ศปถ.เปิดศูนย์ป้องกัน 7 วันอันตราย
ช่วงปีใหม่
ศปถ.เปิดศูนย์ป้องกัน 7วันอันตราย 29 ธ.ค.2553ถึง 4 ม.ค. 2554 กำชับจังหวัดตั้งจุดบริการ คุมเข้มจุดจำหน่าย”แอลกอฮอล์” รถรงค์สวมหมวกกันน็อค
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ในฐานะรองประธานกรรมการและรองผู้อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า คณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ได้กำหนดช่วงวันรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.2553 ถึง 4 ม.ค. 2554 โดยกำหนดพิธีเปิดศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ในวันพุธที่ 29 ธ.ค. ทั้งนี้ ศปถ.ได้กำหนดแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อให้การดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางท้องถนนดังกล่าวมีประสิทธิภาพ และบรรลุวัตถุประสงค์ จึงให้จังหวัดเตรียมความพร้อมในการดำเนินการ และจัดทำแผนปฎิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ในระดับจังหวัดกำชับคุมเข้มจุดจำหน่าย ‘ แอลกอฮอล ’
นายชวรัตน์ กล่าวต่อว่า ให้จังหวัดแต่งตั้งคณะทำงานบูรณาการการตั้งจุดตรวจจุดบริการโดยมีผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเป็นประธาน และในช่วงรณรงค์ให้มีการจัดตั้งศูนย์ปฎิบัติการระดับจังหวัด และอำเภอ เพื่ออำนวยการปฎิบัติให้เป็นไปตามแผนปฎิบัติการฯ ส่วนการบังคับใช้กฎหมาย ให้เน้นหนักในเรื่องพฤติกรรมเสี่ยงหลัก 3 เรื่อง ได้แก่ ความเร็ว เมาสุรา และไม่สวมหมวกนิรภัย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของกรณีการเสียชีวิตและบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะกลุ่มรถจักรยานยนต์ รกปิกอัพที่บรรทุกคนโดยสารในกระบะท้าย รถตู้ และรถโดยสารไม่ประจำทาง และเน้นมาตรการควบคุมคุณภาพรถโดยสารสาธารณะ โดยเฉพาะมาตรการคนขับรถโดยสารสาธารณะ แอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์ อีกทั้งใช้มาตรการทางกฎหมายในการดำเนินการกับสถานที่จำหน่ายสุรานอกเวลาจำหน่ายและการลักลอบจำหน่ายสุราในสถานที่ห้ามจำหน่ายรถรงค์สวมหมวกกันน็อค-แจ้งจุดเสี่ยง
รมว.มหาดไทย กล่าวอีกว่า ส่วนมาตรการด้านวิศวกรรมจราจร ให้สำนักงานแขวงการทางจังหวัด สำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดการซ่อมแซมถนนที่ชำรุดและหากก่อสร้างไม่เสร็จควรให้หยุดการซ่อมแซมชั่วคราวในช่วงเทศกาล โดยติดตั้งสัญญาณไฟเตือนให้เห็นอย่างชัดเจน มาตรการด้านการประชามสัมพันธ์ รณรงค์ให้ผู้ใช้จักยานยนต์สวมหมวกนิรภัยในขณะขับขี่ และโดยสาร รณรงค์ผ่านสื่อการศึกษาเพื่อให้เด็กและเยาวชนปฎิบัติตามกฎหมายวินัยจราจร โดยเฉพาะการสวมหมวกนิรภัย การใช้ความเร็วและการไม่ดื่มแอลกอฮอล์ มีการประชาสัมพันธ์บริเวณที่เป็นจุดอันตราย ถนนที่อยู่ในระหว่างการซ่อมแซมเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและการจราจรติดขัด พร้อมรณรงค์ให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
update : 17-12-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : สุนันทา สุขสุมิตร