นายกชี้ทุกฝ่ายร่วมมือชนะยาเสพติด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์เกี่ยวกับยาเสพติดว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด และได้กำหนดนโยบายในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเตรียมความพร้อมและการเพิ่มศักยภาพในการจัดการกับปัญหาที่ได้มีการดำเนินการ ทั้งในด้านการจัดระบบและเรื่องของข่าวกรองให้มีประสิทธิภาพ มีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการดำเนินงาน และการเสริมสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ แก่เจ้าหน้าที่และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังต่อผู้กระทำผิดในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งการกำหนดนโยบายในด้านอื่น ๆ เพื่อเอื้อต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำยุทธศาสตร์ 5 รั้ว มาใช้เพื่อเป็นการสกัดกั้นไม่ให้ยาเสพติดขยายเข้าไปในสังคมและชุมชนได้โดยง่าย
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขปัญหายาเสพติดว่า เป็นเรื่องที่จะต้องดำเนินการควบคู่กับการพัฒนาให้เท่าทันกับสภาพของปัญหา ทุกหน่วยงานจึงต้องมีการเอาใจใส่และแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ สภาพปัญหามีความรุนแรงขึ้น ในส่วนของรัฐบาลได้มีการติดตามแนวโน้มและสภาพปัญหาอย่างใกล้ชิด มีการปรับปรุงในเรื่องของแนวทางการทำงานอยู่ตลอดเวลา และผลักดันยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน ให้เข้าสู่ยุทธศาสตร์ระยะที่ 2 โดยมีเป้าหมายสำคัญ 4 ประการ ดังนี้ 1) การลดปัญหายาเสพติดในพื้นที่และกลุ่มปัญหาที่มีนัยสำคัญ 6 จุด ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคเหนือ ภาคใต้ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และมี 3 ระบบปฏิบัติการสำคัญคือ การนำผู้เสพเข้าบำบัดรักษาด้วยกระบวนการชุมชุนและประชาสังคม ซึ่งเป็นมาตรการที่สมัครใจ การบังคับบำบัดและการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดในเรือนจำ 2) การลดปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดที่เป็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนทั่วประเทศ 3) การเสริมสร้างความเข้มแข็งของกลไกชุมชน ประชาสังคมให้มีบทบาทเพิ่มขึ้น ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกจังหวัดและอำเภอ โดยมุ่งเน้น 285 อำเภอเป้าหมาย และ 4) การเสริมสร้างประสิทธิภาพของระบบกลไกและกระบวนการบริหารจัดการ ดังนั้นทุกหน่วยงานจะต้องมีความพร้อมที่จะร่วมมือดำเนินงานตามเป้าหมายให้สัมฤทธิ์ผล เหมือนกับที่ได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ 5 รั้ว ป้องกันในระยะที่ 1
สำหรับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้น ความสำเร็จจะอยู่ที่การมีส่วนร่วมของทุก ๆ ฝ่าย และสภาวะแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อสังคมที่มุ่งในเรื่องของคุณภาพ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน รัฐบาลมีนโยบายแน่วแน่ที่จะส่งเสริมสนับสนุนการมีส่วนร่วมขององค์กรและประชาชนที่ทำงานทั้งที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของยาเสพติดโดยตรงและที่เกี่ยวข้องกับเรื่องอื่น ๆ เช่น ปัญหาของเด็กและเยาวชน การเพิ่มพื้นที่ที่มีความสร้างสรรค์ พื้นที่ในเชิงบวกยังคงเป็นนโยบายสำคัญที่จะขับเคลื่อนโดยชุมชนและองค์กรต่าง ๆ สถาบันและสถานศึกษา เพื่อที่จะทำให้เด็กและเยาวชนสามารถใช้เวลาที่เป็นประโยชน์และไม่เข้าไปสู่วงจรอบายมุขและยาเสพติด
นอกจากนั้น การเดินหน้าในด้านของการประสานเพื่อให้เกิดการบูรณาการและความเป็นเอกภาพของเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ นั้น ได้มีการดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลพร้อมที่ให้การสนับสนุนส่งเสริม ทั้งในเรื่องของอุปกรณ์และบำรุงขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทางด้านยาเสพติด รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่ต้องสูญเสียจากการปฏิบัติหน้าที่ในการต่อสู้และเข้าปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติที่จะให้มีการช่วยเหลือครอบครัวของบุคคลเหล่านี้เป็นกรณีพิเศษอีกด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำอีกว่า ระยะเวลาจากนี้ไปทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อที่จะแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ประชาชนต่างวิตกกังวลและมีความห่วงใยต่อแนวโน้มของสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ที่มา : สำนักโฆษกรัฐบาล
Update : 28-06-53
อัพเดทเนื้อหาโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่