‘มหาสารคาม’ ร่วมป้องกันแก้ไขการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
ภาพประกอบสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
จ.มหาสารคาม ระดมเครือข่ายป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น ร่วมพัฒนทักษะการให้คำปรึกษาที่เป็นมิตร และเข้าใจกฏหมายการทำแท้ง
ที่ห้องประชุมโรงแรมตักสิลา อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม สำนักงานกองทุนสนับสุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) นำผู้รับผิดชอบงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น จากโรงพยาบาลมหาสารคาม โรงพยาบาลวาปีปทุม โรงพยาบาลกันทรวิชัย สำนักง่านสาธารณสุขอำเภอ บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดมหาสารคาม อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ผู้นำชุมชน ในพื้นที่นำร่อง 3 อำเภอ 6 ตำบล รวม 40 คน เข้าร่วมการอบรมพัฒนาทักษะการให้คำปรึกษาผู้ให้บริการในการบริการที่เป็นมิตรสำหรับวัยรุ่น โครงการป้องกันและแก้ไขการตั้งครรภ์วัยรุ่น จังหวัดมหาสารคาม โดยมีนายคิมหันต์ ยงรัตนกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดโครงการ
นายแพทย์เรืองกิตติ์ ศิริกาญจนกูล ผู้ประสานงานเครือข่าย R-SA (หรือเครือข่ายแพทย์อาสารับส่งต่อการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย ตรงตามกฎหมาย ตามข้อบังคับของแพทยสภา ด้วยหลักทางวิชาการที่ทันสมัยและราคาไม่แพง ให้กับผู้หญิงทุกวัยที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อม) เปิดเผย 10 เหตุผลที่ผู้หญิงท้องไม่พร้อมไม่รีบแก้ปัญหา เช่น ไม่กล้าถามเพื่อนหรือคนใกล้ตัว ไม่มีใครให้คำปรึกษาที่มั่นใจ ไม่มีใครพาไปหาหมอ ความอาย กลัวคนอื่นรู้ ไม่รู้จักสถานที่ให้บริการ เล่าให้หมอฟังยาก กลัวหมอถามว่าทำไมไม่ป้องกัน และไม่มีเงิน ส่งผลเสียต่อหญิงท้องไม่พร้อมไม่ได้รับการดูแลในเวลาที่เหมาะสม อาจนำไปสู่การแท้งและทำแท้งที่ไม่ถูกต้อง และอาจเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งการตัดวงจรปัญหาดังกล่าวได้ คือให้แพทย์ พยาบาลมีความเห็นใจคนที่มาปรึกษาในรูปแบบบริการที่เป็นมิตร คือด้วยสายตาและคำพูดที่เป็นมิตร ไม่พูดจาซ้ำเติม เพราะคนไข้กลุ่มนี้จะอ่อนไหว ทั้งนี้แพทย์ พยาบาลควรศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการยุติการตั้งครรภ์ ซี่งสามารถทำได้ภายใต้เงื่อนไขตามที่กฏหมายกำหนด
ผู้ประสานงานเครือข่าย R-SA บอกว่า การทำแท้งขณะท้องโตมากจะมีความอันตรายเพิ่มขึ้น 37% ซึ่งการทำแท้งโดยแพทย์อัตราการตายจะน้อยกว่าคิดเป็น 1 ต่อ 1 แสนราย ยิ่งถ้าทำแท้งโดยแพทย์ขณะท้องต่ำกว่า 8 สัปดาห์หรือไม่เกิน 2 เดือน อัตราตายแค่ 0.1 ต่อ 1 แสนราย ส่วนการคลอดลูกตามปกติอัตราการตายกลับมากกว่า คิดเป็น 25 ต่อ 1 แสนราย ปัจจุบันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในกลุ่มวัยรุ่น เป็นปัญหาสังคมที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ และจะนำไปสู่ปัญหาอื่นๆ เช่น เด็กถูกทอดทิ้ง เด็กกำพร้า ซึ่งเด็กเหล่านั้นจะอาจกลายเป็นปัญหาของสังคมอีก ดังนั้นเด็กวัยรุ่นที่กำลังจะเป็นคุณแม่วัยเยาว์จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะบางคนอาจไม่รู้ว่าจะต้องปฏิบัติตนอย่างไรในขณะตั้งครรภ์ จนมีผลให้ทารกในครรภ์ไม่ได้รับการดูแล จนเกิดภาวะแทรกซ้อน การแท้ง น้ำหนักน้อยและคลอดก่อนกำหนด