ประเทศไทย คือ คนไทย

 ปฏิรูปประเทศไทย ประชาชนต้องมีความสุข

 

ประเทศไทย คือ คนไทย

        

        เป็นความจริงที่มีผู้กล่าวว่า “กรุงเทพฯไม่ใช่ประเทศไทย” ดังนั้น การที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวหน้าพัฒนาไปอย่างสมบูรณ์ นั่นมิใช่ว่า เราจะทุ่มเทพัฒนากันแต่ กรุงเทพมหานครเพียงอย่างเดียว เพราะ กรุงเทพฯไม่ใช่ประเทศไทย แต่ประเทศไทยหมายรวมไปถึง พื้นที่ทั้ง 76 จังหวัด ซึ่งหากจะมีการปฏิรูปประเทศไทยกันจริงๆแล้ว ต้องมีการปฏิรูปให้เกิดการพัฒนาทั้ง 76 จังหวัด

 

         ในทำนองเดียวกัน คือ ว่า ประเทศไทย ความหมายที่แท้จริง ก็คือ คนไทย นั่นเอง ดังนั้น การทำให้ประเทศไทย เกิดการพัฒนาไปในทางที่ดี นั่นย่อมหมายถึงว่า การทำให้คนไทยทุกคนที่อยู่ในประเทศ เกิดการพัฒนา มีคุณภาพชีวิตที่ดี และ มีความสุขในความเป็นอยู่ของชีวิตประจำวัน ทั้ง ปัจจุบัน และอนาคต

 

          “ปานมณี”มีโอกาสได้อ่านข้อมูล เกี่ยวกับ การปฏิรูปประเทศไทยจากศูนย์ข้อมูลข่าวสารปฏิรูปประเทศไทย ของ สถาบันอิศรา ได้พบว่า แนวคิด และ การตั้งความหวังของ นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มีอะไร หลายอย่างที่น่าสนใจมากทีเดียว

 

         สำนักงาน กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) จัดได้ว่า เป็นหนึ่งในเครือข่าย สถาบันทางปัญญา ที่ ทำหน้าที่สร้างเสริม พัฒนา ให้สังคมไทย เข้าสู่ภาวะแห่งความสุข โดยให้การสนับสนุนทางด้านการเงินแก่ หน่วยงานที่มีโครงการในการ สร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามให้เกิดแก่ คนในสังคม โดยมี นายแพทย์ สุภกร บัวสาย เป็น ผู้จัดการ ที่จะขับเคลื่อนให้ประเทศไทย และสังคมไทยเกิดความสุข และเกิดการพัฒนาในทางที่ดี

 

         คุณหมอ สุภกร บัวสาย พูดถึง ภารกิจขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทย ทางด้านสุขภาวะคนไทย ว่า ถ้าเราปฏิรูปเฉพาะตัวระบบ ตัววิชาการมาผลักดัน ชวนนักการเมืองมาทำ ใช้อำนาจรัฐมาผลักดัน เชื่อว่า ก็คงไม่ยั่งยืน การเข้าไปร่วมงานให้เกิดประเด็นปฏิรูปในพื้นที่ น่าจะได้ผลดีมากกว่าเช่น อาจจะไปชวนตั้งคำถามว่าจะทำให้จังหวัดของแต่ละคนน่าอยู่ที่สุดจะทำอย่างไร? คำถามอย่างนี้ถ้าทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมช่วยกันตอบ มีวิสัยทัศน์เพื่อจะให้จังหวัดของเขาเป็นอย่างไรก็จะเกิดการเรียนรู้มีทิศทางร่วมกัน เมื่อเราทำกันทุกจังหวัดรวมกันทั้ง 76 จังหวัด ก็คือการปฏิรูปประเทศไทย นี่คือโจทย์ใหญ่ของการปฏิรูปว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยน่าอยู่ที่สุด

 

         แล้วแนวทางของการปฏิรูปประเทศไทยจะเป็นเช่นไร คุณหมอสุภกร บัวสาย บอกว่า คุณหมอประเวศ วะสี ได้ให้ความเห็นว่า ถ้าเปรียบเทียบประเทศไทยให้เป็น องค์พระเจดีย์ การปฏิรูปประเทศไทยควรให้ความสำคัญ 3 ระดับด้วยกัน ได้แก่ ตัวฐานของพระเจดีย์ คือ องค์กร ชุมชนต่างๆ ประชาชน องค์พระเจดีย์ คือ การเชื่อมโยงระบบต่างๆ และยอดเจดีย์ คือ จิตสำนึกของประชาชนแต่ละคน

 

         ขั้นตอนแรกต้องทำความรู้ให้มีความชัดเจนก่อนว่า ในช่วงแรกจะมีงานวิชาการเข้ามาเป็นองค์ประกอบสำคัญ จากนั้นก็ขยายความรู้ไปสู่การมีส่วนร่วมของบุคคลที่เกี่ยวข้องแต่ละเรื่อง เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจของคนที่สนใจในการนำไปสู่การผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงการตัดสินในระดับรัฐบาลหรือรัฐสภาต่อไป ส่วนนี้เรียกว่าองค์พระเจดีย์ ส่วนที่จะปฏิรูปต่อไปคือฐานพระเจดีย์ ที่หมายถึง ประชาชนที่อยู่ตามท้องถิ่นชุมชนต่างๆ ตรงนี้ในปีแรก เรายังลงไปไม่ถึงมากนัก แต่ว่าได้เริ่มและมีการทำงานในท้องถิ่นหลายกรณี เช่น การฟังเสียงประชาชนโดยกระบวนการประชาเสวนา หรือ Citizen Dialogue เป็นกระบวนการที่เน้นคุณภาพการฟังเสียงประชาชนให้ชัดเจนมากกว่าเรื่องการสำรวจโพล มีการแลกเปลี่ยนกันในวงเสวนา เป็นกระบวนการลงไปทำงานกับประชาชนในท้องถิ่น หรือบางเรื่องก็เริ่มทำในระดับจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรประชาชนแล้ว เช่น อาจจะไปชวนตั้งคำถามว่าจะทำให้จังหวัดของแต่ละคนน่าอยู่ที่สุดจะทำอย่างไร คำถามอย่างนี้ถ้าทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมช่วยกันตอบ มีวิสัยทัศน์เพื่อจะให้จังหวัดของเขาเป็นอย่างไรก็จะเกิดการเรียนรู้มีทิศทางร่วมกัน เมื่อเอาทุกจังหวัดรวมกันทั้ง 76 จังหวัดก็เท่ากับว่า เรากำลังปฏิรูปประเทศไทย อีกระดับหนึ่งคือ ยอดเจดีย์ ที่มีความหมายถึง จิตสำนึกของประชาชน

 

         เพราะถ้าเราไม่ซึมลึกลงไปในจิตสำนึกก็ไม่เกิดสัมมาทิฐิ คือ อยากให้คนอื่นมาทำให้แต่ตัวเองไม่รู้ว่าจะปฏิรูปอย่างไรต้องเปลี่ยนแปลงความคิดอย่างไร ดังนั้น ถ้าทำให้คนไทยส่วนใหญ่ได้กลับมาถามตัวเองว่า ถ้าจะทำให้ประเทศไทยน่าอยู่ที่สุดตัวเองจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ก็จะทำให้การปฏิรูปครบทั้ง 3 ระบบ ทั้งระดับฐาน องค์พระเจดีย์ และยอดเจดีย์

 

         สำหรับเป้าหมาย ที่ ทาง สสส.จะขับเคลื่อนให้งานเดินหน้าไปอย่างมีประสิทธิภาพในปี 2553 คุณหมอ สุภกร บัวสาย กล่าวไว้ว่า ปี 2553 จะเพิ่มเรื่องของความเข้มข้นในระดับของฐานพระเจดีย์ คือให้มีการทำงานกับพื้นที่ต่างๆมากขึ้น มีความก้าวหน้าถึงแนวทางของการปฏิรูป มีทิศทางของแต่ละระบบมากขึ้น และ การรณรงค์ของจิตสำนึกก็จะเป็นขั้นตอนต่อไป

 

         ได้รู้ได้เห็น แผนงาน และ แนวทาง ที่ นายแพทย์สุภกร บัวสาย พูดเอาไว้อย่างนี้ ทำให้พอที่จะสบายใจได้ว่า ประเทศไทยของเรายังไม่ว้าเหว่ หรือ อ้างว้างไร้ที่พึ่ง เพราะอย่างน้อยที่สุด องค์กรอย่าง สสส.คงจะยืนเคียงคู่เพื่อสร้างสรรค์ให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่แห่งความสุขของคนไทยตลอดไป

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า

 

 

 

 

Update: 13-01-53

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : กิตติยา  ธนกาลมารวย

 

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code