สปสช. ปิ๊งไอเดียช่วยเลิกบุหรี่ฟรี
เมื่อวันที่ 30 พ.ค. นายแพทย์ปรีดา แต้อารักษ์ โฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แถลงข่าวประชาสัมพันธ์โครงการรักษาอาการติดบุหรี่ฟรีในสถานพยาบาลต่างๆ เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับกลุ่มคนที่ติดบุหรี่และส่งเสริมให้คนที่ต้องการเลิกบุหรี่สามารถเข้าถึงบริการ ลดภาระค่ารักษาของ รพ. โดยทำควบคู่กันไปกับการรณรงค์เลิกบุหรี่ ซึ่ง สสส. และเครือข่ายอดบุหรี่ทำได้ดีมากอยู่แล้ว
ซึ่งผลสำรวจของเครือข่ายวิชาชีพแพทย์ในการควบคุมการบริโภคยาสูบ หรือ คลินิกฟ้าใส พบว่า ผู้สูบบุหรี่ ร้อยละ 60 มีความคิดอยากเลิกสูบ แต่เลิกไม่ได้ ดังนั้นการสนับสนุนให้เลิกสูบบุหรี่ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะต้องทำควบคู่ไปกับการรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งเครือข่ายวิชาชีพแพทย์ได้เรียกร้องให้บรรจุสิทธิเพื่อสนับสนุนให้ประชาชนเลิกสูบบุหรี่เข้าไปรักษาโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ได้ทุกสิทธิ ทั้งระบบสวัสดิการข้าราชการ ระบบหลักประกันสุขภาพ และระบบประกันสังคม รวมทั้งบรรจุยาเลิกบุหรี่ ไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติด้วย ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่จะได้รับบริการอยู่แล้ว
นายแพทย์ปรีดา กล่าวต่อว่า การให้การรักษาภาวะติดบุหรี่ยังเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่าย โรคแทรกซ้อน โดยเฉพาะ มะเร็งปอด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงมากและเพิ่มภาระด้านงบประมาณมาก อย่างไรก็ตาม การรักษาภาวะติดบุหรี่ ควบคู่ไปกับการป้องกันไม่ให้ติดบุหรี่รายใหม่เป็นเรื่องสำคัญที่ทุกฝ่ายที่มีหน้าที่ดูแลสุขภาพของประชาชนต้องช่วยกัน
โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องให้ความรู้แก่ประชาชน ว่าโรคติดบุหรี่เรื้อรังซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งปอด โรคหัวใจ และโรคร้ายแรงอื่นๆ นั้น จะสร้างความเสียหายให้กับสังคมอย่างไร เพื่อให้ผู้ป่วยตระหนักถึงโทษภัย และไม่หวนกลับมาติดบุหรี่อีก
ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในปี 2552 พบว่าประชากรไทยเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ประมาณ 5 หมื่นคนต่อปี โดยเฉลี่ยผู้ชาย 1 ใน 6 คน และผู้หญิง 1 ใน 25 คนซึ่งสาเหตุของการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ หลอดเลือด และมะเร็งปอดถึงร้อยละ 24 และ 20 แม้เทียบกับปี 2547 จำนวนผู้ติดบุหรี่จะน้อยลงแต่จำนวนผู้ป่วยจากผลของภาวการณ์สูบบุหรี่กลับเพิ่มมากขึ้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์