‘มัสยิดครบวงจร’ เดินหน้าสร้างสุขภาวะคนในชุมชน
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
หนึ่งในศูนย์รวมจิตใจของผู้ที่นับถือศาสนาอิสลาม คือ "มัสยิด" หรือ "สุเหร่า" โดยชาวมุสลิมในแต่ละชุมชนจะสร้างมัสยิดขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา เช่น การนมาซ และการวิงวอน การปลีกตนเพื่อบำเพ็ญตบะ หรือหาความสันโดษ
ซึ่งพิธีปฏิบัติดังกล่าวสอดคล้องกับความหมายของคำว่ามัสยิดที่มีรากคำมาจากภาษาอาหรับ ที่แปลใจความได้ว่า "สถานที่กราบ"สำหรับประเทศไทยตามข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยพบว่า มีมัสยิดอยู่ราว 3,722 แห่ง ตั้งอยู่ทั่วประเทศใน 68 จังหวัด โดยอยู่ใน 14 จังหวัดภาคใต้ มากที่สุดคือ 3,158 แห่ง
นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า บทบาทของมัสยิดในปัจจุบัน มีปัจจัยเกื้อหนุนหลายประการที่สามารถทำให้มัสยิดเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืนได้ เช่น ปัจจัยทางด้านกฎหมายที่กำหนดให้มัสยิดเป็นนิติบุคคล ปัจจัยทางด้านบุคลากรในชุมชนและคณะกรรมการมัสยิดที่มีวุฒิการศึกษาสูงขึ้น ปัจจัยด้านข้อมูลข่าวสารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกทั้ง มัสยิดยังเป็นโรงเรียนสอนอัลกุรอา และศาสนา เป็นสถานที่ชุมนุมพบปะ ประชุม เฉลิมฉลอง ทำบุญเลี้ยง สถานที่ทำพิธีสมรส และสถานที่พักพิงของผู้สัญจรผู้ไร้ที่พำนัก ฯลฯ
เป็นที่มาของการจัดเวทีสร้างความเข้าใจในการดำเนินกิจกรรม "มัสยิดครบวงจร" เมื่อเร็วๆ นี้ ณ นูรุลเอี๊ยะซาน ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยมี กรรณทิมา หมื่นระย้า รองผู้อำนวยการศูนย์กิจกรรมภาคใต้ตอนบน มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.) ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)พร้อมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์กิจกรรมภาคและคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.สุราษฎร์ธานี เข้าร่วมลงพื้นที่จัดกิจกรรมด้วย โดยมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจกรรมมัสยิดครบวงจรว่า มัสยิดจะเกิดผลสำเร็จและบรรลุเป้าหมายดังนี้คือ
1.มัสยิดต้องมีการปรับภูมิทัศน์บริเวณมัสยิด และมีการดูแลรักษาความสะอาดภายนอกและภายในอาคารมัสยิด
2.มัสยิดจะต้องเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ และมีการติดป้ายเขตปลอดบุหรี่อย่างชัดเจน
3.มัสยิดต้องมีการบริหารการจัดการที่ดีเป็นแหล่งเรียนรู้ และมีบทบาทในด้านการส่งเสริมอาชีพให้กับสมาชิกในชุมชน เพื่อเพิ่มรายได้ให้คนในชุมชน และ 4.มัสยิดจะต้องมีห้องน้ำผู้สูงอายุในมัสยิด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการ
อย่างไรก็ดี การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจาก ชวลิต บุหงอ รองประธานกรรมการอิสลามประจำ จ.สุราษฎร์ธานี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด และร่วมบรรยายในหัวข้อเรื่อง "บทบาทของผู้บริหารมัสยิดและความสะอาดเป็นส่วนหนึ่งของความศัทธา" โดยสอดแทรกเนื้อหาการบริหารงานมัสยิดของคณะกรรมการมัสยิดอย่างมีคุณภาพ เช่น การช่วยกันในเรื่องของการรักษาความสะอาดในมัสยิด การรณรงค์ให้มัสยิดมีการคุตบะวันศุกร์ในเรื่องของสุขภาวะ โดยใช้เอกสารของแผนงาน (สสม.) ที่มีอยู่แล้วในมัสยิดมาเป็นข้อมูลในการให้ความรู้
การจัดอบรมครั้งนี้ มีคณะกรรมการมัสยิด ผู้นำชุมชน และกลุ่มมุสลิมมะ เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 100 คน ซึ่งพบว่าทุกคนให้ความสนใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทุกคนปฏิญาณจะร่วมกันขับเคลื่อนให้มัสยิดเป็นมัสยิดให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรยากาศในการเปิดเวทีให้ความรู้ในครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและอบอุ่น
ด้าน ผศ.อับดุลเลาะ หนุ่มสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านอิสลามศึกษา ระบุว่า ปัญหาของชุมชนมัสยิดส่วนมากในทุกวันนี้ แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1.ปัญหาอาชญากรรม 2.ปัญหายาเสพติด และอบายมุขอื่นๆ และ 3.ปัญหาความแตกแยกและการทะเลาะวิวาท
ผู้เชี่ยวชาญด้านอิสลามศึกษา กล่าวว่า ปัญหาเหล่านี้ มัสยิดจะต้องมีบทบาทโดยตรงในการป้องกันและในการแก้ไขทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว ผ่านกระบวนการให้การศึกษาและอบรมสั่งสอนที่เข้าถึงบุคคลได้ง่าย เช่น คุตบะฮฺวันศุกร์ ที่นำเสนอปัญหาของชุมชนมัสยิด และควรให้คนในชุมชนตระหนักถึงการรับผิดชอบในการป้องกันและแก้ไขปัญหาของชุมชนร่วมกันหรือเสียงตามสายเพื่อบอกเวลาละหมาด และประชาสัมพันธ์กิจการต่างๆ ของมัสยิด รวมถึงการเยี่ยมเยียนเป็นรายบุคคล ซึ่งเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะป้อมปรามและแก้ไขปัญหาของชุมชนได้
นอกจากนั้น จะเป็นการทำสัตยาบันร่วมกันหรือบัยอะฮ์ และมัสยิดในปัจจุบันควรมีบทบาทในด้านสวัสดิการชุมชน โดยการจัดตั้งกองทุนอย่างน้อย 2 กองทุน คือ 1.กองทุนการกุศลเพื่อสงเคราะห์ผู้ยากไร้ 2.กองทุนซะกาตเพื่อสวัสดิการชุมชน"เมื่อคนในชุมชนรู้สึกว่ามัสยิมสร้างเขา เขาก็พร้อมจะกลับมาพัฒนามัสยิดของตัวเอง ซึ่งระบบนี้ก็จะทำให้มัสยิดมีบทบาทในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน กลายเป็นมัสยิดครบวงจร
ผศ.อับดุลเลาะ ยังบอกด้วยว่า มัสยิดในปัจจุบันควรจะประสานงานในเชิงรุกกับหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ ตั้งแต่ระดับท้องถิ่นถึงระดับชาติ อาทิเช่น องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สำนักงานเขตหรือสำนักงานอำเภอ สภาจังหวัด และกรมการศาสนากระทรวงวัฒนธรรม เพื่อขอรับการสนับสนุนในกิจการต่างๆ ทั้งการส่งเสริมการศึกษาในชุมชน และการพัฒนาสิ่งแวดล้อมในชุมชน เช่น การส่งเสริมการศึกษาและนันทนาการ โครงการอบรมแก้ไขปัญหายาเสพติด โครงการลานกีฬา แม้แต่ในด้านสาธารณูปโภค เช่น ถนนหนทาง ไฟฟ้า น้ำ และโทรศัพท์สาธารณะ โดยเริ่มต้นที่มัสยิดเป็นตัวอย่าง ทำให้บริเวณมัสยิดมีสภาพแวดล้อมที่ร่มรื่น สะอาดและเจริญหูเจริญตา เป็นบริเวณปลอดบุหรี่ ปลอดอบายมุขและสิ่งมึนเมา และปลอดจากสิ่งต้องห้ามทั้งปวงตามศาสนบัญญัติ.