วิชาพลเมืองต้นแบบละครสร้างปัญญา
นวัตกรรมสร้างปัญญาละครเปิดกะโหลกชะโงกดูเงา ท้าทาย "ทักษะคิด-วิเคราะห์"
ความท้าทาย "ทักษะคิด-วิเคราะห์" สร้างกิจกรรมแบบโครงงานเวที "นวัตกรรมสร้างปัญญาละครเปิดกะโหลกชะโงกดูเงา" มูลนิธิสื่อชาวบ้าน (มะขามป้อม) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดขึ้นระหว่าง 17-18 ม.ค. ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การเรียนรู้สุขภาวะ เปิดประเด็นเรื่อง "จิตสำนึกความเป็นพลเมือง" ของเยาวชนที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการทำละคร ในวงสนทนา "จากนวัตกรรมละครสร้างปัญญาสู่พลเมืองเยาวชน"
ผศ.อรรถพล อนันตวรสกุล อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า ละครชุมชนคือพื้นที่แสดงออกในสังคมที่มีความแตกต่าง มีความขัดแย้งทางความคิดกันได้ดี เพราะในสังคมที่ละเอียดอ่อน การหยิบยกประเด็นปัญหามาพูดในที่สาธารณะต้องมีวิธีการ ต้องคัดกรอง หลีกเลี่ยงคำพูดบาดอารมณ์ ละครคือหนึ่งในรูปแบบการสื่อสารที่ตอบสนองได้ สามารถสอดแทรกเนื้อหาไปกับความสวยงามของศิลปะ ผศ.อรรถพล บอกด้วยว่า ความหมายละครไม่ได้อยู่ที่โปรดักชั่น แต่คือการเปิดพื้นที่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น เปิดโอกาสให้ทุกคนได้พูดผ่านสื่อ ขณะที่ผู้จัดทำต้องมีข้อมูลมานำเสนอ ต้องออกไปหาความจริงจากข้างนอกมาเล่า และเมื่อเจอโจทย์แรงๆ ที่กระแทกใจก็ต้องหยิบมาพูดพร้อมกับที่ความรู้สึกคนทำก็ย่อมเกิดความรู้สึกตื่นตัวที่อยากจะให้สังคมเห็นในสิ่งที่ตัวเองรู้สึก ความพิเศษของละครสร้างปัญญาจึงเป็นการสร้างนักละครเยาวชนที่ผสมผสานระหว่างความสนุกสนานกับเนื้อหาของสังคมได้เหตุนี้ตลอด 5-6 ปี กิจกรรมได้ขับเคลื่อนไปที่การสร้างเยาวชนให้ตื่นตัวกับประเด็นเรื่องสิทธิในด้านต่างๆ
เติ้ล-สุวิชาน มีเค้า นิสิต คณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา หนึ่งในสมาชิกกลุ่มละครเพื่อการเรียนรู้บางเพลย์ จ.ชลบุรี กล่าวว่า ได้แนวคิดของการพัฒนาสังคมจากการทำละครชุมชนโดยได้หยิบยกเรื่องใกล้ตัวอย่างแม่น้ำบางปะกง ซึ่งเป็นสายน้ำที่หล่อเลี้ยงชาวบ้านในภาคตะวันออกมานำเสนอเป็นละครเรื่อง "บางปะกง สายน้ำแห่งมังกร" ได้ศึกษาข้อมูล และพบว่าบริเวณใกล้ลุ่มน้ำบางปะกง กำลังจะเกิดโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่อาจทำให้วิถีชีวิตของชาวบ้านได้เปลี่ยนไป ดังนั้น แม้บทละครจะเป็นเรื่องแต่งขึ้น แต่ทั้งหมดล้วนมาจากข้อมูลจริงซึ่งพวกเขาได้ติดตามข่าวสารและทราบว่าพื้นที่หลายแห่งในภาคตะวันออกกำลังจะพัฒนา อาทิเช่น จ.ปราจีนบุรี ที่เชื่อมโยงกับนิคมอุตสาหกรรม จ.ระยอง ที่กำลังมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ท่าเรือน้ำลึก กระทั่ง จ.ชลบุรี ที่คุ้นเคยยังตั้งคำถามถึงการเจริญเติบโตของเมืองที่ส่งผลกระทบในหลากหลายด้าน ละครชุมชนที่ทำขึ้นจึงเลือกนำเสนอบางแง่มุมให้สาธารณะได้รับทราบถึงเรื่องราวเช่นนี้บ้างเพื่อให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
เจน-บัณฑิตา หลงรัก นิสิตคณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา และนักแสดงกลุ่มเดียวกัน กล่าวว่า การนำเสนอในรูปแบบละครได้ช่วยให้คนในชุมชนสนใจเรื่องราวของตัวเองมากกว่าการบอกด้วยท่าทีปกติ ละครเป็นพื้นที่ที่เหมาะกับคนทุกวัย เกิดการพูดคุยโดยใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐาน ขณะที่บุคคลภายนอกเมื่อได้ยินเรื่องราวก็มีโอกาสจะกลับไปศึกษาเพิ่มเติม เชื่อมโยงกับตัวเองและร่วมเป็นหนึ่งต่อการตัดสินใจ "กระบวนการละครเป็นเครื่องมือสื่อสารของคนทุกวัย โดยส่วนตัวตอนแรกสนใจแค่การแสดง ทราบปัญหาเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อมาทำละครต้องไปศึกษาข้อมูล ไปดูของจริง เกิดเป็นแรงบันดาลใจที่จะสร้างงานที่คนดูจะได้ประโยชน์มากกว่าความบันเทิง
ฤทธิ์-นาวา ภิญโญยาง นักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษา มหาสารคาม ที่ร่วมกิจกรรมละครกับกลุ่มภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า ได้ตั้งกลุ่มละคร "แมวดำ" สร้างละครเรื่อง "เลือดสีเดียวกัน" ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์จริงของเด็กอาชีวะที่มักก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันเพื่อความเชื่อที่เรียกว่าศักดิ์ศรี ละครต้องการสื่อว่าไม่มีประโยชน์ที่จะต่อยตีกันอีกต่อไปเมื่อตอนท้ายของการใช้ความรุนแรงมีแต่ความสูญเสีย
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ