ร่วมรณรงค์วันไข้เลือดออกอาเซียน เร่งกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์
ที่มา : สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา
แฟ้มภาพ
วันที่ 15 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวัน ASEAN Dengue Day หรือวันไข้เลือดออกอาเซียน ในปี 2564 ภายใต้ประเด็นรณรงค์ คือ "อาเซียนสานพลัง ยับยั้งโควิด พิชิตไข้เลือดออก" พร้อมแนะยึดมาตรการ 3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค เร่งกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย
นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวถึง สถานการณ์โรคไข้เลือดออกในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 12 (ข้อมูลจากระบบรายงานการเฝ้าระวังโรค 506 สำนักระบาดวิทยา) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 ว่า พบผู้ป่วย 130 ราย คิดเป็น 0.13 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต จังหวัดที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือ สงขลา 48 ราย รองลงมา นราธิวาส 33 ราย, ยะลา 18 ราย, ปัตตานี 17 ราย, พัทลุง 6 ราย, ตรัง 6 ราย และสตูล 2 ราย
โดยทาง สคร.12 สงขลา ขอแนะนำมาตรการป้องกันควบคุมโรคไข้เลือดออกและโรคโควิด-19 เมื่อต้องเก็บตัวอยู่บ้าน บ้านต้องไม่มียุงลาย ใช้เวลาว่างกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายง่าย ๆ ตามมาตรการ 3 เก็บ (เก็บให้ เกลี้ยงไม่เลี้ยงยุงลาย) คือ 1. เก็บขยะ เศษภาชนะขังน้ำ ป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย 2.เก็บกวาด บ้านให้สะอาดปลอดโปร่ง ป้องกันยุงลายเกาะพัก 3. เก็บน้ำดื่ม น้ำใช้ให้สะอาดมิดชิด ป้องกันได้ทั้งโรค ไข้เลือดออก โรคปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา
นายแพทย์เฉลิมพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการสำรวจลูกน้ำยุงลาย ณ โรงพยาบาลสนาม ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ระหว่างเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน 2564 จำนวน 21 แห่ง พบลูกน้ำยุงลายในอาคาร ร้อยละ 24, พบลูกน้ำยุงลายในภาชนะรอบ ๆ อาคาร ร้อยละ 8 ของภาชนะทั้งหมด ภาชนะที่พบได้แก่ ภาชนะที่ใส่น้ำใช้, ภาชนะที่ไม่ใช้แล้ว, อ่างบัว, ยางรถยนต์ที่ไม่ใช้แล้ว จากการสำรวจดังกล่าว ได้มีการควบคุม และทำลายภาชนะที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย นอกจากนี้ ได้ดำเนินการการจัดการสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกอาคาร ไม่ให้เป็นแหล่งเพราะพันธุ์นำยุงลายและแมลงนำโรคอื่น ๆ ในโรงพยาบาลสนาม
ทั้งนี้ หากประชาชนมีอาการป่วย เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหอบ เบื่ออาหาร ปวดท้อง ซึ่งอาจมีลักษณะคล้ายกันหลายโรค ทั้งโรคไข้หวัดใหญ่ โรคไข้เลือดออก และโรคโควิด 19 จึงขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย รับประทานยาลดไข้ 1-2 วัน โดยให้เลือกรับประทานยาแก้ไข้พาราเซตามอล หลีกเลี่ยงการทานยากลุ่มเอ็นเสด (NSAIDs) เช่น ยาไอบูโพรเฟน แอสไพริน
เพราะถ้าเป็นไข้จากโรคไข้เลือดออก ยากลุ่มนี้ทำให้เกิดอาการเลือดออกมากขึ้น และเสี่ยงต่อการทำให้มีอาการหนักมากยิ่งขึ้น หากทานยาแล้วอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยโรคหาสาเหตุและรับการรักษาต่อไป หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคโควิด 19 และโรคไข้เลือดออก สามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422