาณสูง ประกอบมีฝนตกในพื้นที่ทำให้ น้ำในแม่น้ำยมเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่ง 5 อำเภอ 19 ตำบล 34 หมู่บ้าน ดังนี้ อำเภอสามง่าม อำเภอโพธิ์ประทับช้าง อำเภอบึงนาราง อำเภอโพทะเล อำเภอสากเหล็ก

 

             จังหวัดชัยนาท เมื่อวันที่ 3-4 ตุลาคม 2553 เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณสูงขึ้นเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ 40 ตำบล 342 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 16,940 ครัวเรือน 44,987 คน ดังนี้ อำเภอเนินขาม อำเภอหันคา อำเภอเมืองชัยนาท อำเภอวัดสิงห์ อำเภอหนองมะโมง อำเภอมโนรมย์ อำเภอสรรพยา

 

             จังหวัดสิงห์บุรี น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้มเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 2 อำเภอ 55 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 7,888 ครัวเรือน 23,664 คน ดังนี้ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี

 

             จังหวัดอ่างทอง น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย เอ่อล้นตลิ่ง และเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตร 7 อำเภอ 52 ตำบล 215 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 2,950 ครัวเรือน 7,892 คน ดังนี้ อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอป่าโมก อำเภอไชโย อำเภอวิเศษชัยชาญ อำเภอโพธิ์ทอง อำเภอสามโก้ อำเภอแสวงหา

 

             จังหวัดสุพรรณบุรี เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำในแม่น้ำท่าจีนมีปริมาณสูงขึ้น เอ่อไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 6 อำเภอ 61 ตำบล 304 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 44,300 ครัวเรือน 121,436 คน ดังนี้ อำเภอเมือง อำเภอบางปลาม้า อำเภอสองพี่น้อง อำเภอสามชุก อำเภอหนองหญ้า อำเภอเดิมบางนางบวช

 

             จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำน้อย มีปริมาณสูงขึ้น ประกอบกับมีฝนตกในพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มการเกษตรใน 16 อำเภอ 183 ตำบล 1,275 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 101,363 ครัวเรือน 326,926 คน ดังนี้ อำเภอบางไทร อำเภอมหาราช อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอเสนา อำเภอบางปะอิน อำเภอภาชี อำเภออุทัย อำเภอวังน้อย อำเภอท่าเรือ อำเภอบางปะหัน อำเภอนครหลวง อำเภอบ้านแพรก อำเภอลาดหัวหลวง อำเภอบางซ้าย

 

             จังหวัดสระแก้ว ได้เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ในพื้นที่ 4 อำเภอ 11 ตำบล 1 เทศบาล 32 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 6,346 ครัวเรือน 25,800 คน ดังนี้ อำเภออรัญประเทศ อำเภอวังน้ำเย็น อำเภอตาพระยา อำเภอโคกสูง

 

             จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 15-16 ต.ค.53 ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมในพื้นที่ 31 อำเภอ 376 ตำบล 2,158 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 91,501 ครัวเรือน 293,081 พื้นที่การเกษตรเสียหาย 452,174 ไร่ ดังนี้ อำเภอเมือง อำเภอสูงเนิน อำเภอขามทะเลสอ อำเภอโนนแดง อำเภอคง อำเภอเสิงสาง อำเภอหนองบุญมาก อำเภอจักราช อำเภอเทพารักษ์ อำเภอด่านขุนทด อำเภอบ้านเหลื่อม อำเภอโนนสูง อำเภอโชคชัย อำเภอพิมาย อำเภอโนนไทย อำเภอห้วยแถลง อำเภอปากช่อง อำเภอสีคิ้ว อำเภอปักธงชัย อำเภอขามสะแกแสง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอพระทองคำ อำเภอบัวใหญ่ อำเภอครบุรี อำเภอบัวลาย อำเภอเมืองยาง อำเภอสีดา อำเภอชุมพวง อำเภอวังน้ำเขียว อำเภอลำทะเมนชัย อำเภอแก้งสนามนาง

 

             จังหวัดปราจีนบุรี ได้เกิดฝนตกหนักทำให้น้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ในพื้นที่ 3 อำเภอ 14 ตำบล 57 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน1,937 ครัวเรือน 5,878 คน ดังนี้ อำเภอนาดี อำเภอกบินทร์บุรี อำเภอศรีมหาโพธิ

 

             จังหวัดลพบุรี ได้เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันและ น้ำจากเขื่อนป่าเอ่อล้นเข้าท่วมในพื้นที่ 11 อำเภอ 121 ตำบล 1,029 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 165,370 ครัวเรือน 496,110 คน ดังนี้ อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอโคกสำโรง อำเภอชัยบาดาล อำเภอพัฒนานิคม อำเภอลำสนธิ อำเภอท่าหลวง อำเภอหนองม่วง อำเภอสระโบสถ์ อำเภอโคกเจริญ อำเภอท่าวุ้ง

 

             จังหวัดนครสวรรค์ ได้เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ 7 อำเภอ 28 ตำบล 193 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 2,226 ครัวเรือน 6,698 คน ดังนี้ อำเภอตาคลี อำเภอลาดยาว อำเภอหนองบัว อำเภอท่าตะโก อำเภอไพศาลี อำเภอเมือง อำเภอบรรพตพิสัย

 

             จังหวัดชัยภูมิ ได้เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ในพื้นที่ 16 อำเภอ 113 ตำบล 1,305 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 63,610 ครัวเรือน 185,742 คน ได้แก่ อำเภอเมือง เกษตรสมบูรณ์ ภูเขียว บำเหน็จณรงค์ เนินสง่า จัตุรัส บ้านเขว้า แก้งคร้อ หนองบัวแดง หนองบัวระเหว คอนสวรรค์ ซับใหญ่ คอนสาร ภักดีชุมพล เทพสถิต และอำเภอบ้านแท่น

 

 สรุปสถานการณ์อุทกภัยประจำวันที่ 24 ต.ค.53

 

             จังหวัดสระบุรี ได้เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ 13 อำเภอ 111 ตำบล 973 หมู่บ้าน 86,100 ครัวเรือน 185,995 คน ดังนี้ อำเภอเมือง อำเภอบ้านหมอ อำเภอพระพุทธบาท อำเภอมวกเหล็ก อำเภอแก่งคอย อำเภอวังม่วง อำเภอเสาไห้ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอดอนพุด อำเภอหนองแซง อำเภอหนองแค อำเภอวิหารแดง อำเภอหนองโดน

 

             จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ในพื้นที่ 5 อำเภอ 55 ตำบล 459 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 32,812 ครัวเรือน 100,618 คน ดังนี้ อำเภอเมือง อำเภอหนองไผ่ อำเภอศรีเทพ อำเภอบึงสามพัน อำเภอวิเชียรบุรี

 

             จังหวัดนครนายก ได้เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ 4 อำเภอ 33 ตำบล 252 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 10,413 ครัวเรือน 28,042 คน ดังนี้ อำเภอบ้านนา อำเภอปากพลี อำเภอองครักษ์ อำเภอเมืองนครนายก

 

             จังหวัดศรีสะเกษ ได้เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 9 อำเภอ 54 ตำบล 325 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 26,256 ครัวเรือน 132,277 คน ดังนี้ อำเภอภูสิงห์ อำเภอขุนหาญ อำเภอขุขันธ์ อำเภอกันทรลักษ์ อำเภอเบญจลักษ์ อำเภอโนนคูณ อำเภอปรางค์กู่ อำเภอน้ำเกลี้ยง อำเภออุทุมพรพิสัย

 

             จังหวัดตาก ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตร ในพื้นที่ 6 อำเภอ 39 ตำบล 1 เทศบาลนคร 267 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 30,332 ครัวเรือน 100,006 คน ดังนี้ อำเภออุ้มผาง อำเภอพบพระ อำเภอแม่สอด อำเภอท่าสองยาง อำเภอแม่ระมาด อำเภอบ้านตาก

 

             จังหวัดสุรินทร์ ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 7 อำเภอ 33 ตำบล 252 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 25,422 ครัวเรือน 96,594 คน ดังนี้ อำเภอเมือง อำเภอสังขะอำเภอบัวเชด อำเภอศรีขรภูมิ อำเภอศรีณรงค์ อำเภอชุมพลบุรี อำเภอกาบเชิง

 

             จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 11 อำเภอ 62 ตำบล 485 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอโนนดินแดง สตึก ปะคำ บ้านกรวด ประโคนชัย เฉลิมพระเกียรติ ละหานทราย นางรอง หนองหงส์ ลำปลายมาศ และอำเภอชำนิ

 

             จังหวัดขอนแก่น ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 5 อำเภอ 38 ตำบล 217 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 8,451 ครัวเรือน 51,300 คน ดังนี้ อำเภอภูผาม่าน อำเภอบ้านไผ่ อำเภอชุมแพ อำเภอหนองเรือ อำเภอมัญจาคีรี

 

             จังหวัดนนทบุรี น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้มเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 6 อำเภอ 54 ตำบล 128 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 15,027 ครัวเรือน 12,940 คน ดังนี้ อำเภอปากเกร็ด อำเภอเมืองนนทบุรี อำเภอบางกรวย อำเภอบางใหญ่ อำเภอบางบัวทอง อำเภอไทรน้อย

 

             จังหวัดปทุมธานี น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้มเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 7 อำเภอ 50 ตำบล 144 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 13,197 ครัวเรือน 26,394 คน ดังนี้ อำเภอเมืองปทุมธานี อำเภอสามโคก อำเภอลาดหลุมแก้ว อำเภอธัญบุรี อำเภอลำลูกกา อำเภอคลองหลวง อำเภอหนองเสือ

 

             จังหวัดกำแพงเพชร ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 6 อำเภอ 33 ตำบล 248 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 31,758 ครัวเรือน 33,763 คน ดังนี้ อำเภอขาณุวรลักษบุรี อำเภอปางศิลาทอง อำเภอไทรงาม อำเภอบึงสามัคคี อำเภอทรายทองวัฒนา อำเภอพรานกระต่าย

 

             จังหวัดนครปฐม น้ำจากแม่น้ำท่าจีนเอ่อล้มเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ 3 อำเภอ 3 ตำบล 8 หมู่บ้าน ดังนี้ อำเภอบางเลน อำเภอสามพราน อำเภอนครชัยศรี อนึ่ง น้ำในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี อำเภอสามพราน อำเภอกำแพงแสน และอำเภอเมือง มีปริมาณน้ำในแม่น้ำท่าจีน สูงขึ้น

 

             จังหวัดอุทัยธานี เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตร 5 อำเภอ 21 ตำบล 79 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 3,800 ครัวเรือน 15,200 คน ดังนี้ อำเภอเมือง อำเภอทัพทัน อำเภอหนองขาหย่าง อำเภอหนองฉาง อำเภอสว่างอารมณ์

 

             จังหวัดเชียงใหม่ ได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร และพื้นที่กาเกษตรในพื้นที่ 8 อำเภอ 30 ตำบล 144 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 9,701 ครัวเรือน 26,558 คน ดังนี้ อำเภอดอยเต่า อำเภอไชยปราการ อำเภอแม่วาง อำเภอจอมทอง อำเภอดอยหล่อ อำเภอฮอด อำเภอสันป่าตอง อำเภอสะเมิง

 

             จังหวัดลำพูน เมื่อวันที่ 20-21 ตุลาคม 2553 เกิดฝนตกต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำไหลหลากและน้ำจากลำน้ำลี้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ 4 อำเภอ ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 22 ตำบล 203 หมู่บ้าน 10,803 ครัวเรือน 41,411 คน ดังนี้ อำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอทุ่งหัวช้าง อำเภอลี้ อำเภอแม่ทา

 

             จังหวัดชลบุรี เกิดฝนตกต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ 8 อำเภอ 55 ตำบล 270 หมู่บ้าน ได้แก่ อำเภอเกาะจันทร์ บ่อทอง หนองใหญ่ บ้านบึง พนัสนิคม เมืองชลบุรี สัตหีบ และอำเภอพานทอง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 5,400 ครัวเรือน 10,850 คน พื้นที่การเกษตร 8,152 ไร่ บ่อปลา/กุ้ง 580 บ่อ ถนน 103 สาย สะพาน 5 แห่ง

 

 

 สรุปสถานการณ์อุทกภัยประจำวันที่ 24 ต.ค.53

 

             เกิดฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากน้ำท่วมฉับพลัน ท่วมเส้นทางการจราจรผ่านไม่ได้ ดังนี้ (ข้อมูลสำนักบริหารบำรุงทาง กรมทางหลวง และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต)

 

จังหวัดลำพูน 2 สาย

 

             สาย 106 ตอนบ้านปาง-บ้านแพะ ท้องที่อำเภอบ้านโฮ่ง ที่ กม. 112-114 ให้ใช้ทางเบี่ยงเข้าบ้านโฮ่งหลวงแทน

             สาย 1010 ตอนเหล่ายาว-บ้านโฮ่ง ท้องที่อำเภอบ้านโฮ่ง ที่ กม. 15-16 ให้ใช้สาย 1010 ที่ กม. 14 ออกสาย 106 ที่ กม.121 แยกทางเข้าบ้านเหล่ายาวแทน

 

จังหวัดนครราชสีมา 5 สาย

 

             สาย 205 ตอนโนนไทย-จอหอ ท้องที่อำเภอเมือง กม. 386-403 ให้ใช้เส้นทางโนนไทย-ขามสะแกแสง แทน

             สาย 206 ทางเลียงเมืองพิมาย ท้องที่อำเภอพิมาย กม. 0-5 ให้ใช้ เส้นทางสาย 2 มิตรภาพ ไปอำเภอชุมพวงและวิ่งไป 207 ประทายและไปสาย 2285 ถึงอำเภอชุมพวงแทน

โนนไทย-ขามสะแกแสง แทน

             สาย 201 ตอน สีคิ้ว-ด่านขุนทด-ชัยภูมิ ท้องที่อำเภอด่านขุนทด ที่ กม. 37-39 ให้ใช้ทางสาย 205 ตอน เทพสถิต-ลำนารายณ์ แทน

             สาย 224 ตอน โชคชัย-ครบุรี ท้องที่อำเภอโชคชัย กม. 1-2 ให้ใช้ทางของหมู่บ้านดอนไพร แทน

             สาย 224 ตอน ครบุรี-เสิงสาง ท้องที่อำเภอครบุรี น้ำกัดเซาะถนนขาด ที่ กม 16-17 เป็นแห่งๆ ให้ใช้สาย ๒๓๑๗ ตอนหนองกี่-โชคชัย แทน

             สาย 226 ตอน นครราชสีมา-เฉลิมพระเกียรติ ท้องที่อำเภอเฉลิมพระเกิยรติ ที่ กม. 15-18 ให้ใช้ทาง ๒๒๙๘ ห้วยลับ-ด่านเกวียน แทน

             สาย 2421

Shares:
QR Code :
QR Code