“ประเวศ”วางกรอบปฏิรูปประเทศ 7+9
ลดเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม
“ประเวศ” วางกรอบปฏิรูป 7+9 ขับเคลื่อนการทำงาน เน้น “ลดความเหลื่อมล้ำ-สร้างความเป็นธรรม” ย้ำปฏิรูปไม่ใช่การปรองดอง ชี้ทำงานเชื่อมโยงกับคณะกรรมการปฏิรูป พร้อมตั้ง 2 คำถาม เปิดรับฟังความเห็นประชาชน ขณะที่ “ไพบูลย์” เสนอแผนการทำงานระยะสั้น-ระยะยาว
เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่บ้านพิษณุโลก นพ.
นพ.ประเวศ กล่าวว่า ตนขอย้ำว่าการปฏิรูปไม่ใช่การปรองดอง และไม่ได้ทำหน้าที่ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องระมัดระวังเพราะปัญหาต่างๆ เกี่ยวข้องกับหลายภาคส่วน หากนำปัญหาเข้ามาแก้ไขด้วยในคราวเดียวกันอาจเกิดการติดหล่มได้ ดังนั้นต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการแก้ไขปัญหา ส่วนข้อกังวลที่ว่า ข้อเสนอ อาจไม่ถูกนำไปปฏิบัติ คณะกรรมการชุดนี้ก็ไร้น้ำยานั้น ตนเชื่อว่า หากเป็นข้อเสนอที่เกิดจากพลังของสังคม ภาครัฐก็จะดำเนินการตาม
ประธานสมัชชาปฏิรูป กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางในการทำงานของคณะกรรมการฯ ชุดนี้ มีจุดประสงค์หลักเพื่อสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิรูป โดยคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูปได้ตั้งคำถามเพื่อการปฎิรูปประเทศไทย 2 ข้อ คือ 1.สังคมมีความเป็นธรรม ในความฝันอันสูงสุดของท่านนั้นคืออย่างไร และ 2. ท่านเสนอมาตรการอะไรบ้างที่จะลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย โดยเชิญชวนให้ประชาชนส่งความเห็นมาที่เฟสบุ๊ค www.facebook.com/Assembly reform หรืออีเมล์assemblyreform2010@gmail.com หรือส่งคำตอบมาที่องค์กรต้นสังกัด สมาคม ชมรม อบต. เทศบาล อบจ. สภาองค์กรชุมชน ธกส.ทุกสาขา สถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ
นาย
นาย
นาง
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้สรุปการดำเนินงานโดยปฏิรูปด้านต่างๆ 7+9 กลุ่ม โดย 7 ประเด็นปฏิรูป ได้แก่ 1.การสร้างพลังภาคส่วนที่ยังอ่อนแอ 2.ดึงภาคธุรกิจร่วมสร้างธุรกิจเพื่อความเป็นธรรม 3.สร้างความเข้มแข็งของท้องถิ่น 4.ชุมชนเข้มแข็ง 5.พัฒนากลไกราชการ 6.มหาวิทยาลัย และ 7.สื่อมวลชน ส่วน 9 ด้าน คือ 1.ระบบยุติธรรม 2.ปฏิรูปการศึกษา 3.การกระจายรายได้ 4. สวัสดิการสังคม 5.คุณภาพชีวิตเกษตรกร 6.คุณธรรมของคนในสังคม 7.การจัดการทรัพยากร 8.การตรวจสอบโดยภาคประชาชน และ9.โครงสร้างอำนาจที่สมดุล
สำหรับกระบวนการทำงานประกอบด้วย การสร้างพลังความร่วมมือของสื่อมวลชน การลงพื้นที่เพื่อทำงานร่วมกับท้องถิ่น มีคณะทำงานสังเคราะห์ข้อมูล และการมีส่วนร่วม ทั้งนี้คณะกรรมการฯ จะประชุมนัดถัดไปในวันที่ 29 กรกฏาคม นี้
จากนั้น นพ.ประเวศ เปิดให้ผู้สื่อข่าวซักถาม โดยผู้สื่อข่าวถามว่่าปัจจัยทางการเมืองขณะนี้เอื้อให้การปฏิรูปประเทศไทยทำได้หรือไม่ นพ.ประเวศ กล่าวว่า ต้องมองการเมืองมากกว่าพรรคการเมือง กระบวนการประชาชนที่มีการชุมนุมเรียกร้องต่างๆ นั้น ก่อให้เกิดจิตสำนึกของคนในชาติว่าเราต้องลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเป็นธรรม ดังนั้น ต้องไม่มองการเมืองเฉพาะการเมืองที่ทะเลาะกัน เพราะกระบวนการประชาชนยิ่งใหญ่กว่าการเมือง
“หลังจากนี้คณะกรรมการฯ จะไปรับฟังจากเครือข่ายต่างๆ ว่าคิดอย่างไร อยากเห็นสังคมที่เป็นธรรมอย่างไร และมีข้อเสนอแนะอย่างไรเพื่อให้มีมาตรการที่สร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำต่อไป”นพ.ประเวศกล่าว
ที่มา:สำนักข่าว สสส.
Update:14-07-53
อัพเดทเนื้อหาโดย:คีตฌาณ์ ลอยเลิศ