บ้านนี้มีสีรุ้ง
เรื่องโดย เทียนทิพย์ เดียวกี่ Team Content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลบางส่วนจาก คู่มือผู้ปกครองในการดูแลบุตรหลานหลากหลายเพศ
ภาพโดย ปารมี ขันธ์แก้ว Team Content www.thaihealth.or.th และ สสส.
ผู้ปกครองหลายคนมักมีคำถามว่า “ลูกมีความหลากหลายทางเพศ ผิดปกติหรือไม่?” “ ลูกเป็นโรคหรือเปล่า?” “ถ้าสังคมไม่ยอมรับลูกจะปลอดภัยหรือไม่ ไปโรงเรียนลูกจะโดนเพื่อนแกล้งหรือเปล่า?” หลากหลายคำถามและความรู้สึกที่บ่งบอกถึงความกังวล และเป็นห่วง เมื่อรู้ว่าลูกมีความหลากหลายทางเพศ
บ้าน กลายเป็นสถาบันครอบครัวในขั้นพื้นฐานที่ทำหน้าที่อบรม บ่มเพาะเด็กให้โตมาอย่างมีคุณภาพ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สถาบันครอบครัวเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างสุขภาวะที่ดีให้แก่เด็กๆและคนในครอบครัว จะดีกว่าไหมหากคำถามข้างต้น ถูกคลี่คลาย และนำมาซึ่งหลักปฏิบัติที่สร้างความเข้าใจ ยอมรับและภาคภูมิใจในตัวตน ผ่านคู่มือผู้ปกครองในการดูแลบุตรหลานหลากหลายเพศ ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เปิดตัวคู่มือเมื่อไม่นานมานี้ เพื่อเป็นสื่อกลางการเรียนรู้ สร้างความเข้าใจผู้ปกครองให้รู้จักวิธีดูแลเด็ก-เยาวชนที่มีความหลากหลายทางเพศ เพื่อร่วมสร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัวที่มีลูกหลานหลากหลายเพศให้ตระหนักถึงตัวตนของคนข้ามเพศ และเพื่อให้เขาเติบโตอย่างมีสุขภาวะ
“เพศ” ไม่ได้เป็นสิ่งที่จำกัดหมวดหมู่ไว้สำหรับหญิงและชายที่เกิดขึ้นมาตามเพศสรีระ เพียงแค่สองเพศอีกต่อไป แต่ยังอาจหมายถึง อัตลักษณ์ทางเพศ การแสดงออกทางเพศ เพศวิถี หรืออื่นๆ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า ความหลากหลายทางเพศ (Gender and sexual diversity) หรือ LGBTQN+ นั่นเอง
คู่มือเล่มนี้เปรียบเหมือนสะพานที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมจะดูแลทุกปัญหาที่เกิดขึ้น ผศ.ดร.รณภูมิ สามัคคีคารมย์ ประธานมูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน เล่าว่า มูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน มุ่งเน้นการทำงานเรื่องสิทธิมนุษยชน สิทธิความหลากหลายทางเพศ มูลนิธิฯ ทำงานร่วมกับ สำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ (สำนัก9) สสส. มุ่งสร้างเสริมสุขภาพประชากรกลุ่มเฉพาะ ทั้งในด้านสิทธิและสุขภาวะ ดังนั้น คู่มือผู้ปกครองในการดูแลบุตรหลานหลากหลายเพศ นับเป็นคู่มือเล่มแรกของไทย ที่เป็นคู่มือภาคีภาคสังคม ที่จะให้ความรู้และเป็นเพื่อนร่วมทางในทุกครอบครัวที่มีบุตรหลานหลากหลายทางเพศ รวมทั้งสร้างความมั่นใจให้กับผู้อ่าน
นางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวว่า สสส. เป็นหน่วยงานที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของความกังวล ความไม่สบายใจหลายอย่างของผู้ปกครอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้นำมาซึ่งสุขภาวะ สสส.เชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยคลายความกังวล ช่วยเครือข่ายปลดล็อกปัญหา คู่มือนี้ไม่ใช่คำตอบอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยความเข้าใจของผู้ปกครองมาร่วมด้วย เพื่อนำไปสู่การมีสุขภาวะที่ดีของทุกคน
จะเกิดอะไรขึ้น หากผู้ปกครองไม่มีความเข้าใจ แน่นอนว่าผลกระทบต้องตกมาสู่เด็กเป็นแน่ นพ.เบญทวิช สุรศาสตร์พิศาล แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว คลินิกเพศหลากหลาย (Gen V Clinic ) โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้อธิบายว่า ปัญหาดังกล่าวจะ ส่งผลกระทบหลักๆ ใน 2 ประเด็นได้แก่
1. สุขภาพจิต เด็กที่พ่อกับแม่ไม่ได้ยอมรับตัวตนของเขา กลุ่มนี้อาจจะรู้สึกว่าบ้านไม่ปลอดภัย การพัฒนาอัตลักษณ์ต่างๆในตัวตนของเขา ไม่ว่าจะเป็นอัตลักษณ์ทางเพศในเรื่องของความภาคภูมิใจในตัวเองก็อาจจะน้อยกว่า เพราะฉะนั้นถ้ามีเรื่องเกี่ยวกับเพศ เขาจะไม่กล้าเล่าให้ที่บ้านฟัง เด็กกลุ่มนี้ก็อาจจะไปปรึกษากลุ่มอื่นหรือหากไม่มีใครคุยกับเขา เขาก็จะรู้สึกโดดเดี่ยว นำมาสู่ปัญหาสุขภาพจิต ภาวะซึมเศร้า และการฆ่าตัวตายในที่สุด
2.สุขภาพกาย บางคนอาจแอบไปใช้ฮอร์โมน แอบไปทานยาคุม ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นอันตราย ซึ่งไม่ได้มาคุยให้พ่อแม่ฟัง หรืออาจจะมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยนำมาซึ่งโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ ถ้าบ้านไหนที่ผู้ปกครองเข้าใจและยอมรับในเพศที่เขาเป็น จะเป็นจุดเริ่มต้นอันดีที่จะสามารถสร้างสุขภาวะให้กับเด็กกลุ่มนี้ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต
คู่มือผู้ปกครองในการดูแลบุตรหลานหลากหลายเพศ ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมความรู้ ความเข้าใจ ตลอดจนการสื่อสารความรู้สึกเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคง ปลอดภัยซึ่งกันและกันระหว่าง ผู้ปกครองและลูกหลานที่มีความหลากหลายทางเพศ ให้มีสุขภาวะ สิทธิ โอกาส ทางเลือก และการรับมือกับสิ่งต่างๆ รวมทั้งเติมเต็มความรักในครอบครัวให้มีความสุขมากขึ้น โดยสามารถดาวน์โหลดคู่มือผู้ปกครองในการดูแลบุตรหลานหลากหลายเพศ ได้ที่ บ้านนี้มีสีรุ้ง http://ssss.network/aiq4s