สพฉ.เตือนกลุ่มเสี่ยง “เด็ก-ผู้สูงอายุ-ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง” รับมือภาวะอากาศหนาว

อุณหภูมิลดมีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจและระบบความดันโลหิต แนะการช่วยเหลือเบื้องต้นเมื่อพบผู้ป่วย เร่งทำร่างกายให้อบอุ่น ย้ำห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

    นพ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึงสถานการณ์ภัยหนาวในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ว่าขณะนี้อุณหภูมิในแต่ละพื้นที่เริ่มลดต่ำลง ซึ่งอาจทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำลงกว่าปกติด้วย ดังนั้นขอแนะนำให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง คือ เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคหัวใจ ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองหรืออัมพาต เพราะอากาศที่หนาวเย็นอาจส่งผลให้สมองและประสาทส่วนกลางทำงานผิดปกติ รวมถึงทำให้อัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติด้วย

นอกจากนี้สภาพอากาศที่หนาวเย็นยังทำให้ร่างกายต้องใช้ออกซิเจนเพิ่มมากขึ้น และระบบความดันโลหิตจะเพิ่มสูงขึ้นด้วย ดังนั้นกลุ่มผู้ป่วยที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ กลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจหลอดเลือด เพราะจะมีระดับความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นจึงควรเตรียมยาประจำตัวให้พร้อม และรักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ แต่ทั้งนี้หากพบผู้ป่วยฉุกเฉินควรรีบแจ้งขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ที่สายด่วน 1669 โดยการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินในเบื้องต้นนั้น จะต้องรีบทำให้ร่างกายผู้ป่วยอบอุ่น กรณีที่อยู่กลางแจ้ง ควรหาผ้าคลุมถึงหน้าและศีรษะ เพื่อป้องกันการสูญเสียความร้อน จัดที่ให้ผู้ป่วยนอนนิ่งๆ ในท่านอนหงายบนพื้นที่อบอุ่นหรือมีผ้าหนาๆ ปูรอง และหากผู้ป่วยรู้สึกตัวให้ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มอุ่นๆ ห้ามดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด เพราะเป็นความเชื่อที่ผิด รวมทั้งจะเป็นการเร่งให้ร่างกายสูญเสียความร้อนมากขึ้นด้วย

“สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อากาศหนาว ต้องระมัดระวังวิธีช่วยให้ร่างกายอบอุ่นด้วย เช่น การผิงไฟแก้หนาว เพราะมีความเสี่ยงอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ ไฟลวก และขาดอากาศหายใจ เนื่องจากสำลักควันได้ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ ทั้งนี้หากเป็นหวัด ถ้าออกนอกบ้านให้สวมผ้าปิดปากป้องกันการติดเชื้อสู่คนรอบข้าง และหากร่างกายเปียกน้ำให้รีบเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อป้องกันภาวะปอดบวม” เลขาธิการ สพฉ. ระบุพร้อมกล่าวต่อว่า หากพบเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถโทร.แจ้งได้ที่สายด่วน 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือ และขอคำแนะนำได้ตลอด 24 ชั่วโมง.

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

 

Shares:
QR Code :
QR Code