ร่วมบรรเลงเพลงไร้พรมแดน ผ่าน “ดนตรีสร้างสุข”
“เครือข่ายดนตรีสร้างสุข” ถือเป็นเครือข่ายที่เกิดขึ้น ด้วยความร่วมมือร่วมใจของคนรักดนตรี
อย่างแท้จริง ทั้งอยากจะเป็นผู้สร้างสรรค์ สร้างความรื่นรมย์ กับหัวใจที่ดีงาม เพื่อจะมอบความสุข
และแบ่งปันเสียงดนตรีมอบให้แก่กัน โดยกิจกรรมต่างๆเกิดขึ้นทั่วประเทศ พร้อมกับการผลักดันของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ส่งเสริมทุกกิจกรรมดีๆ ผ่านเสียงดนตรีผนวกสื่อการสร้างสุขภาวะที่ดี สู่จิตใจ และพฤติกรรมกับเหล่าเยาวชนทั่วทุกพื้นที่
“เครือข่ายดนตรีสร้างสุข” เป็นการจัดกิจกรรมค่ายดนตรีและดนตรีสร้างสุขสัญจรมากกว่า 21 แห่งทั่วทุกภูมิภาค โดยเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2550 พบเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 1,000 คน พร้อมเกิดกลุ่มเยาวชนดนตรีกว่า 100 กลุ่ม สร้างสรรค์บทเพลงสร้างสุขกว่า 100 เพลง รวมถึงเยาวชนที่เข้าร่วมชมกิจกรรมดนตรีสร้างสุขสัญจรทั่วประเทศอีกจำนวนมากกว่า 10,000 คน นับเป็นการเปิดพื้นที่การแสดงออกเพื่อสร้างสุขภาวะของเยาวชน โดยเยาวชน เพื่อเยาวชน ผ่านบทเพลงและเสียงดนตรีอย่างแท้จริง
ทั้งนี้เกิดการขยายผลสู่การจัดงาน “มหกรรมดนตรีสร้างสุขระดับภาค” ช่วงมกราคม – มีนาคม 2551 ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น สื่อศิลปะพื้นบ้าน หน่วยงานสนับสนุนทั้งภาครัฐ และเอกชน พร้อมผนึกดนตรีคุณภาพโดยการร่วมร่วมกับศิลปินแห่งชาติ และ ศิลปินเพลงร่วมสมัยในแต่ละภูมิภาค เกิดเป็นผลงานดนตรีของคนรุ่นใหม่ใจสร้างสุข สู่พื้นที่สาธารณะ ภายใต้แนวคิดว่าด้วย “คุณค่าของการให้และแบ่งปัน” เพื่อสร้างสุขภาวะแก่จิตใจ ครอบครัว ชุมชน และสังคมโดยได้รับความสนใจจากสาธารณชนและสื่อมวลชนท้องถิ่นอย่างกว้างขวาง และต่อเนื่อง
และเกิดเป็นมหกรรมดนตรีสร้างสุขภายใต้แนวคิดที่เรียกว่า “ให้” ปลูกเพลงกลางสวน สร้างสุขกลางใจครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากภาครัฐอย่างกรุงเทพมหานคร เปิดพื้นที่สวนลุมพินี ในการจัด กิจกรรมสร้างสรรค์ สร้างสัญลักษณ์ความสุขกายสุขใจของมหานคร ให้เป็นสวนของบทเพลงและเสียงดนตรีของเยาวชน กลุ่มเยาวชนดนตรี จากแต่ละโครงการของเครือข่ายดนตรีสร้างสุขทั่วประเทศ และนำผลงานบทเพลงสร้างสุขมาบรรเลงร่วมกับกิจกรรมดนตรีเชิงสร้างสรรค์ที่หลากหลายไร้พรมแดนและไม่จำกัดเพศวัย พร้อมด้วยซุ้มกิจกรรมศิลปะและการละครอีกมากมายจากเครือข่ายของแผนงานทุนอุปถัมภ์เชิงรุกฯ เพื่อให้เด็ก ผู้ใหญ่ และเยาวชน ได้มีส่วนร่วมในการแบ่งปันสร้างสุขกับครอบครัว และ ชุมชน
“ดนตรีสร้างสุข” ไม่เพียงแต่สร้างสุขทั่วประเทศ แต่ยังเข้าไปกล่อมเกลาจิตใจเหล่าเยาวชนให้เกิดการเรียนรู้ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในแนวโน้มที่ดีขึ้น เห็นได้จากการพัฒนาก้าวเข้าสู่ปี่ที่ 2 และพบว่า นอกจากดนตรีจะช่วยเรื่องความเพลิดเพลินด้านจิตใจ ยังมีผลกระตุ้นต่อการความรับผิดชอบ ความกล้าแสดงออก และการมีส่วนร่วมกับคนรอบข้างได้มากขึ้นในหมู่เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรม “ดนตรีสร้างสุข” กับมิติการพัฒนาสุขภาวะ ในด้านต่างๆ ได้แก่
1. ความสัมพันธ์ เช่น เรื่องของครอบครัว หรือชุมชน
2. คุณค่า เช่น เชื่อมโยงสู่คุณค่าทางจิตใจ เช่น จิตอาสา การให้และแบ่งปัน
3. เยียวยา เช่น ดนตรีรักษาพฤติกรรม เปลี่ยนจากติดเกมส์ มาติดดนตรีแทน
4. การเรียนรู้ เช่น ดนตรีสอนวิถีชีวิต
5. การสื่อสาร เช่น ดนตรีบ่งบอกในสิ่งที่เด็ก ต้องการถ่ายทอดให้ผู้ใหญ่ได้รับรู้
6. พื้นที่สร้างสรรค์ เช่น ดนตรีเปิดพื้นที่กิจกรรมต่างๆโดยเยาวชน ให้เยาวชนด้วยกัน
พบผลลัพธ์กระบวนการเรียนรู้ เพื่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในพื้นที่ดนตรีสร้างสุขทั้งด้านคุณภาพ และผลสัมฤทธิ์ เช่น เยาวชนกล้าแสดงออกในทักษะที่ตนมีอยู่ และเปิดโลกทัศน์ของตนที่มีอยู่ได้กว้างจากเดิม โดยพื้นที่ทางภาคเหนือพบกระบวนการเรียนรู้ ที่ขยายผลได้เป็นอย่างดี ผ่านเสียงดนตรี อาทิ
โครงการดนตรีละอ่อนดอย สมาคมม้งแห่งประเทศไทย : พบการผลักดันให้เกิดความกล้าแสดงออกสำหรับเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งกล้าคิด กล้าทำกล้าร้องเพลง และมีความมั่นใจมากขึ้น พร้อมกับลดช่องว่าง สร้างความสัมพันธ์ในชุมชนได้เป็นอย่างดี
โครงการกลองสะบัดไชย โยชมรมเบิกฟ้าล้านนา บ้านเมืองก๊ะ : พบว่าดนตรีสร้างสุข เข้าไปสร้างให้เกิดความรับผิดชอบ และสอนเยาวชนให้มีการเรียนรู้เรื่องประเพณี วัฒนธรรมที่ดีงาม
โครงการดนตรีล้านนาสร้างสุข “ฮ่อมใหม่ ฮอยเดิม” โดยกลุ่มคีตะนาฏการล้านนา: สร้างกิจกรรมหนุนเหล่าเยาวชนให้สร้างสรรค์ดนตรี และบทเพลงพื้นบ้านในแนวร่วมสมัย ร้อยเรียงการเล่าเรื่องท้องถิ่นอย่างมีคุณค่า ส่งเสริมให้เยาวชนรับโควตาเข้าเรียน คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สำหรับใครที่สนใจข้อมูลดีๆ ของ “เครือข่ายดนตรีสร้างสุข” ทั้งบทเพลง ชิ้นงาน และกิจกรรมต่างๆ สามารถเปิดดูได้ที่ www.thaihealth.or.th หรือ สอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-2980500 ต่อ 1212
ที่มา : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.
update 03-04-52