“ ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ช่วยหยุดโรคไข้หวัดใหญ่ได้
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
แฟ้มภาพ
จังหวัดสมุทรปราการ แนะประชาชนยึดหลัก “ ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ช่วยหยุดโรคไข้หวัดใหญ่ได้
นายชาติชาย อุทัยพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า จังหวัดสมุทรปราการได้รับแจ้งจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ว่า ขอความร่วมมือให้มีการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งจากการเฝ้าระวังสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในปี 2560 ข้อมูล ณ วันที่ 8 สิงหาคม 2560 มีรายงานผู้ป่วยทั่วประเทศ จำนวน 58,564 ราย อัตราป่วย 89.51 ต่อประชากรแสนคน มีผู้เสียชีวิต 9 ราย คิดเป็นอัตราป่วยตาย 0.02 ต่อประชากรแสนคน (จังหวัดนครราชสีมา 6 ราย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2 ราย และจังหวัดสมุทรปราการ 1 ราย) ส่วนใหญ่พบผู้ป่วยอยู่ในกลุ่มอายุ 0 – 4 ปี มีอัตราป่วยสูงสุด รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 5 – 9 ปีและกลุ่มอายุ 10 – 14 ปี จึงต้องมีการให้ความสำคัญต่อการป้องกันควบคุมโรคในกลุ่มเด็กเล็ก และในสถานศึกษา และขณะนี้เป็นช่วงฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ระลอกที่สองของปี ระหว่างเดือนกรกฎาคม – ตุลาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง เด็กเล็กและหญิงตั้งครรภ์
จังหวัดสมุทรปราการ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนดำเนินการตามแนวทางการป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่ ควรประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลคำแนะนำการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค โดยใช้ช่องทางต่างๆ เช่น การส่งจดหมายแจ้งข่าว การประกาศผ่านช่องทางเสียงประชาสัมพันธ์ มุมประกาศประชาสัมพันธ์รวมทั้งการประกาศในงาน ผู้ป่วยควรหยุดพักผ่อนอยู่บ้านจนกว่าจะหายดี
อย่างไรก็ตาม ประชาชนสามารถป้องกันตัวเองจากไข้หวัดใหญ่ได้ง่ายๆ ด้วยการยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” ปิด คือ ปิดปาก ปิดจมูกเมื่อมีอาการไอจาม หรือใส่หน้ากากอนามัย, ล้าง คือ ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่, เลี่ยง คือ เลี่ยงการอยู่ใกล้กับผู้ที่มีอาการป่วย มีไข้ ไอ จาม เลี่ยงการอยู่ในพื้นที่แออัด, หยุด คือ หยุดเรียน หยุดงาน หยุดทำกิจกรรมเมื่อมีอาการป่วย เพื่อให้หายป่วยเร็วขึ้นและลดการแพร่เชื้อไปยังอื่น ส่วนการดูแลตัวเองเมื่อป่วย ให้สังเกตอาการ หากมีอาการไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอ มีน้ำมูก ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยงให้รีบพบแพทย์ทันที ส่วนประชาชนทั่วไปถ้ามีอาการดังกล่าว ควรทานยาลดไข้ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ หากอาการไม่ดีขึ้นใน 1 สัปดาห์ให้รีบไปพบแพทย์เช่นกัน ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคและภัยสุขภาพ สามารถสอบถามข้อมูลได้จาก สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422