พ่อพิมพ์นักสู้ รณรงค์ไม่สูบ-ไม่ดื่ม นำร.ร.สู่วิถีพุทธ

 

 

ที่น่าสนใจคือ ครูธัญวิทย์เป็นนักสร้างสรรค์ที่ค่อยๆ พัฒนาโรงเรียนจนได้รับการประกาศเป็นโรงเรียนต้นแบบวิถีพุทธและโรงเรียนสีขาว คว้ารางวัลส่งเสริมสุขภาพระดับเพชรของกรมอนามัย เมืองปทุมธานี และในขณะนี้กำลังขยายผลไปยังโรงเรียนข้างเคียง รวมไปถึงพ่อแม่ผู้ปกครองเพื่อสร้างสังคมที่มีสุขภาวะที่ดี และการใช้ชีวิตที่ไม่ข้องเกี่ยวกับเหล้า-บุหรี่

 

วิถีพุทธ เป็นพื้นฐานที่ควรส่งเสริมเด็กและบุคลากรภายในโรงเรียน โดยมีคุณลักษณะพึงประสงค์ 8 ประการ ได้แก่ รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซื่อสัตย์สุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง เรายึดแนวพระราชดำริในหลวง ผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดินเป็นแบบอย่าง น้อมนำมาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม แล้วก็ต้องมุ่งมั่นทำงาน รักความเป็นไทย สุดท้าย คือ มีจิตสาธารณะ เราปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ในจิตใจนักเรียนและครู” ผอ.ธัญวิทย์ กล่าว

 

 

ในส่วนการทำงานรณรงค์และจัดกิจกรรมในโรงเรียนนั้น ผู้อำนวยการคนเก่งบอกว่า เน้นให้เด็กๆ มีส่วนร่วม จัดกิจกรรมในเรื่องใกล้ตัวนักเรียน โดยเฉพาะในเรื่องการให้ความรู้ที่ถูกต้อง อย่างอันตรายของยาเสพติด และเหล้า-บุหรี่ เริ่มทำโครงการภายในโรงเรียน แล้วให้เด็กนักเรียนไปขยายสู่ผู้ปกครองและชุมชนที่พวกเขาอยู่อาศัย นอกจากนี้ ในวันสำคัญทางศาสนา วันพระ วันสำคัญของพื้นที่จัดกิจกรรมขึ้นมามีเด็กในโรงเรียนเป็นแกนนำ เกิดผลที่เป็นรูปธรรม ได้เป็นโรงเรียนนำร่อง โรงเรียนสีขาวปลอดยาเสพติด ที่ผ่านมาการจัดกิจกรรมภายในโรงเรียนปรับให้มีความทันสมัยและทันต่อสภาพ ปัญหายิ่งขึ้น อย่างก่อตั้งชมรมเด็กไทยทำได้ขึ้นในโรงเรียน จากนั้นนักเรียนไปเดินรณรงค์ตามชุมชน

 

“ครูของโรงเรียนทุกคนต้องไปเยี่ยมบ้านนักเรียนประจำชั้นตัวเอง เดิมครูไปเฉพาะบ้านของเด็กที่มีปัญหา แต่นโยบายของโรงเรียนต้องไปบ้านลูกศิษย์ทุกบ้าน เพื่อทราบปัญหาการเรียนการสอนและความต้องการต่างๆ ไปรู้จักพ่อแม่ รับรู้รายได้ ข้อมูลเหล่านี้สำคัญกับครู ใช้จัดลำดับความจำเป็นในการช่วยเหลือ หรือเป็นแนวทางสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัวของลูกศิษย์ แล้วไม่ใช่ปีละครั้ง แต่ครูทำทุกภาคเรียน ครูต้องทำให้เด็กและผู้ปกครองไว้วางใจ รู้สึกเป็นมิตรกับโรงเรียนถึงจะช่วยกันคลี่คลายปัญหาได้” พ่อพิมพ์คนเก่งกล่าว

 

การปลูกฝังค่านิยมที่เป็นตัวอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิตถือเป็นหัวใจสำคัญ ผู้อำนวยการคนเดิมบอกด้วยว่า ครูและนักเรียนต้องรู้จักหน้าที่ของตัวเอง และพึ่งพาตัวเองให้ได้ ในเรื่องการประหยัดเราปลูกฝังให้เด็กๆ รู้จักอดออมผ่านการทำบัญชีธนาคารโรงเรียน นักเรียนต้องฝากเงินทุกวัน วันละ 1 บาท หรือมากกว่านั้นก็ได้ สิ้นเดือนนำเงินไปฝากธนาคาร สร้างจิตสำนึกเงินทองเป็นของหายาก แล้วยังส่งเสริมอาชีพในครอบครัวลูกศิษย์ที่สถานะยากจน หากมีพื้นที่ว่างในบริเวณบ้านก็แนะนำให้ปลูกพืชผักสวนครัว ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายอีกทาง สำหรับครอบครัวที่มีพ่อแม่นักดื่มนั้น ครูก็ให้ความรู้เด็กเรื่องพิษภัย เด็กไปบอกผู้ปกครอง ชวนพ่อเลิกเหล้า วันพ่อวันแม่โรงเรียนก็นำประเด็นนี้มาใช้รณรงค์ด้วย

 

 

ผอ.ธัญวิทย์ บอกอีกว่า แม้จะได้รับคำชมเชยถึงความสำเร็จในการบริหารโรงเรียนตลอด 5 ปีที่ผ่านมา แต่ก็คิดว่ามีอีกหลายโครงการที่ต้องปรับปรุง และต่อยอดเพื่อขยายแนวคิดวิถีพุทธต่อไปไม่หยุดยั้ง ทำแต่ละโครงการให้ดีขึ้นๆ หากเกิดปัญหาใหม่ๆ ขึ้นมากับเด็กหรือโรงเรียน ก็ทำโครงการแก้ปัญหา ส่วนปัญหาที่มีมากต้องให้ลดลงมากเท่าที่จะทำได้

 

ครูเปรียบเสมือนเรือจ้างที่จะส่งศิษย์ไปถึงฝั่ง พ่อพิมพ์ต้นแบบฝากถึงเพื่อนร่วมวิชาชีพว่า ไม่ว่าจะยุคสมัยใดคนเป็นครูปรารถนาสอนสั่งศิษย์เป็นคนดีของสังคม นี่คือหน้าที่หลัก แต่อยากให้ครูทุกคนมีจิตวิญญาณอย่างแท้จริง ไม่ใช่มีอาชีพเป็นครู แต่มีอุดมการณ์ของครู โดยเฉพาะผู้บริหารต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนา ระยะแรกอาจเจ็บปวด แต่ในที่สุดจะเกิดความเจริญงอกงาม อยากให้ทำงานอย่างมีเป้าหมาย ไม่ใช่ทำไปวันๆ หากการทำงานประสบผลสำเร็จ ชื่อเสียงตามมา ส่งผลให้คนในองค์กรและผู้ปกครองภาคภูมิใจ กลายเป็นแรงศรัทธาพร้อมกลับมาช่วยเหลืองานของโรงเรียนทำให้โรงเรียนก้าวหน้า เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศ ส่วนลูกศิษย์ วันครูนี้ขอให้ร่วมกันระลึกถึงพระคุณครู หากมีโอกาสก็กลับไปคารวะครู