‘วัยว้าวุ่น’ กับคำถามเรื่องเซ็กส์

   /data/content/19700/cms/cejprwxy1356.gif       อันเนื่องมาจากในช่วงวันวาเลนไทน์ของทุกปี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับวัยรุ่นจะกังวลเป็นพิเศษว่าเยาวชน (บางส่วน) มักมีเพศสัมพันธ์เพื่อแสดงความรักระหว่างกัน

          ทว่า จากประสบการณ์ของ จารุทรรศน์  สิทธิสมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสื่อและงานรณรงค์ มูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง (สคส.) หรือ “พี่วัยใส” ที่ไขข้อข้องใจให้น้องๆ ในเว็บไซต์ ทอล์ก อะเบาท์ เซ็กส์ (http://talkaboutsex.thaihealth.or.th) กลับมีข้อมูลที่แปลกออกไป ต้องหมายเหตุไว้นิดว่าเป็นสถิติของเว็บนี้เท่านั้น มิได้หมายความว่าเป็นภาพรวมของปัญหาทั้งหมดแต่อย่างใด

          จารุทรรศน์ กล่าวว่า วันวาเลนไทน์ที่ผู้ใหญ่ทุกกระทรวงห่วงหนักหนา แจกถุงยางกันครึกโครม กลัวว่าเด็กจะมีเพศสัมพันธ์กัน แต่ทางเว็บกลับไม่มีคำถามใน วันนั้น ซึ่งผิดวิสัยน้องๆ วัยรุ่น หากมีปัญหาปุ๊บ พวกเขา จะเข้ามาโพสต์คำถามทันที

          เธอตั้งข้อสังเกตว่าคำถามกลับมีมากในวันสำคัญทางศาสนา หรือวันพระ “เราดูจากสถิติในเว็บ คือเวลาน้องมีคำถามเขาจะไม่รอเวลาแต่ถามเข้ามาเลย บางทีมีคำถามเข้ามาตอนตี 1  ตี 2 ตัวอย่างคำถามเช่น การใช้ยาคุมฉุกเฉิน มีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดือนเป็นอะไรไหม…วันพระใหญ่จะ พีคมาเลย แต่ปีนี้มาคู่กัน รอดูว่ายังไง

          “จารุทรรศน์” เรียนจบปริญญาตรีด้านนวัตกรรมการออกแบบสื่อและผลิตสื่อ อาชีพเดิมคือนักข่าวสายการเมืองทางสถานีโทรทัศน์ ต่อ/data/content/19700/cms/adefhlmopv78.jpgมามีคนแนะนำว่า สสส.เปิดรับคนทำงานเว็บคอนเทนต์ มีหน้าที่เขียนบทความและตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องเพศ ก็เลยหันมาทำงานด้านนี้ “มันท้าทายตัวเอง คิดตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เราเห็นเพื่อน คนรอบข้าง โดนแฟนทิ้ง ไม่เรียนหนังสือ เรารู้สึกว่าสภาพแวดล้อมที่เราเจอ เพื่อนอกหัก ไม่อยากเรียน มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ท้องไม่พร้อม ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น เรามานั่งตอบคำถามที่วัยรุ่นสงสัยด้วย ถ้าเราแชร์ประสบการณ์ที่ผ่านมา สิ่งที่พบเจอ เริ่มแก้จากตรงนี้ บอกต่อน้องๆ แม้จะเป็นเว็บบอร์ดเล็กๆ แต่มันจะเป็นเสียงเล็กๆ ช่วยปรับทัศนคติ ทำให้เขารู้สึกว่าตรงนี้เป็นเพื่อนเขาได้ ตอบคำถามเหมือนพี่คุยกับน้อง เพราะสมัยก่อนเราเองก็ไม่ได้มีข้อมูล หันไปถามเพื่อนเพื่อนก็รู้เท่าเรา จึงไม่อยากให้น้องเจอประสบการณ์เรื่องเพศที่ไม่ดี”

          กลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่นซึ่งรู้จักเว็บบอร์ดจากการบอกต่อๆ กันมา โดยน้องๆ ที่เข้ามาโพสต์คำถาม มีตั้งแต่ ม.ต้นถึง ม.ปลาย มาจากเมืองใหญ่ๆ เช่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี กรุงเทพฯ พัทยา ชลบุรี

          จากประสบการณ์ตอบคำถามในช่วงสามปีที่ผ่านมา คำถามยังเป็นชุดเดิม อันดับต้นๆ คือ การใช้ยาคุมฉุกเฉิน ผลข้างเคียง รองลงมาคือการใช้ยาคุมกำเนิดแบบธรรมดาให้ถูกต้อง น้องมีเพศสัมพันธ์กับคู่รักโดยไม่สอดใส่แต่กลัวท้อง ความไม่มั่นใจประสิทธิภาพถุงยาง ใช้ถุงยางแล้วก็ยังกินยาคุมฉุกเฉิน พอเจอคำถามแบบนี้ต้องสร้างความเข้าใจให้เขาใหม่ บอกว่าไม่ถูกต้องเพราะอะไร

          คำถามส่วนใหญ่เป็นเรื่องการคุมกำเนิด? “ใช่ แล้วก็มีประจำเดือนมาไม่ปกติ ทั้งที่ไม่มีเพศสัมพันธ์ คนที่มาหาเรามักมีปัญหาแล้ว ปลายปี 2556 กลุ่มขยายขึ้น คู่รักเพิ่งแต่งงาน พ่อแม่เริ่มเข้ามาบ้าง คนรู้จักจากการที่เรารณรงค์ มีแคมเปญเรื่องเพศคุยได้” และว่าปัจจุบันวัยรุ่นรู้เรื่องเพศเร็วขึ้นจากอินเทอร์เน็ต สิ่งที่พบอาจเป็นข้อมูลไม่ถูกต้อง เช่น ใช้ถุงยางอนามัยซ้อนกันสองชั้นปลอดภัยกว่าชั้นเดียว ยาคุมฉุกเฉินกินก่อนมีเพศสัมพันธ์ โดยคนที่เข้ามาถามส่วนใหญ่มีประสบการณ์ทางด้านนี้แล้ว

          ที่ผ่านมาเขาไม่รู้ปรึกษาใคร? “ค่ะ จริงๆ วัยรุ่นอยากใช้ถุงยางอนามัย เท่าที่เห็น เทรนด์หันมาใช้กันเยอะ แต่กังวลจากท่าทีคนรอบข้างที่มองเขา เช่น น้องผู้ชายวัยรุ่นเข้าไปซื้อในร้านสะดวกซื้อก็โดนมอง บอกผมก็ไม่กล้าแล้วพี่ ขณะที่ไปซื้อยาคุมฉุกเฉิน เขาจะรู้สึกว่าสายตาคนมองน้อยกว่า คืออยากให้สังคมเปิดใจ เมื่อมีน้องผู้ชาย น้องผู้หญิง ไปซื้อถุงยางอนามัย…”

          “เรื่องเพศเป็นเรื่องธรรมชาติ เมื่อเด็กเข้าสู่วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่เองก็เคยผ่านช่วงนั้น เราก็มีอารมณ์ความต้องการ อยู่ด้วยกันสองต่อสองอารมณ์ก็พาไป อยากให้มองให้ลึก เด็กมีเพศสัมพันธ์ ไม่ใช่เด็กไม่ดี อยากให้มองแยกปัญหาว่าเขาแยกความรับผิดชอบได้ เช่น เขามีหน้าที่เรียนหนังสือ ก็เรียนและรับผิดชอบตัวเองเป็นอย่างดี ดูแลตัวเองได้ อยากถามว่าจริงๆ แล้วเราห่วงเด็กที่มีเพศสัมพันธ์ แต่คุณยอมรับได้ใช่ไหมหากเขาป้องกัน…ต้องยอมรับว่าวัยรุ่นที่เราเจอขณะนี้มันเกินขั้นที่เราจะบอกว่า ห้ามมีเพศสัมพันธ์นะ สิ่งที่เราทำได้คือจะให้เขาป้องกันตัวเองอย่างไร ไม่ให้ท้องไม่พร้อม จะดูแลตัวเองอย่างไรให้เรียนหนังสือไปถึงที่ฝันได้ จริงๆ ต้องปรับทัศนคติเราก่อน”

           สำหรับหลักในการตอบคำถามคือ พูดเชิงบวก ไม่ตำหนิ ให้กำลังใจ บางคนเขียนมาสี่หน้าอ่านจนจบแล้ว ปรากฏว่าไม่ได้ต้องการคำตอบ แต่ต้องการกำลังใจเท่านั้น บ้างก็อยากให้ช่วยยืนยันอีกทีว่าตนได้รับคำตอบถูกต้องแล้ว เช่น ไปหาหมอมาแล้ว หมอตรวจปัสสาวะบอกว่าไม่ท้อง

          “เขาต้องการคนคอนเฟิร์มหรือคุยกับเขาได้ในเรื่องนี้ เขาไปตรวจครรภ์ผลคือไม่ท้อง แต่ไม่กล้าบอกเพื่อนว่าเธอๆ ฉันไม่ท้อง พอเข้ามา/data/content/19700/cms/bdklnqrxy348.jpgในเว็บบอร์ดนี้ เราเป็นเหมือนเพื่อนจะว่าไม่ต้องกังวลแล้ว ไม่ท้อง บางครั้ง น้องอยากได้แค่นี้จริงๆ แต่ก็มีที่บอกว่ามีเพศสัมพันธ์บ่อย ไม่เคยใช้ยาคุมเลย ให้แฟนกินยาคุมฉุกเฉินแทน พอเขาเข้ามาในเว็บเราก็พูดคุยกับเขา จนเปลี่ยนไปว่าดูแลแฟนดี บอกเราว่าไม่ให้แฟนใช้ยาคุมฉุกเฉินแล้วนะครับ ใช้ ถุงยางแทน

          “คือเราบอกว่าน้องไม่ได้เป็นคนกินยาคุม ไม่ต้องเสี่ยง แต่ถ้าเรารักแฟนจริง สิ่งที่เราทำให้เขาได้คือดูแลเขาให้ดี สวมถุงยาง แฟนจะได้ไม่ต้องรับสารอะไรเข้าไปในร่างกาย ก็ไม่รู้เจอจุดคลิกอะไร ทำให้น้องผู้ชายปรับเปลี่ยนไป หรือน้องผู้ชายไม่ยอมใช้ถุงยางอนามัย เราก็บอกว่าวันนี้น้องโชคดี หากพรุ่งนี้พลาดเกิดอะไรขึ้น หากน้องผู้หญิงตั้งครรภ์ แฟนก็ไม่ได้เรียนหนังสือ ส่วนน้องที่เคยไปเตะฟุตบอลกับเพื่อน ก็จะไม่ได้ทำต่อไป ความฝันที่อยากเป็นสจ๊วต แอร์โฮสเตส ก็ไปไม่ถึง ให้เขาคิดเอาเอง เราจะไม่บอกว่าไม่ได้นะ แต่ให้เขาคิดเอง

          จากสถิติคนเข้าเว็บพบว่าช่วงปิดเทอมมีมากกว่าเปิดเทอม มียอดคนเข้าเว็บต่อเดือนประมาณ 7 หมื่นยูสเซอร์ และเพิ่มขึ้นตลอดช่วงสามปี มองในแง่ดีคือจำนวนวัยรุ่นที่ได้รับข้อมูลถูกต้องมีมากขึ้น ขณะเดียวกันตัวเลขดังกล่าวอาจบอกด้วยว่า เด็กวันนี้เรียนรู้เรื่องเพศไกลกว่าที่เราคาดคิด!

          ณัฐยา บุญภักดี ผู้ประสานงานมูลนิธิสร้างความเข้าใจเรื่องสุขภาพผู้หญิง (สคส.) บอกว่า เริ่มเปิดเว็บไซต์ในปี 2552 เนื่องจากทีมงานคิดกันว่าน่าจะมีแหล่งเรียนรู้สำหรับวัยรุ่น และจากการสำรวจทัศนคติและความคิดเห็นของวัยรุ่นตอนต้น ตอนปลายถามว่าอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษาบ้าง เวลามีคำถามอยากคุยกับใครมากที่สุด วัยรุ่นตอนต้นอายุ 10-11 ปีขึ้นมาตอบว่าอยากคุยกับพ่อแม่ วัยรุ่นตอนกลางถึงตอนปลาย ตอบว่าอยากคุยกับเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ เราถามพ่อแม่ว่าคุยกับลูกเรื่องเพศบ้างไหม คำตอบคือไม่คุยเลยทั้งสองกลุ่ม ถาม วัยรุ่นว่าเวลาอยากทราบข้อมูลเรื่องพวกนี้หาจากไหน อันดับหนึ่งคืออินเทอร์เน็ต เพราะมีความเป็นส่วนตัว ไม่มีใครรู้ว่าเขาเสิร์ชอะไร ทีมงานจึงคิดว่าต้องมีเว็บไซต์ด้านนี้ เพราะข้อมูล เชิงการแพทย์ หรือสุขภาพมีมากแล้ว

          “อยากให้เป็นพื้นที่ที่น้องๆ ล็อกอินเข้าเป็นส่วนตัว  ไม่ต้องเปิดเผยตัว ตั้งคำถามอะไรก็ได้ ที่กำลังเป็นปัญหาของเขา อยากรู้ ต้องการความช่วยเหลือ กลายเป็นที่มาของเว็บบอร์ดซึ่งมีสองส่วนคือ ส่วนที่ทีมงานเขียนขึ้นเองจากการดูแนวคำถามเด็ก เตรียมข้อมูลอ่านง่ายให้เขา และจากเว็บอื่นที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับเรื่องเพศเอามารวมไว้ด้วยกัน ให้มีพื้นที่รวบรวมสื่อการเรียนรู้ต่างๆ ที่ สสส.ผลิตขึ้นมาด้วย เพราะเราร่วมมือกับ สสส.”

           จากผลการสำรวจพบว่าวัยรุ่นค้นข้อมูลเรื่องเพศจากอินเทอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์ มาสองปีหลังค้นข้อมูลผ่าน สมาร์ทโฟน เพราะมี/data/content/19700/cms/adghjknovz36.pngความเป็นส่วนตัวมากกว่า ทางหน่วยงานจึงร่วมกับนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นสร้าง แอพ ME SEX สำหรับน้องๆ เพื่อให้น้องๆ เข้าถึงข้อมูล (ที่ถูกต้อง) ได้ง่ายขึ้น โดยสามารถดาวน์โหลดได้ในไอโฟน ไอแพด ไอพอด

           เนื้อหาในแอพพูดถึงการเปลี่ยนแปลงร่างกายเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น เช่น ความสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับประจำเดือน  การช่วยตัวเองคืออะไร การป้องกันการตั้งครรภ์มีวิธีไหนบ้าง ความสัมพันธ์ อกหัก รักร้าว มีหมด รวมทั้งทำลิงก์จากแอพให้เข้าไปล็อกอินและโพสต์คำถามในเว็บไซต์ ทอล์กอะเบาท์เซ็กส์ ได้ด้วย โดยกลุ่มเป้าหมายเริ่มตั้งแต่วัยรุ่นตอนต้น เรียนชั้น ป.4-5 เรียกว่าหากน้องๆ เริ่มสนใจเพศตรงข้ามก็เข้ามาอ่านได้แล้ว

          “คือเราบอกว่าน้องไม่ได้เป็นคนกินยาคุม ไม่ต้องเสี่ยง แต่ถ้าเรารักแฟนจริง สิ่งที่เราทำให้เขาได้คือดูแลเขาให้ดี สวมถุงยาง แฟนจะได้ไม่ต้องรับสารอะไรเข้าไปในร่างกาย”

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก  โดยสินีพร มฤคพิทักษ์

Shares:
QR Code :
QR Code