“ประเวศ”แนะทางรอดสังคมไทย
การศึกษาต้องปฏิวัติจิตสำนึก
“หมอประเวศ” แนะทางรอดสังคมไทยระบบการศึกษาต้องปฎิวัติจิตสำนึกใหม่ การศึกษาต้องพัฒนาคนไม่ครอบคน ชี้ปัญหาที่เกิดขึ้น คนละเลยการใช้สมองส่วนหน้า ฝากเปิดหลักสูตรจิตตปัญญาศึกษาพัฒนาจิตเด็ก ส่วนมหาวิทยาลัยควรพา นศ.ใช้ชีวิตร่วมกับคนจนสัมผัสโลกของความเป็นจริง
เมือวันที่ 24 มิถุนายน 2553 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ กรุงเทพฯ มูลนิธิสดศรีสฤษดิ์วงศ์ สำนักงานกองทุนสลับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ร่วมจัดประชุมวิชาการ “สานจิตรเสวนา ครั้งที่ 2 : มีปัญญารักษาทุก(ข์)โรค
ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส กล่าวบรรยาย “สร้างองค์กรพัฒนาจิตทุกหย่อมหญ้า” ตอนหนึ่งว่า ขณะที่คนส่วนใหญ่อยู่ในสภาวะจิตคว่ำ คือการเห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่คนอื่น ไม่เห็นแก่สิ่งอื่น ไม่เห็นแก่ส่วนรวม ให้เกิดวิกฤติมากมาย อีกทั้งการศึกษาไทยตลอด 100 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันไม่ได้ทำหน้าที่พัฒนาคน แต่เป็นการครอบคน เป็นระบบการศึกษามิติเดียว ที่ครูทำหน้าที่คอยป้อนข้อมูลส่วนนักเรียนก็มีหน้าที่ฟังครูอย่างเดียว การศึกษาของไทยจึงทำให้เกิดแต่ความโง่เขลา ไม่ได้ช่วยพัฒนาจิตหงายของคนให้เกิดขึ้นมาได้ทั้งที่สถาวะจิตของคนเรานั้นมีทั้งสองด้าน คือ จิตหงาย การเห็นแก่ทั้งหมด เห็นแก่ส่วนรวมแต่กลีบไปพัฒนาเฉพาะจิตคว่ำ
ศ.นพ.ประเวศ กล่าวอีกว่า ระบบการศึกษาต้องเป็นกลไกในการปฎิวัติจิตสำนึกมหาวิทยาลัยต้องไม่ใช่เป็นกำแพงกั้นเด็กออกจากความเป็นจริง แต่ต้องเป็นมหาวิทยาลัยที่ให้ความรู้ และจิตสำนึกใหม่ๆ เช่น การพานักศึกษาไปใช้ชีวิตร่วมอยู่กับคนจน เพื่อให้เข้าใจโลกความเป็นจริง เห็นมุมมองความเป็นอยู่ของคนจริงๆ ไม่ใช่เพียงไปออกค่ยอาสาหากคนยังเห็นแก่ตัว ปฎิรูปอะไรก็ไม่พ้นวิกฤติต่างๆ ได้ และควรหันมาใช้สมองส่วนหน้า ซึ่งเป็นสมองส่วนของความรู้สึกนึกคิดสิ่งไหนดี สิ่งไหนชั่ว ความมีคุณธรรม จริยธรรม แต่กลับไปใช้สมองส่วนเยวกับสัตว์เลื้อยคลาน สมองส่วนหลังที่มีแต่การกิน ขี้ ปี้ นอน และกัดกันซึ่งเมื่อใช้สมองส่วนหลังมากๆ จึงมีแต่การทะเลาะเบาะแว้งของคนในสังคม ขณะเดียวกันสมองส่วนหน้า เรื่องศีลธรรม จริยธรรมก็หายไป” ศ.นพ.ประเวศ กล่าว
ศ.นพ.ประเวศ กล่าวต่อไปว่า เพื่อรับฟังและกระจายข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการพัฒนาจิต ให้เกิดเครือข่ายของการรับรู้แลกเปลี่ยนเพื่อให้เกิดชุมชนจิตสำนึกใหม่ การท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดชุมชนจิตสำนึกใหม่ การท่องเที่ยวจิตสำนึกใหม่ ขณะเดียวกันโรงพยาบาลทุกคนควรมีคลินิกเสริญสติ และหลักสูตรจิตตปัญญาศึกษา เพื่อเป็นการพัฒนาจิตเด็ก
ที่มา: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
Update: 25-06-53
อัพเดตเนื้อหาโดย: คมสัน ไชยองค์การ