ประกันสังคมใช้ กม.ใหม่ 9 ธ.ค.นี้
ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
แฟ้มภาพ
สำนักงานประกันสังคม ประกาศใช้ พ.ร.บ.เงินทดแทน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 มีผลบังคับใช้ 9 ธ.ค.นี้ เป็นธรรมกับนายจ้าง-ลูกจ้างได้ประโยชน์เพิ่ม
นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ รักษาการเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พ.ร.บ.เงินทดแทน (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 10 ต.ค.61 โดยมีผลบังคับใช้ เมื่อพ้นกำหนด 60 วัน นับแต่วันที่ประกาศ หรือมีผลตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. 61 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ พ.ร.บ.เงินทดแทนฉบับใหม่ ได้มีการปรับปรุงค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน ค่าหยุดงาน ค่าทุพพลภาพ ค่าทำศพ และขยายความคุ้มครองให้ลูกจ้างส่วนราชการ และลูกจ้างที่ทำงานในองค์กรที่มิได้แสวงหากำไรทางเศรษฐกิจ อีกทั้งในส่วนของนายจ้าง ก็จะได้รับประโยชน์จาก พ.ร.บ.เงินทดแทนนี้ โดยมีการปรับลดเงินเพิ่มตามกฎหมาย จากเดิมร้อยละ 3 ต่อเดือน เหลือร้อยละ 2 ต่อเดือน และกำหนดเกณฑ์การคำนวณเงินเพิ่ม กรณีนายจ้างค้างชำระเงินสมทบ โดยกำหนดให้จำนวนเงินเพิ่ม ต้องไม่เกินจำนวนเงินสมทบที่นายจ้างต้องจ่าย เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงแรงงาน โดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน ที่ให้ความสำคัญเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม การสร้างโอกาสเข้าถึงบริการของรัฐ ลูกจ้างได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น และนายจ้าง ได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น
นายอนันต์ชัย กล่าวด้วยว่า สาระสำคัญของ พ.ร.บ.เงินทดแทนฉบับใหม่ ได้มีการขยายความคุ้มครองแก่ลูกจ้างของส่วนราชการ และลูกจ้างซึ่งทำงานในองค์กรของนายจ้าง ที่มิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไรทางเศรษฐกิจ รวมถึงการออกกฎหมายบังคับใช้เกี่ยวกับขอบเขตการคุ้มครองลูกจ้าง ซึ่งได้รับการจ้างงานในประเทศ (Local staff) ของสถานเอกอัครราชทูต และองค์การระหว่างประเทศ เพิ่มอัตราการจ่ายค่ารักษาพยาบาล ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพในการทำงาน และค่าทำศพกรณีลูกจ้างประสบอันตราย หรือเจ็บป่วยจนถึงแก่ความตาย หรือสูญหาย โดยออกเป็นกฎกระทรวง เพื่อให้ลูกจ้างได้รับประโยชน์ ดังนี้
เพิ่มอัตราค่าทดแทนกรณีต่างๆ จากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 70 ของค่าจ้างรายเดือน เพิ่มระยะเวลาการจ่ายค่าทดแทน กรณีลูกจ้างทุพพลภาพเป็นไม่น้อยกว่า 15 ปี (เดิมไม่เกิน 15 ปี) เพิ่มระยะเวลาการจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้างถึงแก่ความตายหรือสูญหายมีกำหนด 10 ปี (เดิมกำหนด 8 ปี) อีกทั้งกำหนดการจ่ายค่าทดแทนสำหรับกรณีลูกจ้างไม่สามารถทำงานได้ให้ได้รับตั้งแต่วันแรกที่ลูกจ้างไม่สามารถทำงานได้ (เดิมจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้างไม่สามารถทำงานติดต่อกันเกิน 3 วัน) เพิ่มการจ่ายค่าทำศพแก่ผู้จัดการศพของลูกจ้างตามอัตราที่กำหนด ในกฎกระทรวง (เดิมจ่ายค่าทำศพแก่ผู้จัดการศพของลูกจ้างเป็นจำนวน 100 เท่า ของอัตราสูงสุดของค่าจ้างขั้นต่ำรายวันตามกฎหมาย ว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน)
กฎหมายนี้ยังเพิ่มเติมบทนิยาม คำว่า "ภัยพิบัติ" เพื่อให้เกิดความชัดเจน เกี่ยวกับความหมาย หรือลักษณะของภัยพิบัติ ลดการจ่ายเงินเพิ่มตามกฎหมายในท้องที่ประสบภัยพิบัติ ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด อีกทั้งในส่วนของนายจ้าง ก็จะได้รับประโยชน์จาก พ.ร.บ.เงินทดแทนนี้ โดยมีการปรับลดเงินเพิ่มตามกฎหมายจากเดิมร้อยละ 3 ต่อเดือน เหลือร้อยละ 2 ต่อเดือน และกำหนดเกณฑ์การคำนวณเงินเพิ่ม กรณีนายจ้างค้างชำระเงินสมทบโดยกำหนดให้จำนวนเงินเพิ่มต้องไม่เกินจำนวนเงินสมทบที่นายจ้างต้องจ่าย (เดิมไม่ได้กำหนดเพดานเงินเพิ่มไว้) เป็นต้น
นายอนันต์ชัย กล่าวว่า พ.ร.บ.เงินทดแทน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 นี้ ส่งผลให้ลูกจ้างมีหลักประกันของชีวิตดีขึ้น รวมถึงค่าทดแทนการขาดรายได้ และระยะเวลาที่เพิ่มขึ้นเพียงพอสำหรับการดำรงชีวิตในกรณีไม่สามารถทำงานได้ มีความจำเป็นต้องหยุดงาน และในส่วนของนายจ้างก็ได้รับประโยชน์จากการปรับลดอัตราเงินเพิ่ม ส่งผลให้สถานภาพด้านการเงินของนายจ้าง มีความมั่นคง เสริมสร้างสังคมประเทศชาติให้มีเสถียรภาพเป็นปึกแผ่น มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป