“ปิ๊งส์” ชวนสุดยอดเยาวชน ประกวดโฆษณา “คนรุ่นใหม่ ไม่สูบบุหรี่” หวังลดนักสูบหน้าใหม่

“ปิ๊งส์” เปิดรับเยาวชนฝีมือ “เจ๋ง” ประกวดผลงานโฆษณาหัวข้อ “คนรุ่นใหม่ ไม่สูบบุหรี่” แล้วคัดเลือก 20 ทีม เข้าเวิร์คช็อปกับครีเอทีฟมืออาชีพ เพื่อพัฒนาผลงาน 10 ทีมสุดท้าย ได้ผลิตงานจริงมาประกวดรอบชิงชนะเลิศ ชิ้นใด “เนี้ยบ” เข้าตาได้เผยแพร่เพื่อรณรงค์จริงทั่วประเทศ หวังลดนักสูบหน้าใหม่ที่พุ่งสูงถึง 1,000 คนต่อวันลง ด้วยสื่อ “จากเด็กถึงเด็ก” 

เมื่อวันที่ 25 ก.พ. 54 ที่ผ่านมา ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ จับมือสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย ภายใต้การสนับสนุนทุนจากโครงการปิ๊งส์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดโครงการประกวดภาพยนตร์โฆษณา ภายใต้หัวข้อ “คนรุ่นใหม่ ไม่สูบบุหรี่” ขึ้น 

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ปัจจุบันพบเด็กไทยสูบบุหรี่สูงถึง 1.5 แสนคนต่อปี เฉลี่ยวันละ 1,000 คนต่อวัน โดยแบ่งเป็นอายุ 15-18 ปี สูบบุหรี่ถึง 3 แสนคนต่อปี  และอีก 1.2 แสนคนอยู่ในช่วงอายุ 19-24 ปี โดยอายุของคนสูบบุหรี่จะลดลงเรื่อยๆ เมื่อเฉลี่ยจะอยู่ที่ 18 ปี ซึ่งที่ผ่านมามีการสำรวจพบว่า ประมาณ 1 ใน 10 ของผู้เริ่มสูบบุหรี่มีอายุต่ำกว่า 10 ขวบ โดย 2 ใน 3 ของคนที่สูบจะติดบุหรี่ไปแล้ว ถือเป็นสถิติที่น่าตกใจ เพราะใน 4 ปีล่าสุด สถิติเหล่านี้คงที่และไม่เคยลดลงเลย ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เป็นเช่นนี้เพราะบริษัทบุหรี่มีกลยุทธ์เพื่อผลิตบุหรี่ยี่ห้อใหม่ๆ รสชาติใหม่ๆ ขึ้นมาหลากหลาย จนทำให้เด็กและเยาวชนสามารถเข้าถึงบุหรี่ได้ง่ายขึ้น แถมยังมีราคาถูกลงด้วย 

“การสำรวจที่ผ่านมายังพบอีกว่า ผู้ใดที่อายุเกิน 25 ปีไปแล้ว หากไม่สูบบุหรี่ก็จะไม่สูบอีกเลย ฉะนั้นการป้องกันให้เด็กไม่สูบบุหรี่จึงเป็นเรื่องที่ต้องเร่งทำ เพื่อเป็นการลดจำนวนนักสูบหน้าใหม่ลง โดยงานวิจัยจากต่างประเทศหลายๆ ชิ้น ในสหรัฐอเมริกาบอกว่า ผู้ที่จะรณรงค์กับวัยรุ่นได้ดีที่สุดก็คือวัยรุ่นด้วยกันเอง การประกวดภาพยนตร์โฆษณา “คนรุ่นใหม่ ไม่สูบบุหรี่” จึงเกิดขึ้น เพื่อต้องการให้วัยรุ่นเป็นผู้บอกและสื่อสารระหว่างกัน ซึ่งจะได้ผลมากกว่าการที่ผู้ใหญ่เข้าไปบอกลดช่องว่างในการสื่อสารลงได้ แต่หากเป็นเรื่องที่เด็กคิด-ทำ เมื่อส่งต่อแด็กที่เป็นผู้รับจะเข้าใจและโดนใจมากกว่า โดยเฉพาะเรื่องของบุหรี่ เมื่อนำไปรณรงค์ผ่านสื่อไม่ว่าจะเป็นสื่อวิทยุ โทรทัศน์ หรือแม้แต่ในสื่อสิ่งพิมพ์อย่างต่อเนื่อง ปัญหาการเพิ่มจำนวนของนักสูบหน้าใหม่รวมทั้งการอยากเลิกสูบบุหรี่ในเด็กก็จะได้ผลขึ้น” เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าว 

ด้าน นายวิทวัส ชัยปาณี นายกกิตติมศักดิ์สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ตื่นตัวเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น แต่กลับมีเยาวชนและคนทำงานใหม่สูบบุหรี่มากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในผู้หญิง ทั้งๆ ที่บุหรี่เป็นสินค้าประเภทที่ถูกห้ามโฆษณาอย่างสิ้นเชิง และมีการรณรงค์อยู่เป็นระยะ ดังนั้น การรณรงค์ที่จริงจังต่อเนื่องและสร้างทัศนคติอย่างถาวรว่าบุหรี่เป็นสิ่งไม่ดี คนสูบบุหรี่มีภาพลักษณ์ไม่ดีในสายตาผู้อื่นไม่ใช่ของเท่โก้เก๋ เป็นที่รังเกียจ และเป็นภัยต่อคนรอบข้างจึงเป็นเรื่องที่น่าทำ  

“การดึงเอาบุคลากรชั้นนำในวงการโฆษณา รวมทั้งบุคลากรรุ่นใหม่ๆ ที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงมาพัฒนาเยาวชนให้เป็นคนของวงการโฆษณาที่มีอนาคตไกล มีความสามารถเทียบเท่ามืออาชีพมาสร้างสรรค์งานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ให้สามารถปรับและเปลี่ยนทัศนคติของเยาวชนคนอื่นๆ ที่สูบบุหรี่หรือคิดจะลอง โบกมือลาและหันหลังให้กับบุหรี่กลับใจมาเป็นคนที่มีรับผิดชอบต่อสังคม ต่อต้านการสูบบุหรี่ได้นั้นเป็นเรื่องที่น่าสนับสนุน ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมาสมาคมโฆษณาฯ จัดเพียงแค่กิจกรรมประกวดโปสเตอร์และสิ่งพิมพ์ ปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการประกวดเป็นโฆษณาทางโทรทัศน์ เมื่อมีโอกาสก็คิดว่าจะทำให้มันเต็มที่” นายกกิตติมศักดิ์สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กล่าว  

นายมานพ แย้มอุทัย ผู้ทรงคุณวุฒิ สสส.  กล่าวเกี่ยวกับโครงการว่า “ปิ๊งส์” เป็นโครงการสื่อสร้างสรรค์ของเยาวชน ภายใต้แนวคิดที่ว่า “ความคิดเล็กๆสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้กับสังคมได้” ซึ่งความโดดเด่นในปีนี้คือ การได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายต่างๆ มาร่วมกันพัฒนาโจทย์เกี่ยวกับสุขภาพ หรือเรื่องของสังคม ทั้งการรณรงค์เรื่องบุหรี่ การเมาไม่ขับ ไม่ดื่มเหล้า หรือแม้แต่การรับประทานอาหารหรือโภชนาการที่ดี แล้วใช้สื่อสร้างสรรค์แบบต่างๆ มาต่อยอดให้เยาวชนก้าวสู่การเป็นมืออาชีพ และที่สำคัญคือต้องการให้ผลงานที่เยาวชนผลิตขึ้นมาสามารถนำมาเผยแพร่ได้จริงอย่างที่วัยรุ่นเรียกกันว่า “เนี้ยบ” ได้ 

“โครงการประกวดภาพยนตร์โฆษณาภายใต้แนวคิด “คนรุ่นใหม่ ไม่มีใครสูบบุหรี่” ก็เป็นอีกหนึ่งสื่อสร้างสรรค์ที่ได้เปิดรับนิสิต นักศึกษาทั่วประเทศ ทีมละไม่เกิน 3 คน ส่งต้นร่างภาพยนตร์โฆษณา (storyboard) และบทความยาวไม่เกิน 30 วินาที เข้ามาร่วมรณรงค์สังคมให้น่าอยู่ โดยสามารถส่งผลงานเข้ามาได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มีนาคม 2554 ผลงาน 20 ทีมแรกที่ผ่านเข้ารอบจะได้เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการและเรียนรู้กระบวนการผลิตงานโฆษณา ในวันที่ 22 – 24 เมษายน 2554 (3 วัน 2 คืน) และ 10 ทีมสุดท้าย ที่ผ่านการคัดเลือก จะได้รับทุนผลิตภาพยนตร์โฆษณาจริง และร่วมชิงรางวัลประกวดในลำดับต่อไป ผู้ที่สนใจสามารถส่งผลงานประกวดและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ 36/2 ซ.ประดิพัทธ์ 10 ถนนประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 หรือทางอีเมล์ nosmokepings@gmail.com” นายมานพ กล่าว 

ที่มา: แผนงานทุนอุปถัมภ์เชิงรุกเพื่อสื่อศิลปวัฒนธรรมและกิจกรรมสร้างสรรค์