บทบาทหญิงชาย ช่วยเลี้ยงลูกไปด้วยกัน
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
แฟ้มภาพ
การเลี้ยงดูบุตรอย่างมีคุณภาพ ควรสร้างวิถีที่ทำให้ผู้หญิงและผู้ชาย มีความรับผิดชอบร่วมกันเลี้ยงดูบุตร เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตครอบครัวและการทำงาน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีการประกาศเจตนารมณ์ “การเสริมพลังบทบาทหญิงและชาย เพื่อการเลี้ยงดูบุตรอย่างมีคุณภาพ” กล่าวว่า การประกาศเจตนารมณ์ฯ เป็นการดำเนินงานที่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 48 กำหนดให้สิทธิของมารดาช่วงก่อนและหลังการคลอดบุตร ได้รับความคุ้มครองและช่วยเหลือ
นอกจากนี้แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต เพื่อพัฒนาและยกระดับทรัพยากรมนุษย์ทุกมิติและทุกช่วงวัย ประกอบกับกำหนดให้มีการ เตรียมความพร้อมแก่พ่อแม่ในการเลี้ยงดูบุตร และกระตุ้นพัฒนาการของบุตรให้มีความเหมาะสม และเพื่อส่งเสริมการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ให้มีส่วนสร้างความก้าวหน้าของสังคมควบคู่กับสิทธิด้านแรงงาน
รวมถึงสนับสนุนการสร้างครอบครัวให้ชีวิตของแรงงาน โดยไม่มีปัจจัยเรื่องการมีบุตรมาเป็นอุปสรรค จนเป็นเหตุให้ผู้หญิงหรือผู้ชายต้องออกจากงาน และมีความสอดคล้องกับอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศว่า ด้วยสิทธิการคุ้มครองความเป็นมารดา พ.ศ. 2543 ที่ขยายการคุ้มครองส่งเสริมความเท่าเทียมกันของสตรีทุกคน ที่เป็นกำลังแรงงาน สุขภาพและความปลอดภัยของแม่และเด็ก
ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ การพัฒนาสถานภาพสตรีแห่งชาติ (กยส.) พิจารณานำประเด็นปัญหาของสตรี มาพัฒนาเป็นนโยบายสนับสนุนสตรีให้เป็นพลังสำคัญทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะประเด็นที่สตรีเป็นผู้ให้กำเนิด ไม่ควรเป็นเหตุที่ทำให้สตรีถูกเลือกปฏิบัติ สถาบันทางเศรษฐกิจ สถานประกอบการ ควรสร้างวิถีที่ทำให้ผู้หญิงและผู้ชาย มีความรับผิดชอบร่วมกันในการเลี้ยงดูบุตร เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตครอบครัวและการทำงาน รวมถึงเพื่อสร้างสังคม ที่มีผลิตภาพที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของผู้หญิงและผู้ชาย
แม้ว่าปัจจุบันมีกฎหมายคุ้มครองแรงงาน กำหนดให้ลูกจ้างลาคลอดบุตรไม่เกิน 98 วัน โดยได้รับค่าตอบแทน แต่จากการศึกษาพบว่า เด็กแรกเกิดควรได้รับนมแม่ช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต ซึ่งเป็นระยะเวลามากกว่ากฎหมายกำหนดไว้ จึงเป็นหน้าที่ของสังคมทุกภาคส่วนที่ต้องผลักดันให้สิทธิของแรงงานหญิงและครอบครัว ขยายเพิ่มเติมให้สอดรับกับสภาพความเป็นจริง ให้การทำงานและการสร้างครอบครัว เดินควบคู่กันไปได้
การประกาศเจตนารมณ์ฯ วันนี้ ถือว่าเป็นมาตรการหนึ่งที่ส่งเสริมโอกาสผู้หญิงและผู้ชาย ให้มีส่วนร่วมการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีแนวปฏิบัติของภาคส่วนที่เกี่ยวข้องด้านการเสริมพลังบทบาทหญิงและชาย เพื่อการเลี้ยงดูบุตรอย่างมีคุณภาพ ได้แก่ ให้พนักงานชาย ลาเพื่อช่วยภรรยาเลี้ยงดูบุตร ได้ 15 วัน, ให้พนักงานหญิง ลาคลอดบุตรได้ 120 วัน, ให้มีมุมนมแม่ ที่มีความสะอาดและปลอดภัย, ส่งเสริมสัมพันธภาพของครอบครัว สร้างความรักความผูกพัน และให้โอกาสบิดาและมารดา เพื่อการสร้างครอบครัวที่อบอุ่น, สร้างความตระหนักรู้และคุ้มครองสิทธิแรงงานหญิง ให้สอดคล้องกับสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ และมีหลักประกันความมั่นคง