ย้อนรอย’น้ำท่วม’บางกอกปี2485-2539กรุงเทพฯจมบาดาล
หมายเหตุ: ข้อความบางช่วงเป็นภาษาตามต้นฉบับของหนังสือ “เหตุการณ์น้ำท่วม พ.ส. 2485”
เดือดร้อนไปตามๆ กันสำหรับ “พิบัติภัยน้ำท่วม” ที่ณ เวลานี้ เมืองฟ้าอมร นาม “กรุงเทพมหานคร” น้ำได้เอ่อล้นกระสอบทรายเข้าท่วมหลายพื้นที่แล้ว…
แม้เหตุน้ำท่วมครั้งนี้ ไม่มีผู้ใดอยากให้เกิดขึ้น แต่ทว่าความเป็นจริงก็คือ เมืองหลวงแห่งนี้ เคยถูกน้ำท่วมซ้ำซากหลายครั้ง หลายคราว นับตั้งแต่มีการสถาปนาเป็นราชธานี
“…ด้วยปรากตว่า ฝนตอนต้นรึดู พุทธสักราช 2485 ตกมากทางภาคพายัพ และภาคอิสาน เปนเหตไห้น้ำท่วมเรือกสวนไร่นา และบ้านเรือนราสดร ทั้งภาคเหนือ ภาคกลางและภาคอิสาน ไนระหว่างเดือนกันยายน ตุลาคม และพรึสจิกายน เปนอุทกภัยครั้งสำคันไนประวัติการน์น้ำท่วมของเมืองไทยที่ทำความเสียหายไห้แก่ประชาชนพลเมืองเปนหย่างมาก…”
ข้อความข้างต้น เป็นบันทึกประวัติศาสตร์ ในหนังสือ”เหตุการณ์น้ำท่วม พ.ส.2485″ ของ กระทรวงมหาดไทยซึ่งเหตุการณ์ครานั้น เกิดขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 และมีนายกรัฐมนตรีคือ จอมพลป.พิบูลสงคราม
ในปี พ.ศ.2485 เกิดเหตุน้ำท่วมครั้งร้ายแรงของเมืองไทย หลายจังหวัดที่มีชัยภูมิอยู่ในที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาล้วนได้รับความเดือดร้อนไปตามๆ กัน โดยเฉพาะชาวบางกอกเดือดร้อนหนักถึงขั้นต้องนำเรือออกมาพายแทนจักรยาน ครานั้นเมืองหลวง ต้องจมอยู่ใต้บาดาลนานนับเดือน
“…ไนตอนปลายเดือนกันยายน พ.ส. 2485 ระดับน้ำไนแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นเปนลำดับ ทั้งนี้วัดจากระดับน้ำที่กองรังวัดที่ดิน กรมที่ดิน เชิงสะพานพุทธยอดฟ้า น้ำเริ่มท่วมล้นฝั่งขึ้นมาเรื่อยๆ จนถึงวันที่ 12 ตุลาคม มีระดับน้ำสูงสุด2.27 เมตร แล้วก็ลดลง โดยลำดับจนแห้งไปหมด ราวกลางเดือนพรึสจิกายน…”
หนังสือ “เหตุการณ์น้ำท่วม พ.ส. 2485” ยังได้บันทึกเหตุ อุทกภัยครั้งประวัติศาสตร์ ไว้อีกหลายครั้ง…
พ.ศ.2328 ช่วงรัชกาลที่ 1 เกิดน้ำท่วมใหญ่ปีมะเส็งซึ่งเป็นปีที่สร้างกำแพงพระนครและพระราชวังกรุงรัตนโกสินทร์เสร็จนั้นเอง ได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ ปรากฏว่าระดับน้ำที่สนามหลวงลึกถึง 8 ศอก 10 นิ้ว
พ.ศ.2362 ในรัชกาลที่ 2 น้ำท่วมเดือน ตุลาคมข้าวยากหมากแพงเหมือนครั้งแรก
พ.ศ.2374 ในรัชกาลที่ 3 น้ำท่วมเดือนพฤศจิกายนคราวนี้น้ำท่วมทั่วพระราชอาณาจักร และมากกว่าปีมะเส็ง
พ.ศ.2402 ในรัชกาลที่ 4 น้ำท่วมเดือนพฤศจิกายนและปีพ.ศ. 2410 น้ำท่วมเดือน พฤศจิกายนอีกเช่นกัน แต่เสียหายไม่มาก เพียงท่วมภายนอกกำแพงพระราชวังเท่านั้น
พ.ศ.2422 ในรัชกาลที่ 5 น้ำท่วมเดือนพฤศจิกายนน้ำท่วมเพียงประตูพิมานไชยศรี
พ.ศ.2460 ในรัชกาลที่ 6 น้ำท่วมลานพระบรมรูปทรงม้าถึงกับมีการแข่งเรือกันได้
พ.ศ.2485 ในรัชการที่ 8 น้ำท่วมใหญ่ ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน ถึง 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2485 น้ำท่วมมากกว่าปี พ.ศ.2460 เกือบเท่าตัว เนื่องจากฝนตกหนักในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ระดับน้ำ ในแม่น้ำเจ้าพระยา มีระดับสูงมากไหลล้นคันกั้นน้ำ ทั้งสองฝั่งแม่น้ำตลอดแนว โดยวัดระดับน้ำท่วมที่สะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ได้ 2.27 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง
ขณะที่ข้อมูลจาก สำนักระบายน้ำกรุงเทพมหานคร ก็ได้มีการบันทึกสถิติ น้ำท่วมครั้งสำคัญในเขตกรุงเทพฯ ไว้หลายครั้ง…
พ.ศ.2518 เกิดน้ำท่วม เนื่องจากพายุดีเปรสชั่นพาดผ่านตอนบนลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้มีปริมาณน้ำสูงทางภาคกลางตอนบน เป็นเหตุให้น้ำไหลล้นเข้าท่วมกรุงเทพฯ
พ.ศ.2521 พายุ 2 ลูก คือ “เบส” และ “คิท” พาดผ่านขณะเดียวกันมีปริมาณน้ำไหลบ่าจากแม่น้ำป่าสักเป็นจำนวนมากทำให้เกิดน้ำไหลบ่าจากทุ่งด้านตะวันออก และ เข้าท่วมพื้นที่กรุงเทพฯ
พ.ศ.2523 ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา มีระดับสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ที่สะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ2.00 เมตร ประกอบกับมีฝนตกในพื้นที่กรุงเทพฯ ในช่วง 4 วันทำให้เกิดน้ำท่วมขัง
พ.ศ.2526 น้ำท่วมในปีนี้มีสภาพรุนแรงมาก เนื่องจากมีพายุพัดผ่านภาคเหนือ และภาคกลางในช่วงเดือนกันยายน- ตุลาคมประกอบกับมีพายุหลายลูกพัดผ่านกรุงเทพฯ ในช่วงเดือนตุลาคม
พ.ศ.2529 เกิดฝนตกหนักมาก และตกติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 8-10 พฤษภาคม 2529 เนื่องจากได้มีพายุ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ในกรุงเทพฯ
พ.ศ.2533 ในเดือนตุลาคม พายุโซนร้อน “อีรา” และ”โลล่า” พัดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมที่กรุงเทพฯ
พ.ศ.2537 เกิดพายุฝนฤดูร้อนถล่มกรุงเทพฯ และปริมณฑลเมื่อวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2537 วัดปริมาณฝน ได้มากที่สุดในประวัติการณ์ เรียกได้ว่าเป็น “ฝนพันปี” ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่สร้างความเดือดร้อนไปทั่วกรุงเทพฯ
พ.ศ.2538 มีฝนตกในภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากพายุหลายลูกพัดผ่าน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม เป็นต้นมา และมีสภาพฝนตกหนัก ในช่วงเดือนสิงหาคม- ตุลาคม เนื่องจากพายุ “โอลิส” ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา มีระดับสูง โดยวัดที่สะพานสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2538 มีค่าระดับสูงถึง2.27 เมตร (รทก.) ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (เท่าน้ำท่วมปีพ.ศ. 2485) ทำให้น้ำล้นคันป้องกันน้ำท่วมริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าท่วมพื้นที่ริมแม่น้ำในระดับสูงถึง 50-100 ซม.
พ.ศ.2539 มีน้ำท่วมขังตั้งแต่เดือน พฤศจิกายนธันวาคม 2539 ตั้งแต่หลังปี 2539 เป็นต้นมา ยังไม่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงในเขตกรุงเทพมหานคร มีเพียงน้ำท่วมขังในเวลาไม่นานก็ระบายออกได้สู่ภาวะปกติ
นับเป็นเวลามากกว่า 200 ปี ที่เมืองฟ้าอมรแห่งนี้ต้องผจญกับพิบัติภัยน้ำท่วม…การเรียนรู้อดีต เพื่อใช้เป็นแนวทางป้องกันปัญหาน้ำท่วมในอนาคต จึงนับเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า