สภาเยาวชนถกร่างสิทธิเด็ก เตรียมส่ง “ยูเอ็น”
ป้องกันปัญหาละเมิด 10 ประเด็น
หวังให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ตัวแทนจากสุรินทร์ชี้การศึกษามีปัญหา ขาดอุปกรณ์การเรียนการสอน ครูมีสัมพันธ์กับเด็กแลกเกรด ขณะที่สภาเด็กสตูลแนะรัฐปลูกฝังให้รักชาติ – สร้างอาชีพ ช่วยลดปัญหาความไม่สงบในภาคใต้
สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ (สท.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดประชุมประชาพิจารณ์ร่างรายงานเรื่องสิทธิเด็กฉบับเด็ก ในหัวข้อเรื่อง “การมีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชนในการป้องกันการละเมิด” ตามกรอบการดำเนินงานของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ที่โรงแรมชาลีน่า เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม โดยมีคณะทำงานด้านเด็ก สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย จากทั่วประเทศเข้าร่วมประชุม
นายศรันย์ สมานพันธ์ รองผู้อำนวยการ สท. กล่าวว่า ร่างรายงานเรื่องสิทธิเด็กฉบับเด็กเป็นการประชุมประชาพิจารณ์ระดมความคิดเห็นจากเวทีสิทธิเด็ก ทั้งระดับจังหวัด ภูมิภาค และระดับชาติ จนสรุปสถานการณ์ปัญหาการละเมิดสิทธิเด็กและเยาวชน ผลกระทบและข้อเสนอแนะในการแก้ไขออกเป็น 10 ปัญหา ประกอบด้วย ปัญหาการถูกละเมิดทางเพศ ปัญหาความรุนแรง ปัญหาการศึกษา ปัญหายาเสพติด ปัญหาการใช้แรงงาน ปัญหาการปิดกั้นทางความคิด ปัญหาเรื่องสื่อ ปัญหาเด็กไร้สัญชาติ ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ และปัญหาการละเมิดทางวาจา
“หลังจากผ่านกระบวนการประชาพิจารณ์แล้ว สท. ในฐานะเป็นหน่วยงานหลักมีหน้าที่รับผิดชอบการดำเนินงานตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก จะดำเนินการจัดแปลเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน จากนั้นจะให้ผู้แทนเด็กและเยาวชนเป็นผู้มอบรายงานให้แก่กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อส่งมอบให้กับคณะกรรมการสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติในช่วงเดือนกรกฎาคมต่อไป ซึ่งจะช่วยพัฒนาเรื่องสิทธิเด็กของประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับได้ในระดับสากล” นายศรันย์กล่าว
น.ส.ผัสชา พาชื่น ประชาสัมพันธ์สภาเด็ก และเยาวชน จ.สุรินทร์ นำเสนอปัญหาการศึกษาและยาเสพติดว่า ปัญหาการศึกษาที่พบ คือ สถานที่ อุปกรณ์การเรียนการสอนและสาธารณูปโภคไม่เพียงพอต่อผู้เรียน ขณะเดียวกันพบปัญหาจากตัวครูที่มีการเลือกปฏิบัติต่อเด็ก มีการใช้ความสัมพันธ์เชิงอำนาจ เช่น เด็กอยากเพิ่มเกรดต้องทำงานให้ครู หรือมีเพศสัมพันธ์ ตัวอย่างใกล้ตัวที่ทราบจากบิดา ซึ่งพบเจอเหตุการณ์ครูชายโรงเรียนมัธยมบางแห่งใน จ.สุรินทร์ บังคับมีเพศสัมพันธ์กับเด็กผู้ชาย หรือแม้แต่ครูผู้หญิงกับเด็กผู้หญิงก็เคยรับทราบข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต หรือจากการบอกเล่าจากเพื่อนๆ ซึ่งลักษณะการใช้ความสัมพันธ์เชิงอำนาจแม้จะไม่ปรากฏจำนวนว่ามีมาก แต่รูปแบบที่เกิดขึ้นน่าวิตกอย่างยิ่ง เรื่องนี้อยู่ที่จรรยาบรรณครูผู้สอนที่ต้องเข้มงวด ขณะที่เด็กผู้ถูกกระทำต้องหาช่องทางที่จะฟ้องร้องผู้ใหญ่
นายสอลาหุดดีน ใบหาด กรรมการสภาเด็กและเยาวชน จ.สตูล กล่าวว่า สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ส่งผลต่อโอกาสทางการศึกษาของเด็ก การบิดเบือนคำสอน การว่างงานที่ทำให้ถูกชักจูงไปกระทำผิดได้ง่าย จึงอยากให้ภาครัฐและเอกชนเอาจริงเอาจังในการแก้ปัญหาภาคใต้อย่างเด็ดขาด ให้การศึกษาอย่างทั่วถึง ปลูกฝังให้ประชาชนรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ สร้างครอบครัวและชุมชนให้เข้มแข็ง ปลูกฝังคำสอนทางศาสนาที่ถูกต้องและรัฐบาลต้องสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในพื้นที่
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน
update 13-05-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : ฤทัยรัตน์ ไกรรอด