ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือความสุขของคนไทย

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ โดย ดร.นพดล กรรณิกา ประธานชมรมขับเคลื่อนวิชาการเพื่อความสุขชุมชน


ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต


ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือความสุขของคนไทย thaihealth


จุดเริ่มต้นของการวิจัยความสุขมวลรวมคนไทยเกิดขึ้นในช่วงปีมหามงคลในปี 2548 ของทุกคนในชาติ ที่มีโอกาสได้เห็นพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นับเป็นก้าวแรกของการวิจัยความสุข คือการนิยามความสุขของประชาชนบนพื้นแผ่นดินไทยแต่ละคนแต่ละหมู่เหล่า


จากคนแต่ละคนนิยามความสุขว่าคืออะไร มาเป็นนิยามความสุขของคนในครอบครัว ต่อเนื่องเป็นความสุขของคนในชุมชนและองค์กรต่างๆ จนสูงขึ้นมาสู่ระดับของจังหวัดและระดับประเทศที่เรียกว่า ความสุขมวลรวม (Gross Domestic Happiness, GDH)


สำหรับคนไทย งานวิจัยความสุขมีตัวชี้วัดเป็นกลุ่มๆ อยู่ด้วยกันประมาณ 15 กลุ่ม ตัวชี้วัดที่มีผลต่อความสุขมวลรวมของคนในชาติ คือ สุขภาพกาย สุขภาพใจ ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว หน้าที่การงาน รายได้ส่วนตัวและรายได้ครัวเรือน ความสัมพันธ์ของคนในชุมชนและองค์กร การใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง การศึกษา ความเป็นธรรมที่ได้รับ สภาพแวดล้อมทางกายภาพ วัฒนธรรมประเพณี ความรักความสามัคคีของคนในชาติ สถานการณ์การเมือง สภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และสถานการณ์ปัจจุบันแวดล้อม


ในปี 2550 ผมได้ร่วมคณะรัฐบาลไทยเดินทางไปนำเสนองานวิจัยความสุขมวลรวมของคนไทยที่ประเทศภูฏานและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันถึงการสร้างดัชนีชี้วัดความสุขของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยมีอาจารย์ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์สมัยนั้น เป็นหัวหน้าคณะฝ่ายรัฐบาลไทย ร่วมกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือความสุขของคนไทย thaihealth  ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม, นพ.พลเดช  ปิ่นประทีป, อาจารย์ธีรภาพ โลหิตกุล และคณะ ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าการวิจัยความสุขของคนในชาติเป็นสิ่งที่เป็นไปได้และนำไปสู่การกำหนดนโยบายสาธารณะเพื่อพัฒนาประเทศโดยรวมและในระดับจังหวัดได้อีกด้วย


ในปี 2554 มีการจัดทำวิจัยความสุขของประชาชนระดับจังหวัดและพบว่า สุพรรณบุรี เป็นจังหวัดที่ประชาชนในจังหวัดมีความสุขมวลรวมมากที่สุด เพราะเป็นจังหวัดที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตร มีความเจริญในโครงสร้างพื้นฐาน คนในจังหวัดมีความสำนึกร่วมแห่งความเป็นคนท้องถิ่นท้องที่คนสุพรรณบุรี


ล่าสุดปี 2559 ได้จัดทำวิจัยความสุขมวลรวมของคนไทยทั้ง 77 จังหวัดอีกครั้งหนึ่งพบว่า สุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่ประชาชนมีความสุขมากที่สุด เพราะในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการพัฒนาอย่างชัดเจน ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนามากขึ้น และความภูมิใจของคนสุราษฎร์ฯ ที่มีนักกีฬาสร้างชื่อเสียงให้ประเทศในสายตาชาวโลกจำนวนมาก ในขณะที่จังหวัดที่มีความเป็นเมือง การแข่งขันสูง คนในชุมชนพื้นที่ไม่ได้รู้สึกเป็นเจ้าของจังหวัด มีคนต่างชาติเข้ามาครอบครองทรัพยากร ปัญหาสภาพแวดล้อมเป็นพิษ โรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก เป็นเมืองใหญ่เมืองเจริญทางวัตถุ ส่งผลทำให้คนในจังหวัดเมืองใหญ่ๆ มีความสุขมวลรวมในลำดับท้ายๆ


นอกจากนี้ ยังมีการวิจัยความสุขของคนทำงานในโครงการแฮปปี้เวิร์กเพลส ร่วมกับ สสส. วิจัยความสุขของลูกจ้างผู้ใช้แรงงานในนิคมอุตสาหกรรม พบว่า ลูกจ้างอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยอบายมุข ทำลายสุขภาพ ใช้จ่ายเงินหมดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือความสุขของคนไทย thaihealthไปกับค่ามือถือ เครื่องสำอาง ค่าเหล้า เล่นหวย เล่นพนัน บุหรี่ และสิ่งฟุ่มเฟือย จนถึงข้อเสนอแนะให้ลูกจ้างผู้ใช้แรงงานมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีมีสุข คนไม่ได้ใช้ชีวิตพอเพียงอย่างแท้จริง นึกอยากจะซื้ออะไรก็ซื้อ ซื้อของมาแล้วก็มากองๆ ไว้ไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างแท้จริง ก่อหนี้ก่อสินจำนวนมาก


จากการทำวิจัยความสุขมวลรวมของประชาชนมาเป็นระยะเวลานานอย่างต่อเนื่อง สมาคมวิจัยความคิดเห็นของสาธารณชนระดับโลก (The World Association for Public Opinion Research, WAPOR) จึงได้ตัดสินให้งานวิจัยความสุขมวลรวมของคนไทยที่เกิดจากการใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้รับรางวัลงานวิจัยที่ดีที่สุด ณ มหาวิทยาลัยโลซานซ์ สวิตเซอร์แลนด์  http://wapor.org/pdf/Newsletters/3and4q2009.pdf


นอกจากนี้ ยังตีพิมพ์เป็นจดหมายข่าวแห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ ฟอร์ด สหราชอาณาจักร โดยตีพิมพ์เป็นข่าวไว้ว่า งานวิจัยความสุขมวลรวมของคนไทยได้รับรางวัลเอกสารวิชาการที่ดีที่สุดระดับโลก ที่ค้นพบว่าคนไทยมีความสุขเพราะการใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงอันเป็นที่รักและจงรักภักดียิ่งของทุกคนบนพื้นแผ่นดินไทย รายละเอียดอ้างอิงที่  http://ijpor.oxfordjournals.org/content/21/4/566.extract.

Shares:
QR Code :
QR Code