นิทาน – ครอบครัว สายใยป้องกันพิษภัยบุหรี่ไฟฟ้า

ข้อมูลจาก : นิทรรศการมีชีวิต FAKE OR FRESH? – MY LIFE EXHIBITION ภายใต้โครงการ “รู้ทันสื่อรู้ทันภัยป้องกันเยาวชนไทยจากบุหรี่ไฟฟ้า”
ภาพโดย พงศ์ศุลี จีระวัฒนรักษ์ Team Content www.thaihealth.or.th และแฟ้มภาพ

                  ปฎิเสธไม่ได้ว่าพิษภัยของบุหรี่ – บุหรี่ไฟฟ้า ส่งผลกระทบสุขภาพ ของนักสูบทุกกลุ่มวัย แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือ เป้าหมายของบุหรี่ไฟฟ้า พุ่งเป้าไปที่เยาวชน  ด้วยรูปลักษณ์ของบุหรี่ไฟฟ้าที่เปลี่ยนไปเป็น  “ทอยพอต”  คล้ายตัวการ์ตูนที่เด็ก ๆ ชื่นชอบ ดังนั้นการสร้างความตระหนักรู้ถึง พิษภัย และให้รู้จักกล้าปฎิเสธ บุหรี่ไฟฟ้า เป็นสิ่งที่ต้องปลูกฝังลงไปในใจเด็ก

ครูชีวัน วิสาสะ นักเขียน นักเล่านิทาน นักวาดภาพประกอบ

                  “อีเล้งเค้งโค้ง พับปลอดพอด” ผลงานล่าสุดของ ครูชีวัน วิสาสะ  นักเขียน นักเล่านิทาน นักวาดภาพประกอบ เล่าว่า ในการทำหนังสือนิทานสำหรับเด็กนั้น ไม่ได้เอานิทานมาเป็นตัวตั้ง แต่เลือกนำเอาถ้อยคำที่ต้องการ สื่อสารเป็นตัวตั้ง ใช้เทคนิค “การออกแบบการสื่อสาร”  โดยครั้งนี้ต้องการ ให้ เด็กๆ รู้จักปฎิเสธ “ทอยพอต” จึงเลือกให้เด็กจดจำ ว่า เมื่อมีคนหยิบยื่น “ทอยพอต” ให้  ต้องปฏิเสธ  แต่การจะปฏิเสธได้นั้น ต้องอาศัยการเรียนรู้ ใช้ความกล้า ความมั่นใจ ด้วยประสบการณ์ของตัวเด็กเอง อีกทั้งภาษา -รูปลักษณ์ ของนิทาน ต้องง่าย ไม่ซับซ้อน หรือ สละสลวย จนต้องแปลความ  เน้นการใช้เว้นจังหวะ และ ใช้ฉันทลักษณ์ เป็นคำคล้องจองกัน  และเน้นที่คำสำคัญกำหนดไว้ให้ลงคำท้ายเสมอ เช่น คำว่า “ไม่เอาทอยพอต ”

                  “การจะทำให้ใจเด็ก “ไม่เอาทอยพอต”ต้องโน้มน้าว ด้วยการพูดตามเรา และการเว้นจังหวะให้เด็กพูด ออกมาจากปากเด็กเอง เมื่อเผชิญกับ ทอยพอต ที่มีรูปร่างน่าตาน่ารักในชีวิตจริง  จะเกิดความขัดแย้งในใจ  หวนคิดถึงคำพูดของตัวเองที่ถูกปลูกฝังมาตลอด ว่า “ไม่เอาทอตพอต” เกิดความยับยั้งชั่งใจ สร้างทางออกในการปฎิเสธ เกิดการเรียนรู้ ”ครูชีวัน กล่าวว่า

                  ส่วนเนื้อหาเรื่องอันตราย ของทอยพอต ครูชีวัน  กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบสอดแทรกเนื้อหาลงไปในนิทาน เพราะบางเนื้ออาจหนักไปสำหรับเด็กเล็ก ไม่อาจจดจำได้ทั้งหมด ทั้งเรื่องสารเสพติด ชนิดต่างๆ  โดย “อีเล้งเค้งโค้ง พับปลอดพอด” เป็นนิทานที่เหมาะกับเด็กวัยอนุบาล ที่ต้องการเสริมความมั่นใจในการปฏิเสธ โดยเป็นการเรียนรู้จากพฤติกรรมของเด็กวัยนี้ ที่มีความดื้อในตัว “ชอบพูดว่า ไม่เอา ไม่ชอบ”เพียงเพราะอยากต่อต้าน จึงนำประโยชน์ของการปฏิเสธมาใช้ ให้ต่อต้านในสิ่งไม่ดี และสิ่งที่สมควรปฏิเสธ

                  “การปลูกฝังเด็กให้รู้จักปฎิเสธ พ่อแม่ต้องช่วยด้วย ชี้จุดสังเกตแก่ลูก ว่า ทอยพอต มีต้นทุนราคาถูก เป็นอะไรที่แข็งๆ เป็นเปลือก เพื่อบรรจุสารเคมีลงไป มีหลอดดูด และมีวงจรไฟฟ้า มีสารระเหย เป็นอะไรที่ทื่อๆ  ต่างจากตุ๊กตาของจริงสัมผัสจับต้องได้ แขนขาขยับได้ อาร์ตทอย สามารถเปลี่ยนออฟชั่นได้ หากพ่อแม่ไม่บอก ปล่อยให้เด็กปฏิเสธเองโดยไม่ได้สังเกต เด็กจะเกิดความวังเวง  ”ครูชีวัน กล่าวว่า

                  เช่นเดียวกับ ผศ.นพ.วรวุฒิ เชยประเสริฐ  (คุณหมอวิน  เพจเลี้ยงลูกตามใจหมอ) กล่าวว่า การที่เด็กคนหนึ่งจะห่างไกลจากบุหรี่ไฟฟ้าได้ ต้องอาศัย ภูมิคุ้มกันทางจิตใจที่มั่นคงเพียงพอ เพราะต้องเผชิญกับการถูกชักจูงจากเพื่อน หรือ กระแสโซเชียล ดังนั้นพ่อแม่คอยสอดส่องดูแล พูดคุยกับลูกให้เป็นปกตินิสัย เพื่อช่วยให้ข้อสังเกตชี้แนะ โดยเคล็บลับสำคัญที่ทำให้พ่อแม่กับลูกยังคงสื่อสารกันได้ตลอด แม้จะเลยช่วงวัยเด็กไปแล้วก็ตามคือ การเปิดใจรับฟังโดยไม่มีการตำหนิ ต่อว่า ในทันทีที่ลูกเปิดใจเล่าเรื่องราวต่างๆ เพราะไม่เช่นนั้น เด็กจะหยุดเล่าทันที ต้องทำให้เด็กเชื่อว่า พ่อแม่คือทีมเดียวกับลูก นี่คือการเลี้ยงลูกเชิงบวก

                  “เด็กจะหยุดพูดเรื่องทั่วไปทันที เมื่อคิดว่าพ่อแม่ เอาแต่จ้องจะตำหนิ ติเตียน ทุกเรื่องที่เล่า  ทำให้เมื่อมีปัญหาเด็กเลือกไม่สื่อสารกับพ่อแม่ ทำให้เด็กเครียดและอาจหันไปใช้สารเสพติดแทนได้  โดยเริ่มจากการลองใช้ก่อน จากนั้นใช้ซ้ำ และเป็นประจำในที่สุด เกิดการเสพติด นำมาซึ่งปัญหาสุขภาพ และปัญหาการเงิน ”ผศ.นพ.วรวุฒิ กล่าว

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส.

                  นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า  สถานการณ์บุหรี่ไฟฟ้านับวันยิ่งทวีความรุนแรง และอันตรายรุกคืบเข้าไปในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีแล้ว โดยข้อมูล ปี 2568 พบว่า อัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชนเพศชาย  อายุ 15-20 ปี สูงถึง 13.4%   ,เยาวชนเพศหญิง 5.1%   ซึ่ง อัตราการสูบบุหรี่ของเยาวชนเพศหญิง พบ เพิ่มขึ้น ถึง 4 เท่า ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา  สะท้อนว่า ธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า มีเป้าหมายเป็นเยาวชน และผู้หญิง เห็นได้จากรูปลักษณ์ และกลิ่นของบุหรี่ไฟฟ้าที่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับความต้องการของวัยเด็ก และผู้หญิง ดึงดูดด้วยกลิ่นหอม

                  นอกจากนี้ ยังว่ามีความพยายาม ให้ข้อมูลว่า บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีอันตราย  หากปล่อยไปเช่นนี้ เชื่อว่ากลุ่มเยาวชนที่ริลองสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว  เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ วัยทำงาน ก็ต้องกลายเป็นคนเสพติดบุหรี่ไฟฟ้าในที่สุด

                  ขณะที่ต้นทุนค่ารักษาพยาบาลจากโรคที่เกิดจากบุหรี่ไฟฟ้าปี 2567 ของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ใน 4 โรค คือ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจขาดเลือด และโรคหอบหืด รวมสูงถึง 306,636,973 บาท

                  “ข้อมูลด้านสุขภาพเดิมคนติดบุหรี่มวน จะเริ่มแสดงอาการป่วยเมื่อสูบบุหรี่ไปนาน 10-20 ปี หรือ อายุมากขึ้น ป่วยหรือติดเตียง แต่ในบุหรี่ไฟฟ้าพบว่า เกิดผลกระทบเร็วกว่า เพียง 2-3 ปี เยาวชนที่งสูบบุหรี่ไฟฟ้า จะได้รับนิโคตินที่เข้มข้นทำลายปอด ต้องเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาล จึงเป็นสาเหตุที่ผู้ปกครอง สถานศึกษาต้องจับมือร่วมกันแก้ไขปัญหา ”นพ.พงศ์เทพ กล่าวว่า

                  ซึ่งในการร่วมแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า สสส. ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย จัดนิทรรศการมีชีวิต FAKE OR FRESH? ออกแบบเนื้อหาให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายคือ เยาวชน เป็นนิทรรศการอินเตอร์แอคทีฟ และกิจกรรมที่ชวนตั้งคำถามกับสิ่งที่เห็นและเลือกให้ถูก แบ่งออกเป็น 2 โซน คือ

                  1.โซน Tunnel Exhibition : Magic Milk เปิดประสบการณ์สำรวจบุหรี่ไฟฟ้า มี 3 ห้อง

  • ห้องแรกมีแอปเปิลสีสดใสเป็นตัวแทน แสดงถึงกลิ่นหอมเย้ายวนใจ
  • ห้องสองแสดงเบื้องหลังความสวยงามที่หลอกล่อของแอปเปิล หรืออุตสาหกรรมยาสูบที่ใส่สารพิษอันตราย
  • ห้องสามเป็นห้องมืดสนิท มีการตั้งคำถามชวนติดตามและแสดงวิดีโอเพื่อสัมผัสแสง สี เสียงที่จะกระตุ้นความคิด

                  2.โซน FACT บุหรี่ไฟฟ้า นำสรุปความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวของบุหรี่ไฟฟ้าที่มีอันตรายซ่อนอยู่ภายใต้หน้าตาแสนน่ารักหรือ Toy Pod ชวนให้รู้ทันเทรนด์ และแคมเปญการสื่อสารหลอกล่อ ราคาสุขภาพที่ต้องจ่ายและเงินออม ผู้สนใจเข้าชมได้ฟรี ทุกอังคาร-วันอาทิตย์ ตั้งแต่วันนี้-22 มิ.ย. 2568 ที่ศูนย์การเรียนรู้ ธปท.

                  ด้าน “น้องมีคุณ” ด.ช.ธนดล นาคศิริ อายุ 9 ปี ที่สนใจเข้าร่วมรับฟังนิทาน “อีเล้งเค้งโค้ง พับปลอดพอด”และชมนิทรรศการมีชีวิต FAKE OR FRESH?-MY LIFE EXHIBITION  เล่าว่า ชื่นชอบนิทานเพราะสนุก ฟังเพลิน ส่วนเนื้อหาสาระนั้น เข้าใจว่าต้องการสอดแทรกเรื่องพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า ยิ่งได้มาชมนิทรรศการ FAKE OR FRESH?  ด้วยยิ่งเข้าใจภัยของบุหรี่ไฟฟ้า เพราะควันบุหรี่ไฟฟ้าที่ออกมา แม้มีกลิ่นหอม แต่ก็อันตรายต่อปอด แล้วให้ความรู้สึกชวนอึดอัด ทุกวันนี้ เห็นผู้ใหญ่สูบบุหรี่ก็ไม่ชอบ และรำคาญคนสูบบุหรี่  ทำได้เพียงเดินหนีเท่านั้น  ทั้งนี้ตั้งใจจะไม่ริลองสูบบุหรี่ไฟฟ้าแน่นอน

                  สารเสพติดต่างๆ ไม่อาจทำอันตรายได้  หากเรา รู้จักปฎิเสธ ไม่ริลอง  แม้บุหรี่ไฟฟ้าจะไม่ทำให้เสียชีวิตทันที แต่เสมือนยาพิษที่ค่อยๆ ทำร้านทำลายเรา ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญกับการปลูกฝังชุดข้อมูลพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่เด็ก เยาวชน ตอกย้ำคำขวัญ รณรงค์ ในวันงดสูบุบหรี่โลกปี 2568 ที่องค์การอนามัยโลก กำหนดว่า “กระชากหน้ากากธุรกิจบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า : นิโคตินเสพติด จน ตาย”

Shares:
QR Code :
QR Code