ปลุกกระแส “ผู้บริโภค” ชวนโหวต บ.ยอดเยี่ยม-แย่ สัญญาณเตือน “ธุรกิจ”
เผย “ลูกหนี้”ร้องเรียนอื้อ ถูกทวงไม่เป็นธรรม
สินค้า ชนิดนี้ดี…. สินค้าชนิดนั้นด้อยคุณภาพ…. โฆษณาโน้นมีส่วนช่วยในการส่งเสริมการขาย… หลากหลายเสียงเงียบของผู้บริโภคที่พูดถึงสินค้าและบริการที่วางขายอยู่อย่างแพร่หลายในตลาดสินค้าของประเทศ แต่เสียงเงียบก็คือเสียงเงียบมักหายไปตามกาลเวลา ถึงเวลาแล้วหรือยัง!!… ที่ทุกคนต้องลุกขึ้นมาปกป้องสังคมเรียกร้องสิทธิให้กับตัวเองและสังคม…..
ล่าสุดในงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการผลิตภัณฑ์ บริการ และโฆษณายอดเยี่ยม/ยอดแย่ประจำปี 2551 ของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคและภาคี มีการเปิดโอกาสให้ “ผู้บริโภค” ได้มีส่วนร่วมในการโหวตสินค้า ผลิตภัณฑ์และโฆษณาที่ “ยอดเยี่ยม” และ “ยอดแย่” ผ่าน www.consumerthai.org ตั้งแต่วันนี้-20 มกราคม 2552 โดยจะประกาศผลในวันที่ 30 เมษายน 2552 ซึ่งตรงกับวันคุ้มครองผู้บริโภค
และนี่จะเป็นครั้งแรกในไทยที่เชื่อว่าจะปลุกกระแส “ผู้บริโภค” ซึ่งเคยเป็น “ยักษ์หลับ” ให้ตื่นขึ้นมารู้จักสิทธิและเรียกร้องสิทธิให้ ตัวเอง
ในเวลาเดียวกัน ยังเป็นการ “กระตุก” และ “กระตุ้น” ให้ผู้ประกอบการเคารพสิทธิผู้บริโภคและดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น
รศ.
“ผลิตภัณฑ์ บริการ และโฆษณาที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยม/ยอดแย่ผลส่วนใหญ่มาจากประชาชนที่เป็นผู้บริโภคทั่วไป จะเป็นผู้ที่ตัดสินทั้งสิ้นแต่ต้องดูความเหมาะสมในการเลือก โดยจะมีคณะกรรมการของหน่วยงานที่ร่วมโครงการ เข้ามาตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นจริงของรางวัลนั้นๆด้วย” รศ.ดร.จิราพร กล่าว
ด้านรองศาสตราจารย์วิสิฐ จะวะสิต ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะหน่วยงานวิชาการ เป็นสิ่งที่น่ายินดีที่จะเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นกลางด้านอาหารและโภชนาการ และสนับสนุนกิจกรรมด้านการคุ้มครองผู้บริโภค เช่น กิจกรรมการสนับสนุนกิจกรรมการมอบรางวัลผลิตภัณฑ์/บริการ/โฆษณา ยอดเยี่ยมและยอดแย่ ซึ่งทางสถาบันคาดหวังว่าการมอบรางวัลดังกล่าวจะเป็นมาตรการหนึ่งในการกระตุ้นผู้บริโภคให้มีจิตสำนึกในการคุ้มครองตนเอง และใช้มาตรการทางสังคมลงโทษผู้ประกอบการที่ขาดจรรยาบรรณทางวิชาชีพและอาศัยช่องว่างของกฎหมายในการแสวงประโยชน์จากผู้บริโภค
ส่วนนางสาวบุญยืน ศิริธรรม ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้บริโภคภาคตะวันตก มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ที่ผ่านมาผู้บริโภคไทยเป็นเหมือนยักษ์ที่กำลังหลับ คนไทยทั้งประเทศเป็นผู้บริโภคที่อ่อนแอ ไม่ว่าใครผลิตอะไรมาก็ซื้อ เพราะฉะนั้นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคแสดงออกมาบ้างว่าพอใจในสินค้าและบริการอย่างไร ซึ่งคนที่ควรตัดสินเรื่องนี้ได้ดีที่สุด คือคนที่เสียเงินซื้อสินค้าและบริการนั้นๆ ที่ผ่านมาผู้บริโภคมักได้รับการประชาสัมพันธ์บอกแต่เรื่องดีๆ ของสินค้า บริการ องค์กร เมื่อซื้อมาใช้แล้วดีหรือเปล่า ผู้บริโภคไม่มีช่องทางที่จะบอกเลยว่าสินค้านั้นๆ ใช้แล้วเป็นอย่างไร โครงการนี้จึงเป็นช่องทางและเป็นกระจกสะท้อนจากผู้บริโภค
“แม้ว่าในแต่ละปีจะมีผู้บริโภคร้องเรียนมายังมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ไม่ต่ำกว่า 2,000 ราย แต่ที่น่าสนใจ คือในปี 2551 มีตัวเลขผู้ร้องเรียนต่อกรณีต่างๆ เพิ่มสูงขึ้นถึง 3,435 คน โดยหมวดหนี้สินมีผู้ร้องเรียนมากสุดถึง 2,300 ราย ส่วนใหญ่ร้องเรียนเรื่อง “การทวงหนี้ที่ไม่เป็นธรรม” คิดเป็นร้อยละ 56.95 ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไม่หยุด เพราะที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดูแลอย่างเข้มงวด ตามมาเป็นธุรกิจประกันภัยจำนวน 496 ราย ต่อมาเป็นเรื่องคุณภาพการบริการ 217 ราย โดยเฉพาะเรื่องฟิตเนส ที่ร้องเรียนมามากสุดในช่วงพฤศจิกายนที่ผ่านมา เพราะมีการเปลี่ยนโปรโมชั่น และบริการด้านธุรกิจโทรคมนาคม ถัดมาคือเรื่องอสังหาริมทรัพย์ 122 ราย เรื่องมาตรฐานผลิตภัณฑ์ 105 ราย เรื่องโทรคมนาคม 59 ราย เรื่องการละเมิดทั่วไป 54 ราย เรื่องการสาธารณสุข 46 ราย เรื่องสาธารณูปโภค 20 ราย เรื่องปัญหาครอบครัว 9 ราย เรื่องสิ่งแวดล้อม 6 ราย และเรื่องอื่นๆ 1 ราย” ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้บริโภคภาคตะวันตก บอกด้วยความห่วงใย
ทางด้านนางสาว
ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนต้องหันกลับมาดูแลตัวเองและสังคม อย่ามัวบริโภคแล้วนิ่งเฉย พลังโหวตของคุณ คือหนึ่งพลังหนึ่งเสียงที่จะเป็นหูเป็นตาได้ อย่ารอช้า ร่วมเป็นอีกหนึ่งเสียงโหวตผลิตภัณฑ์ บริการ และโฆษณา ยอดเยี่ยม/ยอดแย่ประจำปี พ.ศ. 2551 กัน!!!!
เรื่องโดย : มณีรัตณ แช่มมณี teamcontent www.thaihealth.or.th
updeat 26-12-51