พิชิตสุขภาพดีใน 60 วัน ด้วยแอปฯ Persona Health เพื่อนคู่คิดคนใหม่ของคนรักสุขภาพ

ที่มา : โครงการพัฒนาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมระดับบุคคลด้วยแอปพลิเคชัน Persona Health 

                    เมื่อทั่วโลกและไทยกำลังเผชิญวิกฤตสุขภาพที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะโรค NCDs ที่กำลังคุกคามชีวิตประชากรจำนวนมหาศาล ข้อมูลจาก www.diabetesatlas.org ระบุว่า ประชากรโลก 1 ใน 10 คน หรือประมาณ 537 ล้านคน ป่วยเป็นเบาหวาน และมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 4 ล้านคนต่อปี คาดการณ์ว่าในปี 2588 ตัวเลขผู้ป่วยจะพุ่งสูงถึง 783 ล้านคน โดยผู้ป่วยเบาหวาน 90% เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ซึ่งมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม

                    สถานการณ์ในประเทศไทยเองไม่ต่างกัน โดยพบว่า โรคเบาหวานเป็นสาเหตุอันดับ 1 ที่คร่าชีวิตคนวัยทำงาน รองลงมาคือ โรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง และโรคอ้วนลงพุง รายงานสุขภาพคนไทย ปี 2566 โดยสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ชี้ชัดว่าคนวัยทำงานกว่า 39 ล้านคนในไทยจำนวนมากต้องเผชิญกับโรค NCDs เหล่านี้ ปัญหาเหล่านี้ล้วนเกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงที่สะสมมานาน เช่น กินหวาน มัน เค็ม ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย และขาดองค์ความรู้ที่ถูกต้องด้านการดูแลสุขภาพ

                    ด้วยความตระหนักถึงปัญหานี้ สสส. จึงได้จัดภารกิจ “Persona ท้าทำ 60 วันขยับปรับหวาน” ขึ้น ภายใต้โครงการพัฒนาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมระดับบุคคลด้วยแอปพลิเคชัน Persona Health เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของคนวัยทำงานและลดโอกาสป่วยโรค NCDs

                    โดยภารกิจ “Persona ท้าทำ 60 วันขยับปรับหวาน” ได้ดำเนินการในสถานประกอบการนำร่อง 12 แห่ง เป็นระยะเวลา 60 วัน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิงหาคม ปี 2568 ผลลัพธ์ที่ได้น่าทึ่งและสะท้อนความสำเร็จอย่างแท้จริง นั่นคือ ผู้เข้าร่วมมีค่าน้ำตาลในเลือดลดลง 60.4% มวลไขมันลดลง 54.2% ดัชนีมวลกาย (BMI) เพิ่มขึ้นเข้าสู่เกณฑ์ปกติ 50.8% และลดลง 50%

                    พงษ์ศักดิ์ ธงรัตนะ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สสส. ยืนยันว่า ภารกิจ “60 วันท้าขยับปรับหวาน” สะท้อนให้เห็นว่าการ “ขยับ” และ “ปรับหวาน” ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิด แต่สามารถทำได้จริงและเห็นผลจริง และเสริมว่า “ส่วนหนึ่งของความสำเร็จในครั้งนี้เกิดจากการสนับสนุนของทีมผู้บริหาร ฝ่ายบุคคล และทีมสร้างเสริมสุขภาพในแต่ละองค์กร ร่วมกันกระตุ้นและผลักดันให้พนักงานเข้าร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการสร้างเสริมสุขภาวะในองค์กรที่เป็นส่วนสำคัญในการดูแลสุขภาพให้กับพนักงาน

                    ด้าน นครินทร์ ภระมรทัต รักษาการผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. กล่าวว่า ภารกิจ “Persona ท้าทำ 60 วันขยับปรับหวาน” และแอปพลิเคชัน Persona Health เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของนวัตกรรมที่สามารถนำมาใช้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพได้อย่างแท้จริง

                    “แอปพลิเคชันนี้จึงไม่ใช่แค่แหล่งข้อมูลสุขภาพทั่วไป แต่เป็นเหมือน “เพื่อนดิจิทัล” คอยวิเคราะห์และมอบภารกิจสุขภาพที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ”

                    สำหรับแอปพลิเคชัน Persona Health ของ สสส. คือ ระบบส่งเสริมสุขภาพส่วนบุคคลที่ใช้ AI ในการวิเคราะห์ความต้องการและข้อมูลเฉพาะบุคคล เพื่อนำเสนอสื่อองค์ความรู้และบริการที่เหมาะสม เพื่อกระตุ้นให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพอย่างยั่งยืน

                    การนำนวัตกรรมแอปพลิเคชัน “Persona Health” มาเป็นหัวใจสำคัญของภารกิจนี้ จะช่วยทำหน้าที่ วิเคราะห์ความเสี่ยงด้านสุขภาพ พร้อมมอบภารกิจปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยมีเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม Persona Health เป็นแหล่งรวมความรู้ด้านสุขภาพ ทั้งการกินอาหารและการออกกำลังกายที่ถูกต้อง และยังส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพในพื้นที่อีกด้วย เช่น ศูนย์สุขภาพใกล้บ้าน ร้านอาหารสุขภาพ หรือจุดบริการสำหรับเลิกบุหรี่

                    “นอกจากแอปพลิเคชันจะทำหน้าที่เป็นเพียงเครื่องมือแจ้งเตือนแล้ว การเพิ่มกลไกเสริมอื่น ๆ เข้าไปจะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น เช่น การสร้างภารกิจท้าทายหรือการรวมกลุ่มผู้ใช้งานเพื่อให้เกิดการกระตุ้นและเตือนกันเอง เพราะ Persona Health ไม่ได้เป็นเครื่องมือหลักที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้เพียงอย่างเดียว แต่เป็น “ตัวเสริม” ที่จะช่วยให้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประสบความสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น” นครินทร์ เน้นย้ำถึงบทบาทของแอปพลิเคชัน

                    ผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดใช้งานฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งใน Google Play สำหรับระบบ Android และ App Store สำหรับระบบ iOS

                    สำหรับความสำเร็จโครงการ ภารกิจ “Persona ท้าทำ 60 วันขยับปรับหวาน” นี้ไม่เพียงมาจากแอปพลิเคชันเท่านั้น แต่ยังเกิดจากการผนึกกำลังร่วมกันของหลายภาคส่วน

                    ทิพวรรณ อังศิริ ในฐานะผู้จัดการฝ่ายความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม ของบริษัท อุตสาหกรรมทำเครื่องแก้วไทย จำกัด (มหาชน) ได้เป็นหนึ่งในตัวแทนของสถานประกอบการนำร่อง 12 แห่ง ที่เข้าร่วมภารกิจ “Persona ท้าทำ 60 วันขยับปรับหวาน” ของ สสส. เล่าว่า บริษัท อุตสาหกรรมทำเครื่องแก้วไทย มีพนักงานกว่า 3,000 คน โดยลักษณะงานเกี่ยวข้องกับความร้อนสูง ทำให้การดูแลสุขภาพของพนักงานเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก พนักงานส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ย 48-49 ปี และประสบปัญหาโรค NCDs สูง เกือบ 50% ของพนักงานมีค่า BMI เกินเกณฑ์ปกติ เธอยังเล่าถึงเหตุการณ์ที่น่ากังวลว่า เคยมีพนักงานอายุน้อยเพียง 37 ปี เกิดภาวะหัวใจวายขณะทำงาน ทำให้บริษัทตระหนักว่าโรค NCDs ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง

                    ด้วยเหตุนี้ บริษัทได้ดำเนินมาตรการส่งเสริมสุขภาพมานานกว่า 6-7 ปีแล้ว มาตรการเหล่านี้รวมถึงการให้ความรู้ด้านโภชนาการ การจัดทำเมนูทางเลือกสุขภาพในโรงอาหาร และการสร้างโซนออกกำลังกายที่เหมาะสม

                    ทิพวรรณ มองว่า การเข้าร่วมภารกิจ “Persona ท้าทำ 60 วันขยับปรับหวาน” กับ สสส. นั้นเป็นการเติมเต็มสิ่งที่บริษัททำอยู่แล้วให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น พร้อมส่งเสริมให้พนักงานนำชุดความรู้การดูแลสุขภาพบนแอปพลิเคชัน Persona Health มาปรับใช้ นอกจากนี้ บริษัทยังได้พัฒนาและปรับปรุงกิจกรรมให้เหมาะสมกับองค์กรในสองด้านหลัก: ประการแรกคือ การจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการปรับพฤติกรรมสุขภาพ เช่น จัดให้มีโซนออกกำลังกายที่เหมาะสม และจัดทำเมนูทางเลือกสุขภาพจำหน่ายในโรงอาหาร และประการที่สอง คือ การประกาศนโยบายให้พนักงานสามารถใช้เวลาระหว่างการทำงานในการเข้าร่วมภารกิจ เพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้บริหารให้ความสำคัญกับสุขภาพของพนักงานอย่างแท้จริง

                    อมรรัตน์ แซ่ลิ่ม หนึ่งในผู้เข้าร่วมภารกิจจาก บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด เล่าประสบการณ์ว่า “ก่อนเข้าร่วมภารกิจฯ ตนชอบกินอาหารแปรรูป ขนม และเครื่องดื่มรสชาติหวาน อย่างน้อยต้องดื่มวันละ 1 แก้ว” จากพฤติกรรมเสี่ยงสุขภาพที่สะสม ส่งผลให้ค่า BMI ของเธออยู่ในภาวะอ้วน เธอจึงตัดสินใจเข้าร่วมภารกิจและพบว่า “การใช้แอปพลิเคชัน Persona Health ในการดูแลสุขภาพมีความเหมาะกับวิถีชีวิตของคนวัยทำงานอย่างมาก” เพราะมีทั้งความรู้ด้านการออกกำลังกาย การกินอาหารที่ถูกต้อง และภารกิจที่ท้าทายให้พิชิต หลังจาก 60 วัน สุขภาพของเธอก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

                    สำหรับก้าวต่อไป สสส. ยังมีแผนที่จะเพิ่มผู้ใช้งาน Persona Health อย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดทำแคมเปญเฉพาะกิจ และการสร้างแคมเปญสำหรับกลุ่มเฉพาะ เช่น กลุ่มคนรักการวิ่ง นอกจากนี้ ในปีหน้า
มีแผนจะพัฒนา AI Chatbot เพื่อให้แอปพลิเคชันสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้เหมือน “เพื่อนคู่คิด” มายิ่งขึ้น

                    นครินทร์ กล่าวทิ้งท้าย ว่า สสส. พยายามในการเพิ่มความหลากหลายของเนื้อหา และสร้างแคมเปญเฉพาะกิจเพื่อดึงดูดกลุ่มผู้สนใจใหม่ ๆ ต่อเนื่อง และ สสส. ขอเชิญชวนสถานประกอบการและคนวัยทำงานทุกคน
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเสริมสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโรค NCDs ด้วยการ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Persona Health และเริ่มภารกิจเพื่อสุขภาพที่ดีตั้งแต่วันนี้