สธ.เร่งสร้างคุณภาพมาตรฐานโรงพยาบาลระดับอำเภอ มุ่งเน้นให้ประชาชนเข้ารับบริการสาธารณสุขที่ได้มาตรฐานอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
นายแพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงาน สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.) ว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้จัดทำแผนพัฒนาสุขภาพในเขตพื้นที่แบ่งออกเป็นเครือข่ายบริการของโรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศรวม 12 เครือข่าย ดูแลประชาชนเครือข่ายละ 5-8 จังหวัด ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นให้ประชาชนเข้ารับบริการสาธารณสุขที่ได้มาตรฐานอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
นายแพทย์ประดิษฐกล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้แก่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดำเนินการประเมินและรับรองมาตรฐานคุณภาพการรักษาและบริการในโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน กระตุ้นให้สถานบริการทั่วประเทศ พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการรักษาพยาบาล และระบบบริการสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการรักษา การป้องกันควบคุมโรค และการส่งเสริมสุขภาพให้มีสุขภาพดีและแข็งแรง ให้สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล กำหนดแนวทางหรือหลักเกณฑ์ในการประเมินมาตรฐานของโรงพยาบาลชุมชนหรือโรงพยาบาลประจำอำเภอ ซึ่งมีจำนวนกว่า 800 แห่งทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้แก่ประชาชน สามารถแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ได้ ประชาชนสามารถรับบริการใกล้บ้านที่สุด
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นจะเริ่มจากการรับรองมาตรฐาน หรือรับรองคุณภาพการรักษาเป็นรายโรค หรือเฉพาะโรคเช่น การผ่าตัดไส้ติ่ง ของโรงพยาบาลชุมชนแต่ละแห่งที่อยู่ในเครือข่ายบริการจังหวัดเดียวกันก่อน จากนั้นจะพัฒนาให้การรับรองมาตรฐานทั้งจังหวัด และจะพัฒนาไปจนถึงระดับเขตบริการทั้ง 12 เครือข่าย เพื่อให้เกิดมาตรฐานการรักษาที่ปลอดภัยทั้งสถานบริการและหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพบริการ ซึ่งจะมีการประเมินและวัดผลด้วยว่าสถานบริการใดมีความน่าเชื่อถือ หรือไว้วางใจที่จะเข้ารับบริการ ลดปัญหาการร้องเรียน และสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนที่มารับบริการ
นายแพทย์ประดิษฐกล่าวต่อว่า เรื่องที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ คือในกรณีที่ผู้บริโภคไปรับบริการที่สถานบริการที่ไม่ได้มาตรฐานในการรักษา อาจทำให้ได้รับบริการที่ไม่มีคุณภาพและเกิดปัญหาการฟ้องร้องตามมา หรือได้รับบริการที่อาจไม่มีความจำเป็น ทำให้เสียค่ารักษาพยาบาลแพงเกินเหตุ ซึ่งนับว่ามีความสำคัญและอาจมีผลกระทบต่อนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขที่จะส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการรักษาพยาบาล หรือเมดิคัลฮับ (medical hub) ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุขได้แต่งตั้งคณะกรรมการไกล่เกลี่ยปัญหาข้อพิพาทด้านบริการสุขภาพหรือทางการแพทย์ขึ้นมา 1 ชุด โดยมีอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพเป็นประธาน เพื่อให้เป็นตัวกลางในการประสานหรือพูดคุยกับทั้ง 2 ฝ่าย คือระหว่างประชาชนหรือผู้บริโภคกับโรงพยาบาล
“นอกจากนี้ยังเน้นให้สถานบริการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ทรัพยากรร่วมกัน รวมทั้งประสานความร่วมมือและเชื่อมโยงข้อมูลกัน ทั้งในเรื่องของมาตรฐานการรักษาและข้อมูลเพื่อความปลอดภัยของผู้มารับบริการ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพที่สุด รวมทั้งให้ประชาชนรับทราบข้อมูลเพียงพอต่อการตัดสินใจเลือกเข้ารับบริการเอง” นายแพทย์ประดิษฐกล่าว
ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข