พลัง "ผู้นำ" ขับเคลื่อนชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง
ประเทศไทยจะเจริญก้าวหน้าได้ต้องเกิดจากการที่รากฐานสำคัญของประเทศ คือ ชุมชนท้องถิ่นจะต้องยืนหรือเข้มแข็งได้ด้วยตัวเอง ซึ่งการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นให้เข้มแข็งจำเป็นต้องเริ่มต้นที่การพัฒนาคนให้รู้จักตัวเอง รู้ปัญหาของตนเองและรู้สิทธิหน้าที่ที่ตัวเองมี โดยเฉพาะผู้นำชุมชน คือกลไกที่จะขับเคลื่อนชุมชน และเป็นพลังสำคัญที่มีบทบาทในการนำการพัฒนาและปฏิรูปชุมชนไปสู่ความสำเร็จ
นางสาวดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน สสส. กล่าวถึงบทบาทของผู้นำชุมชนว่า ผู้นำถือเป็นบุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลต่อชุมชนมาก
"ผู้นำชุมชนคือคนที่ไม่ต้องอธิบาย เขาอยู่ในชุมชน เขาพูดคำเดียว ทุกคนก็พร้อมจะเดินหน้าเพราะว่ามันมีพื้นฐานของความไว้วางใจและวางใจกัน"
ดวงพรยังให้คำอธิบายง่ายๆ ว่า ชุมชนก็เหมือนครอบครัว ในหลายๆ เรื่องเขาก็เหมือนการทำงานครอบครัวเดียวกัน ดังนั้น หากประเทศไทยต้องการจะพัฒนาประเทศและคนในประเทศให้เข้มแข็งก็จะต้องบ่มเพาะผู้นำเหล่านี้ให้เติบโตและมีมากขึ้น ซึ่งดวงพรให้เหตุผลว่า
"เพราะในพื้นที่ชุมชนหนึ่งอาจจะมีผู้นำคนเก่ง แล้วพอยุคหนึ่ง หมดคนนี้ไปก็ตกลง เพราะมันเป็นวงจรของชีวิต เพราะฉะนั้นการที่เราไปคาดหวังว่าชุมชนหนึ่งๆต้องยั่งยืน มันไม่จริง แต่ความจริงก็คือว่า ชุมชนปรับตัวได้เร็วหรือเปล่าแค่นั้น กับการเปลี่ยนแปลง
"อย่าลืมว่า เราไม่สามารถหาผู้นำได้เยอะในชุมชนยกตัวอย่างเรามีโรงพยาบาลชุมชนอยู่ทั้งหมดเจ็ดแปดร้อยแห่ง แต่เรามีผู้อำนวยการที่มีภาวะผู้นำเป็น Change Agent ได้ไม่เท่าไหร่ ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกันหมดทั่วโลกก็เหมือนกัน จะมีกี่คนที่ทำได้แบบอองซานซูจี
ดวงพรย้ำว่า "เราอย่างไปคิดเรื่องผู้นำชุมชนเป็นเรื่องโรแมนติก ดิฉันเป็นคนที่อยู่กับโลกความเป็นจริงว่า ไม่ใช่ชุมชนที่วันนี้เขาเข้มแข็งแล้ว ไปดูอีกห้าปี เขาจะยังคงเข้มแข็งอยู่ ชุมชนก็เหมือนชีวิต ปีนี้ราบรื่น ปีนี้ไม่ดี ปีนี้สดใส แต่ชุมชนเกิดจากหลายๆ ชีวิตรวมกันรวมทั้งสภาวะแวดล้อม เราจะให้ชุมชนเข้มแข็งตลอดไปได้อย่างไร โดนปัญหา โดนภัยพิบัติน้ำท่วม ก็ชะงักถอยหลังไปห้าปี ดังนั้น ทางเดียวคือเราต้องสร้างคนที่เป็นผู้นำไว้มากๆ สร้างคนที่มีจิตอาสาไว้เยอะๆ เพราะถ้ามีเยอะๆ อย่างไรก็ไม่หล่นถ้าถอยก็ถอยนิดเดียว เราต้องสร้างไว้ให้เต็มแผ่นดิน"
ด้วยเหตุนี้ เวทีผู้นำชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเองซึ่งจัดโดย สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และ สสส. จึงเป็นเวทีที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้นำชุมชนเข้ามาค้นหาศักยภาพของตนเองและชุมชนของตนเอง ตลาดจนการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่สอดคล้องและเหมาะสมกับพื้นที่ และนำไปสู่ชุมชนเข้มแข็ง
"เวทีผู้นำชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเองเป็นเวทีที่ฝึกให้ผู้นำวิเคราะห์ และถือเป็น Open Space ที่มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดย สสส. จะดำเนินการผ่านกลไกองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น และ พอชงผ่านสภาองค์กรชุมชน สองส่วนนี้มาทำงานร่วมกันเราต้องการให้ทั้งสองฝั่งนี้ใช้ประโยชน์ มีความเข้าใจร่วมกัน และท้ายที่สุดเราเชื่อว่าจะมีการเกิด Energy ขึ้น"
ฉะนั้น เวทีนี้เป็นหนึ่งในขบวนการสร้างคน ซึ่งดวงพรให้คำจำกัดความว่า เป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่า This Way the Best for You Now (ทางนี้ดีที่สุดสำรหับคุณแล้ว) หรือ This is the Right Way. The Right Thought ซึ่งแต่ละเรื่อง แต่ละประเด็นที่นำเข้ามา เป็นเรื่องของการนำเสนอ แล้วเอามาวิเคราะห์มีการสรุปให้ผู้นำเหล่านี้เห็น เพื่อที่จะฝึกให้เกิดความคิดในแบบวิเคราะห์ และยังเปิดโอกาสให้ตัวแทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากทั่วประเทศเหล่านี้ มาร่วมกันออกแบบการเปลี่ยนแปลง จากประเด็นต่างๆ ทั้ง 10 หัวข้อสำคัญ เพื่อขยายผลแนวทางการเชื่อมโยง
"เนื่องจากเราเลือกประเด็นที่เป็นประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ เรื่องที่เราเลือกเป็นเรื่องที่เรามั่นใจว่าเป็นเครื่องมือหรือกลไกที่ทำให้ชุมชนต้องมีการจัดการตนเอง ยกอย่างเช่น คราวหน้า ซึ่งเป็นครั้งที่ 4 เราเลือกเรื่องสิทธิชุมชน เพราะเรามองว่า แม้แต่ชุมชนเองก็ยังไม่รู้จักสิทธิชุมชนของตัวเอง ซึ่งเขาควรต้องรู้ว่าสิทธิชุมชนตัวเองคืออะไร ก็เป็นเรื่องที่ต้องสร้างความเข้าใจ"
อย่างไรก็ตาม ดวงพรกล่าวว่าการจัดเวทีนี้ไม่ได้ต้องการเน้นการมีส่วนร่วม แต่เน้นเรื่องการพัฒนาศักยภาพผู้นำ รวมถงไม่ได้คาดหวังว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เห็นเป็นรูปธรรมในทันที
"เวลาที่เราทำงานกับชุมชน เขาจะเชื่อไม่เชื่อเราคงดูไม่ออกหรือเราไม่รู้หรอก แต่เรารู้ว่าเขาฟัง เราจะดุว่าเขาเอาไปปฏิบัติหรือเปล่า คือเวลาที่เราเจอเขาอีกที เขาจะเล่าให้เราฟังว่า เขาไปปรับตรงนู้น เขาไปปรับตรงนี้แล้วนะ ขนาเราเรียนปริญญาตรีสี่ปีเรายังเปลี่ยนอะไรไม่ค่อยได้เลย ดังนั้นเราไม่ได้หวังว่าแค่เวทีเดียวจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้มาก แต่เราเชื่อว่า คนกลุ่มนี้เขาจะเป็นคนที่มีภาวะผู้นำและไขว่คว้าหาความรู้ ดังนั้นหน้าที่ของเวทีนี้เราจึงต้องการฝึกให้เขาวิเคราะห์และสามารถจัดการตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"แต่หลังจากนั้น เราจะมีปฏิบัติการต่อเนื่องในหลายๆ เรื่อง อาทิเช่น ในการจัดครั้งที่ 3 เราพูดถึงเรื่องสถาบันการเงินชุมชน ทาง พอช.ก้จะมีแผนเรื่ององค์กรการเงินชุมชน สสส.ก็จะไปชวนเครือข่ายที่เรามีประมาณสองร้อยแหงมาทำงานกับมูลนิธิอาจารย์จำเนียร สาระนาค เพื่อที่จะดูว่าเราจะทำให้สถาบันการเงินที่เป็นต้นแบบแล้ว จะเป็นศูนย์การเรียนรู้ได้อย่างไร" ดวงพรกล่าวทิ้งท้าย
ผู้นำชุมชนคือคนที่ไม่ต้องอธิบาย เขาอยู่ในชุมชน เขาพูดคำเดียว ทุกคนก็พร้อมจะเดินหน้า เพราะว่ามันมีพื้นฐานของความไว้วางใจและวางใจกัน
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
แฟ้มภาพ