‘ปากพนังโมเดล’ จักรยานใช้ทางร่วมรถยนต์ปลอดภัย
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
แฟ้มภาพ
นโยบาย "เมืองจักรยาน" ไม่ได้ตีความหมายว่าแต่ละจังหวัดเทงบประมาณเพื่อสร้างทางจักรยาน แต่ต้องมีพลังที่ปลุกชุมชนให้หันมาใช้จักรยานทั้งด้านท่องเที่ยว สุขภาพ และการเดินทาง
เทศบาลเมืองปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ได้เข้าร่วมโครงการชุมชนจักรยานเพื่อสุขภาวะ เมื่อปี 58 ที่ผ่านมา ภายใต้ความร่วมมือระหว่างชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ไอเดียการสร้างเมืองจักรยานของที่นี่ สามารถเป็นต้นแบบให้ชุมชนอื่นนำไปปรับใช้ได้
นางจุรีรัตน์ เบญจศรี ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองปากพนัง เล่าว่า สภาพพื้นที่เทศบาลเมืองปากพนังเหมาะเป็นชุมชนจักรยาน ไม่ใช่ชุมชนที่ใหญ่มากใช้จักรยานเดินทางได้ ไม่มีรถจำนวนมาก มีเฉพาะรถในพื้นที่ใช้สัญจรเท่านั้น เพราะเทศบาลไม่ใช่เมืองทางผ่าน
"การเข้าร่วมโครงการดังกล่าวเปรียบเสมือนจุดประกายให้เป็นชุมชนจักรยานที่ดำเนินการต่อเนื่องมา 2 ปีแล้ว"
วิธีการดำเนินงานชุมชนจักรยานของเทศบาลเริ่มต้นตั้งแต่ ประชาสัมพันธ์โครงการ เพื่อส่งเสริมให้ใช้จักรยานใน ชีวิตประจำวันในชุมชน แต่งตั้งคณะกรรมการทั้งภาครัฐและประชาชน เพื่อร่วมคิดและดำเนินงานตามรูปแบบโครงการให้บรรลุวัตถุประสงค์ ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้คนใช้จักรยานในชุมชนเพิ่มขึ้นจาก 100 คน เพิ่มเป็น 300 คน ขณะนี้มีคนใช้จักรยานมากกว่า 500 คนแล้วและมีแนวโน้มสูงขึ้น
นางจุรีรัตน์ บอกว่าพฤติกรรมการใช้จักรยาน ส่วนมากใช้จักรยานเดินทางในระยะไม่ไกลมาก เช่น ปั่นไปทำธุระ ไปโรงเรียน ไปตลาด ไปธนาคาร ฯลฯ บางกลุ่มรวมตัวปั่นไปเที่ยวทะเล
"คนในชุมชนใช้จักรยานทั่วไปในการปั่น ไม่ใช่ใช้จักรยานสวยงาม หรือเหมือนจักรยานนักปั่นใช้กัน" ตัวตั้งในการรณรงค์ใช้จักรยานบอกถึงความพิเศษของการใช้จักรยานในเทศบาลปากพนัง
ใครที่ผ่านไปผ่านมาในเมืองปากพนัง จะได้เห็นสัญลักษณ์ทางจักรยาน เพื่อบอกกล่าวให้ผู้ขับรถยนต์และจักรยานยนต์ระมัดระวังผู้ใช้จักรยานด้วย นอกจากนี้ยังจอดจักรยานตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ เช่น ตลาด ท่าเรือ ฯลฯ ซึ่งคนที่เป็นมือใหม่หัดปั่น มีการอบรมให้คนที่เข้ามาปั่นจักรยานในชุมชนจักรยานด้วย เพื่อให้มีความปลอดภัย ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาอำนวยความสะดวก เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้จักรยาน ตลอดจนจัดกิจกรรมการปั่นจักรยาน เดือนละ 1 ครั้ง เช่น ปั่นท่องเที่ยว ปั่นไหว้พระทำบุญ ฯลฯ เพื่อสร้างกระแสให้คนในชุมชนมาร่วมปั่นจักรยานมากขึ้น จากการบอกเล่าเรื่องเมืองจักรยานฟังแล้วเหมือนจะราบรื่น แต่ยังมีปัญหาข้อปลีกย่อยที่ต้องจัดการ
"ในชุมชนจักรยานคนยังกังวลเรื่องความปลอดภัย ทุกคนมีจักรยานใช้ แต่ไม่กล้านำออกมาปั่นบนท้องถนน เพราะกลัวเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นต้องแก้ปัญหาให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ทราบว่ามีจักรยานบนท้องถนนด้วย" ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองปากพนัง เล่าถึงปัญหาพร้อมทางออกว่า
นอกจากจะบอกกล่าวให้ผู้ใช้รถยนต์ให้ทางกับผู้ใช้จักรยานแล้ว ยังได้จัดกิจกรรมปั่น ทำให้ประชาชนตื่นตัว ยอมรับและหันมาใช้จักรยานในชุมชนมากขึ้น ตลอดจนนโยบายของผู้บริหารเทศบาลเห็นความสำคัญและสนับสนุนให้เป็นชุมชนจักรยานอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง จึงเป็นจุดเด่นทำให้เกิดชุมชนจักรยานมาได้จนถึงทุกวันนี้
สำหรับการต่อยอดเมืองจักรยานในอนาคตนั้นชุมชนจะส่งเสริมให้โรงเรียนในสังกัดเทศบาลนำไปต่อยอด ส่งเสริมให้เด็กนักเรียนหันมาปั่นจักรยานมาโรงเรียน รวมทั้ง อสม.ที่ต้องไปเยี่ยมบ้านประชาชน จากเดิมอาจเดิน หรือใช้รถจักรยานยนต์ ให้ปั่นจักรยานแทน ตลอดจนจัดกิจกรรมปั่นจักรยานทุกเดือนและต่อเนื่อง เช่น ปั่นในวันสำคัญต่าง ๆ อาทิ วันปีใหม่ วันสงกรานต์ วันพ่อ วันแม่ กิจกรรมปั่นเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ในวัด ในโรงเรียน กิจกรรมปั่นท่องเที่ยว ชมท่าเรือ ไหว้พระ ทำบุญ 9 วัด
พลังชุมชนเปลี่ยนเมืองได้ นโยบายการส่งเสริมสังคมไทยให้ใช้จักรยานต้องมองทุกมิติ ความฝันที่จะเห็นคนไทยใช้จักรยานเหมือนในประเทศเจริญแล้ว หลาย ๆ แห่งจะเป็นจริง