ผู้สูงอายุไทย เผชิญปัญหาอวัยวะเสื่อม

ป่วยข้อเสื่อมกว่า 1 ล้านคน

 

          สธ.พบผู้สูงอายุไทย เผชิญปัญหาความเสื่อมอวัยวะมากขึ้น ข้อเสื่อมกว่า 1 ล้านคน สงสัยสมองเสื่อมเกือบ 9 แสนคน อยู่คนเดียวเกือบ 7 หมื่นคน และต้องการคนดูแลเกือบ 3 แสนคน

ผู้สูงอายุไทย เผชิญปัญหาอวัยวะเสื่อม

 

          สาธารณสุขเผยผลสำรวจสุขภาพผู้สูงอายุล่าสุดในปี 2551-52 พบเข้าขั้นน่าห่วง เผชิญปัญหาหลัก 3 ด้าน ต้องเร่งพัฒนาระบบบริการรองรับหลายด้าน โดยเกือบครึ่งเป็นโรคความดันโลหิตสูง แต่รู้ตัวเพียง 3% เป็นโรคเบาหวาน 16% มีผู้สูงอายุเป็นโรคข้อเสื่อมกว่า 1 ล้าน 3 แสนคน สงสัยมีภาวะสมองเสื่อม 880,000 คน ต้องการคนดูแลกว่า 265,000 คน พบในเขตชนบทมากกว่าเขตเมือง ส่วนด้านที่อยู่อาศัยพบยังมีสภาพไม่เอื้อต่อความปลอดภัย เสี่ยงต่ออันตรายหกล้มสูง

 

          นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์บรรลุ ศิริพานิช ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทยนายแพทย์พงษ์พิสุทธิ์ จงอุดมสุข ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข(สวรส.) รศ.นายแพทย์วิชัย เอกพลากร หัวหน้าโครงการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย

 

          สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข เสวนาเรื่อง สูงแล้วเสื่อมผู้สูงอายุไทยจะมีความสุขได้อย่างไรและแถลงผลสำรวจสุขภาพผู้สูงอายุไทยทั่วประเทศใน 21 จังหวัดโดยการสัมภาษณ์กับตรวจสุขภาพ ครั้งล่าสุดในปี 2551-2552 กลุ่มตัวอย่าง 30,000 คน โดยได้รับการสนับสนุนจากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

 

          นางพรรณสิริ กล่าวว่า ผลจากความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจ และความเจริญก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเฉพาะสาขาการแพทย์และสาธารณสุข ทำให้ประชาชนมีอายุยืนยาวขึ้นขณะที่อัตราการเกิดลดลง ทำให้สัดส่วนจำนวนผู้สูงอายุมากขึ้นเป็นลำดับโดยประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้วเพราะมีจำนวนผู้สูงอายุเกินกว่า 10% ตั้งแต่ปี 2548 ขณะนี้ทั่วประเทศมีผู้สูงอายุกว่า 7 ล้าน 3 แสนคน

 

          และคาดว่าอีก 15 ปีคือปี 2568 สัดส่วนจำนวนผู้สูงอายุไทยอายุ 60 ปีขึ้นไปจะเพิ่มเป็น 20% กล่าวคือพบผู้สูงอายุได้ 1 คนในประชากรไทยทุก5 คน เป็นคลื่นลูกใหญ่ที่ทุกฝ่ายต้องเร่งพัฒนาระบบบริการต่างๆ รองรับอย่างเหมาะสมกับสภาวะสังคมไทย ขณะเดียวกันต้องมีระบบเตรียมความพร้อมประชาชนให้เข้าสู่การเป็นผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพเนื่องจากผู้สูงอายุจะต้องเผชิญกับปัญหาความเสื่อมถอยของอวัยวะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

          กระทรวงสาธารณสุข โดยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ได้ทำการสำรวจสุขภาพคนไทยและผู้สูงอายุทุก 5 ปี เพื่อประเมินสถานการณ์สภาวะด้านสุขภาพและสิ่งที่เกี่ยวข้องที่เป็นสาเหตุ เพื่อนำข้อมูลมาวางแผนจัดบริการและการป้องกันที่เหมาะสม ผลการสำรวจสุขภาพผู้สูงอายุครั้งที่ 4 เมื่อพ.ศ. 2551-2552 ใช้วิธีสัมภาษณ์และตรวจสุขภาพโดยตรง ดำเนินการ 3 เรื่องหลัก คือ

 

          กลุ่มโรคเรื้อรัง กลุ่มโรคที่เกิดจากความเสื่อมของอวัยวะ และโรคเกี่ยวกับด้านสุขภาพจิต พบว่าผู้สูงอายุมีปัญหาสุขภาพเพิ่มขึ้น ได้แก่ ภาวะอ้วน อ้วนลงพุง และไขมันคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ได้ง่าย ผลสำรวจในกลุ่มโรคเรื้อรัง พบผู้สูงอายุเกือบครึ่งมีความดันโลหิตสูงกว่าปกติ มีเพียง 3% ที่รู้ตัวว่าตัวเองป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง ในจำนวนนี้ 55% ได้รับการดูแลรักษา ซึ่งดีขึ้นกว่าปี 2547 โดยสามารถควบคุมความดันเลือดได้ 28% ผู้หญิงจะควบคุมได้ดีกว่าผู้ชาย ส่วนเบาหวาน ตรวจพบผู้สูงอายุเป็น 16% แต่สัดส่วนการเข้ารับการรักษาสูงขึ้น แสดงว่าผู้สูงอายุตื่นตัวกับโรคนี้ สามารถเข้าถึงการบริการและการรักษาดีขึ้น ทั้งนี้ เห็นได้ว่าโรคความดันโลหิตสูงและเบาหวานมีแนวโน้มการดูแลและการให้บริการที่ดีขึ้น

 

          ในกลุ่มโรคที่เกิดจากความเสื่อมของอวัยวะ 6 ปัญหา ได้แก่ ต้อกระจก การได้ยิน การบดเคี้ยว ข้อเสื่อม ภาวะสมองเสื่อมและการหกล้ม ตัวเลขที่น่าตกใจมากพบว่า ผู้สูงอายุไทยเป็นโรคข้อเสื่อมค่อนข้างสูงเฉลี่ย 19% คาดประมาณว่าขณะนี้ผู้สูงอายุไทย กำลังเชิญโรคข้อเสื่อม ประมาณ 1 ล้าน 4 แสนกว่าคน โรคดังกล่าวจะทำให้มีอาการปวดข้อ ข้อบวมอย่างเรื้อรัง พบในผู้ชาย 24% และผู้หญิง 14%

 

          ส่วนภาวะสมองเสื่อม พบผู้สูงอายุมีภาวะสมองเสื่อม 12% หรือประมาณ 880,000 คนพบในผู้หญิง 15% ผู้ชาย 9% ส่วนใหญ่พบในเขตชนบทมากกว่าในเมืองในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุอยู่คนเดียว 69,000 คน ผู้สูงอายุเหล่านี้ 31%หรือจำนวน 265,000 คน ต้องการคนดูแล ส่วนปัญหาสายตา พบเป็นต้อกระจก 21%ผู้สูงอายุหญิงเป็นมากกว่าชายส่วนใหญ่ผู้สูงอายุที่อยู่ในเขตเมืองเป็นมากกว่าผู้ที่อยู่ในชนบท ในด้านการบดเคี้ยว พบว่าผู้สูงอายุทั้งชายและหญิง 53% เหลือฟันในปากน้อยกว่า 20 ซี่ โดย 1 ใน 5 ใส่ฟันปลอมมากที่สุดคือผู้สูงอายุในกทม. ต่ำที่สุดคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

 

          นอกจากนี้ ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อการหกล้มมาก ทำให้บาดเจ็บเกิดอันตรายต่อชีวิต ผลการสำรวจครั้งนี้พบว่า ผู้สูงอายุ 18% เคยหกล้มใน 6 เดือนที่ผ่านมาเฉลี่ยผู้สูงอายุเคยหกล้มคนละ 2 ครั้ง โดยผู้สูงอายุชายส่วนใหญ่หกล้มนอกบ้านผู้สูงอายุหญิงหกล้มภายในบริเวณบ้านมากกว่า สาเหตุที่พบบ่อยเกิดจากพื้นลื่น 42%รองลงมาคือ สะดุดสิ่งกีดขวาง 35% และพื้นต่างระดับ 25%

 

          จากการถามลักษณะบ้านที่อาศัย พบว่าผู้สูงอายุจำนวนมากยังอยู่ในบ้านที่ไม่ได้ดัดแปลงให้เหมาะ เช่น ต้องใช้บันได้ในชีวิตประจำวัน 58% ในห้องน้ำไม่มีราวจับ 90%และไม่มีราวจับในห้องนอน 96% เป็นต้น

 

          สำหรับโรคเกี่ยวกับด้านสุขภาพจิต พบผู้สูงอายุมีภาวะซึมเศร้าเฉลี่ยสูงถึง 5% พบผู้หญิง 7% ผู้ชาย 3% และพบมากขึ้นตามอายุที่มากขึ้น สาเหตุหนึ่งเกิดจากการดูแลผู้สูงอายุ แนวโน้มผู้สูงอายุอยู่คนเดียวมากขึ้นทุกปี ข้อมูลจากสำมะโนประชากรตั้งแต่ปี 2513 ผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวมี 4% แต่ในปี 2547พบว่าจำนวนผู้สูงอายุที่อยู่โดดเดี่ยวตามลำพังเพิ่มเป็น 7% หรือประมาณ เกือบ 5 แสนคน

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ

 

 

update 17-02-53

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

 

Shares:
QR Code :
QR Code