ยุติความรุนแรง เพิ่มความแข็งแรงในครอบครัว

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ


ยุติความรุนแรง เพิ่มความแข็งแรงในครอบครัว thaihealth


แฟ้มภาพ


 


วาระความรุนแรงในครอบครัวถือเป็นประเด็นที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ของสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเหยื่อของความรุนแรงที่เกิดขึ้นมักลงที่ "เด็ก" ในช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปี องค์การสหประชาชาติ (United Nations) ได้กำหนดให้วันที่ 25 พฤศจิกายน เป็นวันยุติความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก


ทางภาครัฐเองก็มีการขานรับ เรื่องนี้อย่างเต็มที่ โดยได้มีการประกาศให้เดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนเพื่อรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก โดยมีหลายภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมมากมาย ผ่านการจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อให้พ่อแม่ ผู้ปกครองเกิดความรู้ความเข้าใจ และตระหนักในการป้องกันปัญหา รวมถึง การแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเด็ก เนื่องจาก ครอบครัว มีส่วนสำคัญที่สุดที่จะ ร่วมสร้างสุขภาพกาย สุขภาพใจ และพัฒนาการทางสังคมให้เด็กมีคุณภาพ เป็นอนาคตที่สำคัญของชาติ


นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่าสถานการณ์ ในปัจจุบัน มีการใช้ความรุนแรงกับเด็กมากขึ้น ซึ่งอาจมาจากบุคคลภายในครอบครัว บุคคลที่เด็กรู้จัก ญาติที่ใกล้ชิด กับเด็ก หรือบุคคลภายนอก จากการถูก กระทำรุนแรงส่งผลกระทบด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ ความสัมพันธ์ในครอบครัว


ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในปี 2558 พบว่า มีเด็กถูก กระทำ 10,776 คน แบ่งเป็นถูกกระทำทางด้านร่างกาย 2,470 คน ทางด้าน อารมณ์ จิตใจ 638 คน ถูกกระทำ ทางเพศ 6,740 คน ถูกละเลยทอดทิ้ง 673 คน และถูกล่อลวง/บังคับแสวงหาผลประโยชน์ 255 คน  จากความรุนแรง ที่เกิดขึ้นกับเด็กไทย  ดังกล่าว กรมการแพทย์ นอกจากเน้น ด้านการดูแลรักษาเด็ก แล้วยังให้ความสำคัญเชิงป้องกัน โดยสนับสนุนการจัดกิจกรรม รณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก อย่าง ต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี


นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา  ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของความรุนแรงในเด็ก  ทางโรงพยาบาลได้เปิดบริการศูนย์พึ่งได้เพื่อเป็นศูนย์กลางในการช่วยเหลือเด็กที่ถูกกระทำรุนแรงตาม พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และพ.ร.บ. คุ้มครอง ผู้ที่ถูกกระทำรุนแรงในครอบครัว  พ.ศ. 2550โดยมีเป้าหมายในการสงเคราะห์และคุ้มครองเพื่อให้เด็กปลอดภัย  ไม่ถูกกระทำซ้ำ และสามารถกลับไปดำเนินชีวิตต่อในสังคมอย่างปกติสุข  มีการทำงานแบบสหวิชาชีพ ประกอบด้วย แพทย์ จิตแพทย์ นักจิตวิทยา นักสังคม สงเคราะห์ และพนักงานเจ้าหน้าที่  ให้ความสำคัญในการดูแลเด็กทุกมิติทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม


จากสถิติศูนย์พึ่ง สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ปีงบประมาณ 2561 พบว่า มีเด็กที่ถูกกระทำรุนแรง เข้ารับบริการ 109 คน แยกเป็นเด็กชาย 59 คน เด็กหญิง 50 คน มีเด็กอายุ แรกเกิด ถึง 1ปี 80 คน รองลงมา  อายุ 1-5 ปี 21 คน


สำหรับประเภทการถูกกระทำรุนแรง พบว่า เลี้ยงดูไม่เหมาะสม ละเลย ทอดทิ้ง มีจำนวนมากที่สุด คือ 80 คน ถูกกระทำความรุนแรงทางเพศ 16 คน และทางด้านร่างกาย 13 คน จากจำนวนดังกล่าว พบว่าเด็กถูกกระทำรุนแรงจากบุคคลภายในครอบครัวหรือญาติ สูงถึง 96 คน


ต้องไม่ลืมว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นล้วนส่งผลทั้งร่างกาย และจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาการบาดเจ็บ หรือเป็นโรคผิดปกติต่างๆ เช่น ความผิดปกติเรื่องการทานอาหาร ปวดท้อง และ ยังขัดขวางพัฒนาการของเด็กใน มิติอื่นๆ


ส่วนด้านสุขภาพจิตใจ เด็กอาจรู้สึกเศร้าเสียใจ เสียความภูมิใจในคุณค่าของตนเอง สิ้นหวัง จนอาจมีอาการเศร้าซึมรุนแรง วิตกกังวล มีปัญหาการเข้าสังคม จน มีแนวโน้มฆ่าตัวตาย หรือ อาจกลายเป็น เด็กมีพฤติกรรมก้าวร้าว ไม่เคารพกฎระเบียบ เนื่องจากความโกรธหรือความเครียดสะสม ส่งผลให้เด็กมี แนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น นิยมชมชอบการกระทำที่ผิดกฎหมาย เสพติดการใช้สารเสพติดต่างๆ ไปจนถึง การเข้าร่วม หรือกลายเป็นผู้ก่ออาชญากรรม เป็นต้น


เด็กจึงไม่ใช่แค่เพียงผ้าขาวที่รอวันย้อมสี หากแต่ยังหมายถึงกระจกสะท้อนของครอบครัวอีกด้วย

Shares:
QR Code :
QR Code