สถานการณ์ไวรัสซิกาในไทยไม่น่าห่วง

ที่มา : เว็บไซต์บ้านเมืองออนไลน์


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


สถานการณ์ไวรัสซิกาในไทยไม่น่าห่วง thaihealth


แฟ้มภาพ


สธ.เผยสถานการณ์ไวรัสซิกาในไทยสามารถควบคุมได้อยู่ พบผู้ต้องสงสัยใน 4 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ จันทบุรี เพชรบูรณ์ และบึงกาฬ แต่สถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วง พร้อมประสานองค์การอนามัยโลกอย่างใกล้ชิด


น.พ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เยี่ยมชมกรมควบคุมโรค พร้อมหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมโรค โดย น.พ.ปิยะสกล กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ไวรัสซิกาในไทยสามารถควบคุมได้อยู่ พบผู้ต้องสงสัยใน 4 จังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ จันทบุรี เพชรบูรณ์ และบึงกาฬ แต่สถานการณ์ไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากมีการประสานกับองค์การอนามัยโลกอย่างใกล้ชิด แต่ขอให้ประชาชนทุกครัวเรือนร่วมมือกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เนื่องจากสามารถป้องกันได้ทั้งโรคไข้เลือดออก และยังสามารถป้องกันไวรัสซิกาได้ด้วย


ทั้งนี้ในที่ประชุมยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ มี ศ.เกียรติคุณ น.พ.ประเสริฐ ทองเจริญ ศ.เกียรติคุณ น.พ.สมหวัง ด่านชัยวิจิตร และ น.พ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ พร้อมเยี่ยมชมศูนย์อีโอดีของกรมควบคุมโรค


ด้านน.พ.รุ่งเรือง กิจผาติ โฆษกกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทยว่า ขณะนี้ไม่พบการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่ 1 มกราคม-1 กันยายน 2559 พบผู้ป่วย 75,556 คน เสียชีวิต 8 ราย โดยพบผู้ป่วยในกลุ่มเด็กมากที่สุดอายุระหว่าง 7-9 ปี รองลงมาเป็นผู้ใหญ่ 25-34 ปี และจังหวัดที่ป่วยมากที่สุด 5 จังหวัดได้แก่ กทม. เชียงใหม่ จันทบุรี อุตรดิตถ์ และระยอง


นอกจากนี้จากการตรวจเชื้อในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์พบว่า ไข้หวัดใหญ่ที่พบในประเทศไทยยังคงเป็นกลุ่มสายพันธุ์เดิมไม่เปลี่ยนแปลง และถูกบรรจุในวัคซีนตามฤดูกาลแล้ว ส่วนสาเหตุที่คนป่วยแล้วมักมีการตรวจเชื้อหาสายพันธุ์ของไข้หวัด ต้องถือเป็นดุลพินิจของแพทย์ เนื่องจากอาการของโรคไม่แตกต่าง หากมีไข้สูงเข้าได้กับโรคไข้เลือดออก หากพบป่วยไข้หวัดควรพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ และสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรค เป็นการรับผิดชอบต่อสังคม และไม่แพร่โรคสูงคนอื่น

Shares:
QR Code :
QR Code