ระวังป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่
ที่มา : สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช
แฟ้มภาพ
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช แนะประชาชนดูแลสุขภาพ ระวังป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ เนื่องจากช่วงนี้มีฝนตกในหลายพื้นที่ ทำให้ประชาชนเสี่ยงป่วยเป็นโรคไข้หวัด แนะประชาชนใช้มาตรการ "ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด"
พญ.ศิริลักษณ์ ไทยเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผย ข้อมูลของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค – 21 ต.ค. 2562 มีรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ จำนวน 318,887 มีผู้เสียชีวิต 20 ราย กลุ่มอายุที่พบมากสุด คือ 10 – 14 ปี รองลงมาคือ 7 – 9 ภาคที่มีอัตราป่วยสูงสุดคือ ภาคกลาง รองลงมาคือ ภาคเหนือ สำหรับพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ได้รับรายงานผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 15,931 ราย มีผู้เสียชีวิต 3 ราย กลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยสูงสุดคือ กลุ่มอายุ 0 – 4 ปี รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 5 – 9 ปี จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุดคือ ภูเก็ต รองลงมาคือ พังงา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร กระบี่ และระนอง ตามลำดับ
แพทย์หญิงศิริลักษณ์ กล่าวเพิ่ม เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ จะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย ติดต่อผ่านการไอ จาม หรือติดมากับมือ ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ จะมีไข้สูง ตัวร้อน หนาวสั่น ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คัดจมูก มีน้ำมูกใสๆ ไอ หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน หรืออาการรุนแรงขึ้น เหนื่อยมาก ให้รีบพบแพทย์ทันที เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน ลดอาการรุนแรง และการเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ หญิงตั้งครรภ์ เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างได้รับเคมีบำบัดและเบาหวาน ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ผู้ป่วยธาลัสซีเมีย ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ ผู้ที่มีโรคอ้วน น้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือค่าดัชนีมวลกาย (BMI) มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
ทั้งนี้ขอแนะนำประชาชนใช้มาตรการ "ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด" เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์ ได้แก่ ปิด คือปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม ต้องใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูปิดปากและจมูกทุกครั้ง หากเจ็บป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ ควรใส่หน้ากากอนามัย ล้าง คือล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันได ราวบนรถโดยสาร เลี่ยง คือหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย และหยุด คือเมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรมในสถานที่แออัด แม้ผู้ป่วยจะมีอาการไม่มากก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422